กองกำลังหลักสามกองกำลัง ได้แก่ ตำหนักจื่อ สำนักเสวียนหยางและสำนักฉางเหอ ต่างก็มีความมั่งคั่งเหมือนกัน พวกเขาได้เอาสิ่งตอบแทนที่ทำให้เหว้ยห้าวหรานพึงพอใจออกมา
แต่เมื่อถึงผู้เฒ่าจักรพรรดิยุทธ์ของประเทศเทียนหวู สิ่งที่พวกเขาแต่ละคนหยิบออกมา มีค่ามากที่สุดเทียบเท่ากับมูลค่าของหินพลังจิตชั้นกลางหนึ่งหมื่นหรือสองหมื่นก้อน
เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์เหมือนกัน สถานะและความแข็งแกร่งแตกต่างกัน ฐานะก็แตกต่างกันมาก ชั้นกลาง หนึ่งแสน สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์นั้นไม่มีค่าอะไรเลย
แต่สำหรับจักรพรรดิยุทธ์พวกสวีจิงเหนียน การนำหินพลังจิตชั้นกลางออก หนึ่งหมื่นหรือสองหมื่นก้อนก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารู้สึกเสียดายมาก
เมื่อเห็นเหว้ยห้าวหรานขมวดคิ้ว สวีจิงเหนียนและจักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา
“ไม่พอ”
เหว้ยห้าวหรานขมวดคิ้วและเหลือบมองที่ผู้เฒ่าจักรพรรดิยุทธ์ “ข้าออกมือ มีค่าเพียงหนึ่งหมื่นหรือสองหมื่นหินพลังจิตชั้นกลางหรือ?”
ว่าแล้ว เหว้ยห้าวหรานพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “บางตำหนักหรือตระกูลขอให้ข้าตั้งค่ายกล อย่างน้อยห็เจ็ดหมื่นถึง แปดหมื่นชั้นกลาง และวัสดุที่จำเป็นสำหรับค่ายกล พวกเขาจะต้องเป็นผู้ให้เอง”
นักค่ายกลนั้นหยิ่งผยอง โดยเฉพาะนักค่ายกลระดับสูง หากค่าตอบแทนที่ได้รับจากอีกฝ่ายไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้ สำหรับพวกเขาแล้วหมายถึงการดูถูก
ผู้เฒ่าจักรพรรดิยุทธ์หลายคนต่างรู้สึกอับอาย แต่พวกเขาไม่กล้าเถียง พวกเขาทำได้เพียงทนความเสียดายหยิบหินพลังจิตชั้นกลางออกมา
หลังจากได้รับค่าตอบแทนที่ทำให้เขาพอใจ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าแก่ๆของเหว้ยห้าวหราน คิดกับตัวเองว่าหากขึ้นไปในวังบนยอดเขาแล้ว ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆอีก ครั้งนี้ เขาได้เงินมามากมายแน่
...
หนึ่งในสี่สำนักใหญ่ในประเทศเทียนหวูนี้ อาจารย์เหว้ย ผู้นี้เป็นที่รู้จักในเรื่องความโลภเงิน เรื่องที่ชอบเพียงอย่างเดียวของเขาคือการรวบรวมเงินทองและสร้างหุ่นเชิดที่ทรงพลังที่สุด
ฝึกฝนค่ายกลนั้นต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาค่ายกลขนาดเล็ก ค่ายกลขนาดใหญ่ หรือหุ่นเชิดค่ายกล จะต้องใช้วัสดุจำนวนมากและเงินจำนวนมหาศาล
“ไอ้หน้าเงินเหว้ย เจ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการตั้งค่ายกล?” จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงถามด้วยรอยยิ้ม
เหว้ยห้าวหราน ยอมรับชื่อหน้าเงินนี้อย่างยินดี เขายื่นสามนิ้วออก จากนั้นจึงหยิบธงค่ายออกมาเป็นสิบกว่าธง และเริ่มตั้งธงค่าย วาดยันต์ค่ายกล
…
หลงหมิงคิดไม่ถึงว่า หลัวซิวได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ใช้เวลาเพียงสามวันก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
เมื่อหลัวซิวตื่นขึ้นมา มันกำลังจะกลืนเม็ดยาระดับ 6 ลงไป และกำลังกลั่นพลังยา
ด้วยร่างกายที่พิเศษของเผ่ามังกร ใช้เวลาเพียงวันเดียวในการกลั่นยาเม็ดระดับหก พลังจิตก็ทะยานขึ้นจากฝึกจิตขั้น 7 ไปจนถึงฝึกจิตขั้น 9 ห่างเพียงก้าวเดียวก็จะถึงราชายุทธ์แล้ว
แค่กลั่นเม็ดยาในท้องให้เสร็จ มันมีความมั่นใจเจ็ดส่วนว่าสามารถฟื้นคืนสู่ราชายุทธ์ขั้น7 ได้
แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ หลัวซิวตื่นขึ้นมาแล้ว!
ทันทีที่หลัวซิวลืมตา ฟื้นขึ้นมา เขาก็ปล่อยสำนึกออกมาเพื่อระวังสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วยสัญชาตญาณ
ภาพแรกที่เขาเห็นคือเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ เขา ใบหน้าสวยของนางซีดและลมหายใจอ่อนแรง
ทันทีที่เขาเหลือบมองครั้งที่สอง เขาก็เห็นร่างของอสูรรอบตัวเขา พวกมันน่าจะถูกฆ่าโดยหลงหมิงขณะที่พวกเขากำลังหลับ
เมื่อเขากำลังจะชมหลงหมิง จิตสำนึกของเขาก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงพลังของหลงหมิงอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...