มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 361

นางรู้ดี ผู้ชายที่สามารถได้รับอำนาจสูงในแก๊งตั้งแต่อายุยังน้อย จะต้องเป็นสมาชิกอัจฉริยะ และมีศักยภาพมาก

ภายใต้การนำของหญิงร่างสูงโปร่ง หลัวซิวมาถึงห้องหนึ่งที่อยู่ภายในของห้องลับ

ศูนย์กลางของห้อง มีแท่นศิลาอยู่แท่นหนึ่ง ด้านบนมีเครื่องประดับที่มีร่องที่สามารถใส่ตรานักล่าอสูรไปได้

นอกเสียจากตัวของหลัวซิวเองแล้ว ในห้องลับแห่งนี้ไม่มีคนอื่นอยู่อีก

บนแท่นศิลา สลักด้วยค่ายกลลายเส้นที่เต็มไปด้วยความลึกลับ หลัวซิวหยิบเอาตรานักล่าอสูรออกมา และฝังลงไปในร่องนั้น

“ฮึ่ม!”

แสงไฟส่องสว่างขึ้นจากแท่นศิลา ฉายลงบนกำแพงเบื้องหน้า โครงร่างที่คลุมเครือของใบหน้ามนุษย์ปรากฏขึ้น

“หลัวซิว สมาชิกอัจฉริยะขั้นดำชั้นสูงแห่งองค์กรนักล่ายุทธ์ ทำภารกิจกำจัดตระกูลเผยได้สำเร็จ สามารถแลกเปลี่ยนได้! รางวัลของภารกิจคือยาระดับ6หนึ่งชิ้น จงเลือก” เงาใบหน้าบนผนังพูดขึ้น

ทันใดนั้น หลัวซิวเดินขึ้นไปตรงหน้า บนแท่นศิลามีภาพของยาสามชนิดปรากฏขึ้นมา แบ่งเป็นยากลั่นจิตอัคคีม่วงสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของผลการฝึกตน ยารวมจิตเรืองอร่ามแห่งการผนึกรวมเทพจิต ยาทิพย์กระดูกเสือแห่งการชุบร่างเนื้อ

ยาระดับ6ทั้งสามชนิดนี้ ให้ผลสัมฤทธิ์ที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็สามารถทำให้พลังของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์เพิ่มขึ้นได้

ท่ามกลางยาทั้งหมด ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดคือยากลั่นจิตอัคคีม่วง ส่วนอีกสองชนิดคือยาผนึกรวมเทพจิตและยาชุบร่างเนื้อมันค่อนข้างหายากและมีค่ามากกว่า

ในตอนนี้หลัวซิวเป็นเพียงแค่แดนราชายุทธ์ขั้นหนึ่งยังอีกไกลกว่าจะบรรลุถึงถึงแดนผนึกรวมเทพจิต ดังนั้นเขาจึงยังไม่จำเป็นต้องใช้ยารวมจิตเรืองอร่าม

คาดว่าไม่มีอะไรให้น่าลังเลใจ เขาจึงได้เลือกยาทิพย์กระดูกเสือในทันที เพราะยาชุบร่างเนื้อจำพวกนี้ วัตถุดิบนั้นค่อนข้างรวบรวมได้ยาก แต่สำหรับยากลั่นจิตอัคคีม่วง วัตถุดิบหาได้ง่ายกว่า และตัวเขาเองก็สามารถกลั่นได้

“ข้าเลือกยาทิพย์กระดูกเสือ” หลัวซิวเอ่ยปาก

เมื่อสิ้นสุดเสียง แสงสว่างก็วาบขึ้นบนแท่นศิลา ตามมาด้วยขวดหยกที่มีลวดลายประณีต ปรากฏขึ้นบนแท่นศิลาตรงหน้า

นี่ทำให้หลัวซิวประหลาดใจไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าขวดหยกนี้ไม่สามารถปรากฏขึ้นเองได้จากอากาศ แต่ใช้วิธีการส่งต่อแทน เป็นการส่งต่อมาถึงที่แห่งนี้

“ไม่มีสิ่งใดต้องประหลาดใจ สี่องค์กรใหญ่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ บนเส้นทางค่ายกลนี้ เนิ่นนานมาแล้วที่วิชาค่ายกลอยู่เหนือดินแดนแห่งวิญญาณ” ที่ฝ่ามือซ้ายของหลัวซิว เสียงของวิญญาณเสวียนดำถูกส่งเข้ามา

“ค่ายกลอยู่เหนือวิญญาณ?” หลัวซิวเผยสีหน้าสับสนและไม่เข้าใจ

ค่ายกลที่เกินระดับเก้า นั่นคือค่ายกลกายสิทธิ์ ค่ายกลที่ได้รับจิตวิญญาณ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าที่เป็นเพียงแดนราชายุทธ์ตัวเล็ก ๆ ต่อให้เป็นข้าในสมัยที่เคยรุ่งโรจน์ ยังไม่เคยได้แตะต้องแดนระดับนั้น” วิญญาณเสวียนดำกล่าวเช่นนี้

กฎAttrฟ้าดิน หากได้รับจิตวิญญาณ เรียกได้ว่าคือวิญญาณแห่งฟ้าดิน

ค่ายกล ยา อาวุธและของขลัง ต่างก็สามารถเกิดจิตวิญญาณขึ้นได้และมีความสามารถอันน่าเหลือเชื่อหลายประเภท

ตามที่วิญญาณเสวียนดำบอกกล่าว ระบบค่ายกลภายในองค์กรนักล่ายุทธ์ ความเป็นจริงก็คือการจัดการของจิตวิญญาณแห่งค่ายกล

วิญญาณ คำนี้มีความลึกลับที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความหมายโดยนัยคือสัจธรรมแห่งต้นกำเนิดของสวรรค์และโลก

องค์กรนักล่ายุทธ์บันทึกข้อมูลนับไม่ถ้วนผ่านการกระทำของค่ายกล โดยใช้วิญญาณแห่งค่ายกลคอยควบคุม แต่ตรานักล่าอสูร คือสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างนักยุทธ์และวิญญาณแห่งค่ายกล

เป็นดั่งคำพูดของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ แดนระดับนั้น มันอยู่ไกลจากเขามากเกินไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ