มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 367

แดนแต่งตั้งราชา ร้อยปีจะเปิดหนึ่งครั้ง นั่นก็หมายความว่าป้ายชื่อพวกนี้จะคงอยู่ไปหนึ่งร้อยปี จนถึงหลังจะหนึ่งร้อยปี ก็จะถูกแทนทีด้วยป้ายชื่อใหม่จากแดนราชายุทธ์

เมื่อสมัยโบราณ การเปิดแดนของแดนแต่งตั้งราชา รับผิดชอบโดยสำนักรู้ฟ้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทางเหนือ แต่หลังจากเกิดภัยพิบัติในสมัยโบราณ สำนักรู้ฟ้าไม่มีอยู่อีกต่อไป ตอนนี้ควบคุมโดยสมาคมเป่ยเซี๋ยแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่

และคูเมืองแห่งนี้ ชื่อว่าเมืองแต่งตั้งราชา!

เมื่อหลัวซิวมาถึงเมืองแต่งตั้งราชา จึงได้รู้ว่าบัญชาแต่งตั้งราชาในมือนั้น เพื่อแสดงว่ามีสิทธิ์เข้าเมืองเท่านั้น หากต้องการจะเข้าร่วมแดนแต่งตั้งราชา ไม่เพียงแต่ต้องมีผลการฝึกตนอยู่ในแดนราชายุทธ์ขึ้นไป แต่ยังต้องได้รับสถานะจากกองกำลังของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ครองบัลลังก์ท่านใดท่านหนึ่งจึงจะผ่านได้

แน่นอน ผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์อิสระนั้น ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมการต่อสู้ชิงป้ายชื่อแดนราชายุทธ์ เพียงแต่จำเป็นเข้าร่วมกองกำลังชั่วคราว จากนั้นลงนามในกองกำลังนี้ ก็จะสามารถเข้าสู่หอแต่งตั้งราชา และร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชาได้

เมื่อมีผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์คนใดได้รับป้ายชื่อ กองกำลังที่เขาเป็นตัวแทน จะโด่งดังไปทั่ว และเป็นที่รู้จักของทุกคน ถึงเวลานั้นก็จะมีคนเก่งๆ มากมาย ที่เต็มใจจะเข้าร่วมกองกำลังนี้

เมื่อหลัวซิวและหลงหมิงมาถึงเมืองแต่งตั้งราชา ระยะเวลาเริ่มการต่อสู้แต่งตั้งราชา ก็เหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้ว

นอกจากนี้ยังหมายความว่า หากหลัวซิวไม่พบฝ่ายที่จะเข้าร่วมชั่วคราวภายในเดือนนี้ จะไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชาได้

“วีรบุรุษทุกท่าน พวกเราสำนักเสวียนธารายังมีที่ว่างเหลือสำหรับเข้าร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชาอีกสองที่ ผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์ที่มีใจปรารถนา โปรดมาที่ลานฝึกยุทธ์เมืองฝั่งใต้!”

เข้าเมืองได้ไม่นาน ข้อความหนึ่งก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในเมือง ผู้ฝึกยุทธ์อิสระแห่งแดนราชายุทธ์จำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกองกำลังของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อได้ยินข้อความนี้ ต่างก็พากันมุ่งหน้าไปที่ลานฝึกยุทธ์เมืองฝั่งใต้

เพราะว่ามีเพียงกองกำลังของจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งครองบัลลังก์ ถึงจะสามารถได้รับที่ว่างในการเข้าร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชา สิ่งนี้ทำให้ที่ว่างในมือของกองกำลังต่าง ๆ กลายเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างยิ่ง

ยิ่งมีกำลังมากเท่าไร ก็ยิ่งมีที่ว่างมากขึ้นเท่านั้น แต่เงื่อนไขก็มากขึ้นไปด้วยเช่นกัน อย่างน้อย ๆ จำเป็นต้องมีผลการฝึกตนของแดนราชายุทธ์ขั้นเจ็ดขึ้นไปถึงจะผ่านได้ และผลการฝึกตนของหลัวซิวและหลงหมิง ตอนนี้อยู่ที่แดนราชายุทธ์ขั้นหนึ่ง กองกำลังขนาดใหญ่เหล่านั้นไม่สนใจที่จะดูแลพวกเขา

หากพวกเขาแสดงความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมได้กับแดนราชายุทธ์ขั้นเจ็ด ด้วยความที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์อิสระ แต่กลับสามารถสู้กับศัตรูที่ต่างชั้นได้ถึงหกแดนเล็ก จะทำให้เกิดความดึงดูดได้ง่าย ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเข้าร่วมกองกำลังธรรมดา ด้วยวิธีนี้จะไม่เป็นการดึงดูดความสนใจ

จากกลางเมืองแต่งตั้งราชาหลังจากสอบถามข้อมูลมาบ้างแล้ว หลัวซิวและหลงหมิงก็ได้รู้ว่าสำนักเสวียนธาราเป็นเพียงแค่กองกำลังธรรมดาระดับสอง ในสำนักมีอาจารย์จักรพรรดิยุทธ์หนึ่งคน และมีที่ว่างสี่ตำแหน่งสำหรับการต่อสู้แต่งตั้งราชา

สองในสี่ที่ตำแหน่งนั้น เป็นของสองผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์ซึ่งเป็นศิษย์ของสำนัก อีกสองตำแหน่งที่เหลือแน่นอนว่าต้องคัดเลือกจากผู้ฝึกยุทธ์อิสระ ค้นหาแดนราชายุทธ์สองคนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ด้วยความหวังว่าจะสามารถยืมมือจากการต่อสู้แต่งตั้งราชา เพื่อเป็นโอกาสทำให้สำนักเสวียนธาราได้มีหน้ามีตา

ต้องการผู้ฝึกยุทธ์อิสระที่ต้องการเข้าร่วมการต่อสู้แต่งตั้งราชานั้นมีมากมาย แต่ตำแหน่งว่างนั้นมีเหลือเพียงสองที่ จุดหมายสุดท้ายต้องตัดสินด้วยความแข็งแกร่ง

บนลานกว้างแห่งหนึ่งในเมืองฝั่งใต้ ได้จัดตั้งเวทีประลองยุทธ์ขึ้นมาแห่งหนึ่ง และทั่วทั้งสี่ทิศยังเต็มไปด้วยค่ายกลคุ้มกันระดับหก

บริเวณใกล้เคียงของเวทีประลองยุทธ์ ได้มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก

ที่จุดลงทะเบียนสำหรับแย่งชิงที่ว่างสองตำแหน่ง มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้า ข้างๆ นั้นมีป้ายเขียนไว้ว่า ต้องการช่วงชิงที่ว่างสองตำแหน่งสำหรับการต่อสู้แต่งตั้งราชา ต้องมีผลการฝึกตนอย่างน้อยระดับแดนราชายุทธ์ขั้นห้าขึ้นไป!

กองกำลังอันยิ่งใหญ่ที่เป็นหัวกะทิทั้งหลาย ต่างก็ตั้งเงื่อนไขว่าอย่างต่ำต้องเป็นแดนราชายุทธ์ขั้นเจ็ดขึ้นไป พลังของสำนักเสวียนธาราแห่งนี้ไม่ได้แข็งแกร่ง จึงได้ลดผลการฝึกตนลงมาที่แดนราชายุทธ์ขั้นห้า นั่นก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้นเงื่อนไขนี้ก็สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์จำนวนไม่น้อยถอยทันทีที่เห็น

ท้ายที่สุดคนที่สามารถฝึกตนจนถึงแดนราชายุทธ์แดนได้ ล้วนมีพรสวรรค์อยู่แล้ว และผลการฝึกตนเมื่อบรรลุถึงแดนราชายุทธ์แล้ว ทุก ๆ ก้าวเดินในแดนต่าง ๆ ก็ยิ่งกลายเป็นความยากมากขึ้น แดนราชายุทธ์ส่วนใหญ่ ต่างก็ต่ำกว่าแดนราชายุทธ์ขั้นสาม แดนราชายุทธ์ชั้นกลางส่วนน้อยจะอยู่ที่ขั้นสี่และขั้นหก ส่วนขั้นเจ็ดขึ้นไปนั้นเรียกได้ว่าหาได้ยากทีเดียว

“แม่มเอ้ย ท่านชายหลงอย่างข้า ก็มีวันทีผลการฝึกตนต่ำเสียจนโดนดูถูกได้เลยหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ