เหยียนเยว่เอ๋อร์และหนิงเหอโจวได้ยินเสียงนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของหลัวซิว ทันใดนั้นก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปสู่ประตูมิติแห่งทางเข้าของแดนปริศนา
และในเวลานี้ ผู้ฝึกจิตปรมาจารย์ยุทธ์หลายคนที่รับผิดชอบคอยอารักขาทางเข้าของแดนปริศนา แต่ละคนมีท่าทีประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
รวมถึงภายนอกของทั้งตำหนักจื่อ ต่างก็ได้ยินเสียงที่ก้องอยู่ในอากาศ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าสับสน
“ตาย!”
ทันใดนั้น เสียงใสก้องกังวานที่แฝงไปด้วยเจตนาฆ่าก็ดังขึ้น
เหยียนเยว่เอ๋อร์บินข้ามฟากฟ้า แสงเทพจิตหงส์อัคคีสยายปีกอยู่ด้านหลังนาง ความยาวหลายสิบฟูต
เปลวเพลิงขนาดใหญ่แพร่ออกมาจากร่างกายของนาง กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง ท่วมประตูด้านนอกทั้งหมดของตำหนักจื่อ
หนิงเหอโจวมองดูนางอย่างแปลกใจ คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ที่ดูเหมือนที่ดูไม่ค่อยพูด จะโหดเหี้ยมเสียจนคิดจะทำลายล้างทุกคนที่นี่
แต่เขาไม่รู้ว่า เมื่อก่อนผู้แข็งแกร่งตำหนักจื่อบีบบังคับตระกูลเหยียนแห่งเมืองกู่เจี้ยน ก็เคยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คนตายไปรู้ตั้งกี่คน
ความแค้นฝังลึกแบบนี้ได้สะสมอยู่ในใจของเหยียนเยว่เอ๋อร์มากว่า 300 ปี เมื่อถูกปล่อยออกไปก็ควบคุมไม่ได้
เสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนดังขึ้นทีละคน แต่การแสดงออกของนางช่างเย็นเยือกแม้ว่านางจะรู้ด้วยว่าไม่มีใครมีส่วนร่วมในการสังหารพ่อแม่ของนางเมื่อสามร้อยปีก่อน แต่นางก็ไม่สามารถยับยั้งเจตนาฆ่าในใจของนางได้
“หากจะโทษ ก็ไปโทษพวกศิษย์ตำหนักจื่อของพวกเจ้าก็แล้วกัน!”
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้านนอกตำหนักจื่อถูกนางเผาจนย่อยยับ นางหันกลับมาด้วยความเย็นชา และเดินเข้าไปในประตูมิติแดนตำหนักจื่อ
วิชาห้ามค่ายกลทั้งหมดของแดนตำหนักจื่อ ต่างเป็นฝีมือของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำที่สร้างเอาไว้ในอดีต
พลังตราประทับพวกนี้ที่ใช้จัดการวิชาห้ามค่ายกล แน่นอนว่าได้ถูกสอนให้กับหลัวซิวด้วย แต่น่าเสียดายที่แดนปริศนาแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับฝึกตน ในตอนแรกนั้นไม่ได้มีการสร้างค่ายสังหารใดใดไว้เลย ไม่เช่นนั้น หลัวซิวก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสองมกุฏยุทธ์ แค่คนเดียวก็สามารถฆ่าตำหนักจื่อทุกคนได้
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”
อาจารย์มกุฏยุทธ์แห่งตำหนักจื่อมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เพราะเขาสามารถรับรู้ได้ว่า คนที่อยู่ข้าง ๆ หลัวซิวนั้น อยู่ในระดับเดียวกับตน ซึ่งก็คือผู้แข็งแกร่งแดนมกุฏยุทธ์
“ไอ้แก่ เจ้าจับท่านพ่อท่านแม่ของข้ามา ยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าข้าเป็นใคร?” หลัวซิวเผยสีหน้าเย้ยหยัน
“สามหาว กล้าดียังไงถึงไม่เคารพผู้อาวุโส?” เหล่าชาวตำหนักจื่อบนเรือรบอีกสองลำ ต่างก็มีสีหน้าโกรธเคือง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่เพียงแต่จะไม่เคารพผู้อาวุโสของพวกเจ้า แถมข้ายังจะฆ่าทิ้งอีกด้วย พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
ณ ขณะนี้ เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งได้ดังมาจากกลางอากาศ ลมปราณฝ่ามือพลังจิตแท้ถูกฟาดออกไปฉาดใหญ่ เกิดเสียงดังปัง โจมตีอย่างรุนแรงเข้าที่ดาดฟ้าเรือของเรือรบสัมริดเขียวลำหนึ่ง
ค่ายคุ้มกันขั้นห้าบนเรือรบแตกสลายในทันที พลังของฝ่ามือพลังจิตแท้ได้สร้างความหายนะ ทำเอาศิษย์ของตำหนักจื่อที่อยู่บนเรือรบนับสิบคนนั้น ร่างกายแตกละเอียดกลายเป็นละอองเลือดในทันที ทุกคนต่างตายไม่มีชิ้นดี
คนที่ลงมือนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นหนิงเหอโจวที่เพิ่งเข้ามา
“มกุฏยุทธ์อีกคนแล้ว!”
อาจารย์ตำหนักจื่อลุกขึ้นยืนทันใด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คาดไม่ถึงว่า หลัวซิวจะเชิญมกุฏยุทธ์ทั้งสองคนมาด้วย และคนที่มาทีหลังนั้น ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเขาอีกด้วย
เหยียนเยว่เอ๋อร์ลงจากกลางอากาศมายืนอยู่ข้างกายหลัวซิว ดวงตาคู่สวยฉายแสงเย็นเยียบ จ้องไปยังร่างของเจ้าตำหนักจื่อที่ยทนอยู่ด้านหลังอาจารย์ตำหนักจื่อไม่วางตา
“ถาวหยุนเชียน!” นางกัดฟันพูดชื่อของเจ้าตำหนักจื่อออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...