“แขกมากันครบแล้วเหรอ?” มีเสียงสุขุมชราภาพดังออกมาจากห้องลับอย่างกะทันหัน
“เรียนท่านบรรพชน คนของตำหนักจื่อยังมาไม่ถึง” เจ้าสำนักเสวียนหยางตอบด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
“ตาเฒ่าถาววางตัวใหญ่โตใช้ได้ ก่อนหน้านี้ข้าส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ” อาจารย์เสวียนหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เหมือนไม่พอใจที่จนป่านนี้แล้วอาจารย์ตำหนักจื่อยังมาไม่ถึง
“ท่านบรรพชน ถึงฤกษ์มงคลแล้ว”
ก่อนที่จะสิ้นเสียงคำพูดของเจ้าสำนักเสวียนหยาง ประตูหินของห้องลับเปิดออกอย่างเชื่องช้า ชายชราในชุดกี่เพ้าสีขาว มีวงแหวนสีทองลอยอยู่ตรงหลังศีรษะเดินออกมาจากห้องลับ
ชายชราคนนี้ใช้มือไขว้หลังข้างหนึ่ง บนร่างกายถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความแข็งแกร่งที่สามารถมองข้ามทุกสรรพสิ่งในใต้หล้า
เจ้าสำนักเสวียนหยางเห็นชายชราคนนี้ ร่างกายก้มต่ำลงยิ่งกว่าเดิม การที่สำนักเสวียนหยางมีทุกวันนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะการมีอยู่ของบรรพชนท่านนี้
ทว่าท่าทีที่ถ่อมตนของนาง เมื่อตกอยู่ในสายตาของอาจารย์เสวียนหยางกลับทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น “หลิงซวง พรสวรรค์ของเจ้าไม่เลว แต่หลายปีมานี้กลับยังเป็นได้แค่จักรพรรดิยุทธ์ขั้นสี่ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเพราะเหตุใด?”
“หลิงซวงไม่ทราบ ท่านบรรพชนโปรดชี้แนะ” เจ้าสำนักเสวียนหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
“นั่นเป็นเพราะจิตใจของเจ้าขาดความทะเยอทะยานของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ เมื่อไหร่ที่เจ้าไม่ถ่อมตนต่อหน้าข้าเช่นนี้ บางทีเจ้าก็อาจจะสามารถเข้าใจในจุดนี้ ถึงเวลา ผลการฝึกตนของเจ้าจะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว” อาจารย์เสวียนหยางลูบหนวดเคราของตนเองแล้วพูด
ได้ยินคำพูดแบบนี้ บนใบหน้าของเจ้าสำนักเสวียนหยางปรากฏให้เห็นอารมณ์ของความสงสัยและหวั่นเกรง “หลิงซวงไม่กล้าดูหมิ่นท่านบรรพชน ไม่ทราบว่าเหตุใดท่านบรรพชนถึงพูดเช่นนี้”
“ในฐานะเป็นผู้แข็งแกร่งจำเป็นต้องมีความทะเยอทะยาน หากไม่มีใจของผู้แข็งแกร่ง เจ้าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งได้อย่างไร? ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงจะไม่ยอมก้มหัวให้คนใดคนหนึ่ง”
อาจารย์เสวียนหยางพูดอย่างเชื่องช้า “เจ้ายิ่งยำเกรงยิ่ง ยิ่งนับถือข้าดั่งเทพ เจ้าจะยิ่งไม่มีวันก้าวข้ามข้า อีกสองร้อยปีข้าก็จะสิ้นอายุขัยแล้ว ชีวิตนี้ไม่มีหวังบรรลุถึงระดับดินแดนมหายุทธ์ การสืบทอดต่อไปของสำนักเสวียนในอนาคต จะถูกส่งมอบไปอยู่ในมือของเจ้า”
“อาจจะไม่สามารถบรรลุถึงดินแดนมกุฎยุทธ์ก่อนข้าจะดับสูญ รากฐานนับพันปีของสำนักเสวียนหยาง เกรงว่าต้องพังทลายแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ อาจารย์เสวียนหยางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ สิ่งที่สำนักและตระกูลกลัวมากที่สุดก็คือไม่มีผู้สืบทอด
สิ่งที่ควรชี้แนะก็ชี้แนะไปแล้ว เส้นทางการฝึกยุทธ์ของทุกคนแตกต่างกัน เขาไม่สามารถชี้แนะนางมากกว่านี้
"พากันเถอะ"
หลังจากสิ้นเสียง อาจารย์เสวียนหยางก้าวเท้าออกจากตำหนัก
“คำนับท่านบรรพชน!”
ทันทีที่อาจารย์เสวียนหยางเดินออกมา บนจัตุรัสที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเงียบสงบลงทันที ลูกศิษย์ของสำนักเสวียนหยางนับพันในชุดกี่เพ้าสีขาวคุกเข่าลงพื้น ตะโกนพูดเสียงดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
“คำนับท่านอาจารย์!”
แขกที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกัน
“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี” อาจารย์เสวียนหยางยิ้มเล็กน้อย สะบัดแขนเสื้อ พลังปราณที่มองไม่เห็นสายหนึ่งประคองทุกคนลุกขึ้นยืนตัวตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...