เพราะเขาตระหนักได้ว่า ตำหนักจื่อล่มสลายไปแล้ว หากเขาไม่ทำเป็นไม่มีความเกี่ยวข้องกับตำหนักจื่อ เกรงว่าตระกูลโกวคงจะมีชะตากรรมไม่ต่างกัน
“ผู้อาวุโสโกวเห็นผู้น้อยหลัวซิวเป็นเด็กสามขวบหรืออย่างไร องค์กรนักล่ายุทธ์เป็นองค์กรที่มีข้อมูลข่าวสารละเอียดมากที่สุด คุณคิดว่าผมหลอกง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ” หลัวซิวยิ้มหยัน
“อีกอย่างตามที่ผมรู้มา ท่านหัวหน้าแก๊งเหวินเซวียนหงที่เขตการปกครองหยุนหลง ก็เป็นฝีมือของตระกูลโกวไม่ใช่หรือที่ส่งคนไปทำร้ายเขา”
รอบตัวของหลัวซิวแผ่กระจายไปด้วยความอาฆาตแค้นจนทำให้ผู้อื่นรู้สึกกดดัน เขาจ้องเขม็งไปที่อาจารย์ตระกูลโกวแล้วกล่าวอย่างเน้นคำว่า “หัวหน้าแก๊งเหวินเซวียนหงเป็นผู้มีพระคุณของผม ท่านว่าความแค้นนี้ควรจัดการอย่างไรดี”
ระหว่างที่กล่าวออกมา หลัวซิวก็หันไปมองจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง “ท่านเป็นถึงหัวหน้าแก๊งใหญ่ขององค์กรนักล่ายุทธ์ในประเทศเทียนหวู แต่กลับเมินเฉินกับเรื่องนี้ ซึ่งก็ถือว่าท่านไม่ยอมทำหน้าที่เช่นกัน!”
เมื่อสิ้นประโยคนี้ จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงก็เลิกคิ้วขึ้น “นี่เป็นเรื่องของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะถาม”
เขาเป็นผู้สูงศักดิ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของแผ่นดินนี้ แม้แต่อาจารย์มกุฎยุทธ์ที่ติดหนึ่งในสามผู้มีอำนาจสูงสุดยังไม่อยากที่จะยุ่งอะไรกับเขา เพราะเขาเป็นคนขององค์กรนักล่ายุทธ์ที่ขับเคลื่อนอยู่ในแผ่นดินนี้
ส่วนหลัวซิวนั้นเป็นเพียงผู้น้อย กลับกล่าวคำพูดตำหนิตนเช่นนี้ นั่นทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาทันที
แต่จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงกลับไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะในองค์กรนักล่ายุทธ์ ระดับของขั้นอำนาจแสดงถึงฐานะที่สูงต่ำของคนแต่ละคนในองค์กร
เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ มีขั้นอำนาจในองค์กรคือขั้นดำชั้นสูง เพราะเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ในประเทศเทียนหวูแห่งนี้ ลำดับขั้นอำนาจในองค์กรเทียบเท่าได้กับระดับขั้นดินชั้นล่าง
แต่อย่างไรลำดับขั้นอำนาจของหลัวซิวกลับสูงกว่าเขา
“ผมมีสิทธิ์ถามหรือไม่นั้น ท่านก็ลองไปสืบข่าวจากสายในองค์กรดูก็แล้วกัน เดี๋ยวท่านก็จะรู้เอง” หลัวซิวกล่าวด้วยเสียงแข็งกระด้าง “หากผมเอาเรื่องนี้ไปฟ้องศูนย์หลัก ผมคิดว่าตำแหน่งหัวหน้าแก๊งใหญ่ของประเทศเทียนหวูคงจะต้องเปลี่ยนคนเสียแล้ว”
เมื่อจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงได้ยินดังนั้นสีหน้าก็แข็งชะงัก เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในความหมายในคำพูดประโยคนี้ของหลัวซิว เขากล้าพูดเช่นนี้ออกมานั่นเป็นนัยให้เห็นว่า ขั้นอำนาจของเขาจะต้องเหนือกว่าตนอย่างแน่นอน
อำนาจขั้นดินรึ
สายตาของจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงเกิดลำแสงวิบไหว และไม่ได้กล่าวโต้เถียงใดกับหลัวซิวอีก
เมื่อคนในที่นั้นเห็นผู้ที่มีฐานะสูงส่งอย่างจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงโดนหลัวซิวประชดประชันจนไม่กล้าต่อปากต่อคำออกมา จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ ในที่นั้นต่างพากันประหลาดใจ
พวกเขาพบว่ายิ่งพวกเขารู้จักหลัวซิวมากเพียงใด ก็ยิ่งพบว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา เป็นผู้ที่หาตัวจับยากและยากที่มองออก
“ไอ้จองหอง ตายซะเถอะแก!”
ในตอนนั้นอาจารย์ตระกูลโกวตัดสินใจลงมือ เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องเป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน ขอเพียงแค่เขาสังหารหลัวซิวได้ ความอันตรายทุกอย่างก็จะจบสิ้นลง และสามารถใช้เรื่องนี้เอาใจสำนักเสวียนหยางได้ด้วย จะยิ่งมีประโยชน์ต่อตระกูลโกวในวันข้างหน้า
“รนหาที่ตายเองนะ!” ริมฝีปากของหลัวซิวปรากฏรอยยิ้มดูแคลน
นักยุทธ์ของอาจารย์ตระกูลโกว คือดาบรบสีเขียวเล่มหนึ่ง มีพลังจิตแท้ Attr ไม้อบอวล เพียงแต่สิ่งที่เขาได้ฝึกตนมาไม่ใช่พลังชีวิตAttr ไม้ แต่เป็นการฝึกวิชาพิษ
Attr ไม้มีสองด้าน ด้านแรกคือการเติบโตที่มีชีวิตชีวา ส่วนอีกด้านคือรุนแรง
แต่หลัวซิวกลับไม่ได้ใช้แม้แต่กระบี่รบ เขาเพียงยกมือปล่อยภูตอัคคีกลืนกินออกไปปะทะเข้ากับไอพิษสีเขียวของดาบจนเกิดเป็นเสียงชี่ๆๆๆ ออกมา
ภายในชั่วพริบตา ไอมีดของดาบที่อาบยาพิษก็ถูกเผาจนแหลกสลายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...