ซือถูสงเป็นตาเฒ่าประหลาดระดับจักรพรรดิยุทธ์ เพียงแค่สมุนทั้งสองคน ก็ยากที่จะให้พวกนางต่อกรได้แล้ว หากคิดจะต่อสู้จริง ๆ เกรงว่าทุกคนคงต้องกลายเป็นศพนอนอยู่กลางป่าในทันที
“อะไรนะ ?”
เมื่อได้ยินคำว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ ซือถูสงผู้นั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ที่เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเทือกเขาเหิงหยุนแห่งนี้มาได้หลายปีโดยไม่ถูกกำจัด นั่นเป็นเพราะเขามีหลักการในการเอาตัวรอด สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แน่นอนว่าจะล่วงเกินไม่ได้เด็ดขาด
เขากลอกตาและคิดในใจว่า ที่นี่ไม่มีคนอื่น หากเขาฆ่าปิดปากทุกคนได้อย่างหมดจด ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่ ก็ไม่มีทางคิดออกว่าซือถูสงเป็นผู้ที่สังหารคนเหล่านี้
“ยิ่งเป็นผู้ที่เข้าตาแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่และถูกรับเป็นศิษย์ ดูเหมือนว่าแม่นางที่ข้าถูกใจผู้นี้จะต้องมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ช่างเป็นเตากลั่นยาชั้นเลิศจริง ๆ หลังจากดูดซับพลังแล้ว ผลการฝึกตนจะต้องก้าวหน้าอย่างแน่นอน”
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน
กระบี่ยุทธ์ขั้นดินกลางที่ไป๋หุ้ยเหลียนโยนออกไปเมื่อครู่ มีสมุนระดับราชายุทธ์ขั้น 4 ของซือถูสงคนหนึ่งยื่นมือออกมารับ และเสียงร้องโหยหวนนั้น ก็ดังออกมาจากปากของเขา
มือที่เขาใช้จับกระบี่ยุทธ์ขั้นดินเอาไว้ ข้อมือโค้งงอและหัก มีชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำคนหนึ่งหยิบกระบี่ยุทธ์เล่มนั้นขึ้นมา แล้วเดินออกไป
“กระบี่ของข้า เจ้ากล้าแตะต้องอย่างนั้นหรือ ?” น้ำเสียงดูถูกค่อย ๆ ดังขึ้น จากนั้นชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำก็ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงไป แสงของกระบี่เปล่งประกายออกมา
ฉึบ !
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น ราชายุทธ์ชุดคลุมยาวดำที่ร้องโหยหวนเพราะถูกหักข้อมือผู้นั้น ได้ยกมือขึ้นกุมที่คอและเดินถอยร่นไปอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาเบิกโพลง และเสียงกรีดร้องก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
กระบี่นี้รวดเร็วเสียจนกระทั่ง แม้แต่เขาซึ่งมีผลการฝึกตนระดับราชายุทธ์ขั้น 4 ต้องจบชีวิตลงโดยไม่ทันตั้งตัว !
เสียงตุบดังขึ้น ชายชุดคลุมยาวดำผู้นั้นคุกเข่าลงกับพื้น ดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์สองสามครั้ง แล้วออร่าก็ดับลง
ทันใดนั้นเอง สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
กระบี่ของข้า เจ้ากล้าแตะต้องอย่างนั้นหรือ ?
เหยียนซีโรว่ตัวสั่นในทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ นางจ้องตาเขม็งไปที่ผู้สวมใส่ชุดคลุมยาวดำผู้นั้น เพราะอีกฝ่ายหันหลังให้ตนเอง จึงมองไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจนนัก แต่ในใจกลับรู้สึกประหม่าขึ้นมา
เพราะเธอรู้แล้วว่าคนผู้นี้เป็นใคร เพราะมีเพียงเขาคนนั้น ที่จะเป็นเจ้าของตัวจริงของกระบี่เล่มนี้
เห็นได้ชัดว่าไป๋หุ้ยเหลียนเองก็รู้เรื่องนี้แล้วเช่นกัน จึงหันมองชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำผู้นั้นด้วยแววตาซับซ้อน
สองเดือนก่อน พวกนางทั้งหมดเดินทางออกจากประเทศเทียนหวู เพื่อพาเหยียนซีโรว่ไปส่งยังแดนศักดิ์สิทธิ์หยุนไห่
สาเหตุที่ไม่ใช้วิชาเหาะเหินเดินฟ้า นั่นเป็นเพราะหวังว่าระหว่างทาง จะทำให้เหยียนซีโรว่ได้มีโอกาสฝึกฝนตนเอง
ดังนั้นพวกนางจึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นที่ประเทศเทียนหวูในช่วงนี้
ม่านตาของซือถูสงหดลงด้วยความตกใจ เขาจ้องมองไปยังชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน อีกฝ่ายสามารถสังหารราชายุทธ์ขั้น 4 ได้ในชั่วพริบตา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนธรรมดา
เมื่อเขาสังเกตเห็นถึงพลังจิตแท้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายของอีกฝ่าย ซือถูสงก็หัวเราะเยาะออกมาทันที
“ก็แค่เด็กรุ่นหลังที่มีผลการฝึกตนระดับราชายุทธ์ขั้น 5 อาศัยความสามารถเพียงเล็กน้อย ก็กล้ามากระตุกหนวดเสืออย่างข้า เจ้าอยากจะรีบไปเกิดใหม่นักหรือยังไง ?”
หลัวซิวเงยมองเขา แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า : “ข้าจะไปเกิดใหม่หรือไม่นั้นไม่รู้ แต่เกรงว่าดูเหมือนเจ้าจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะกลับไปเกิดใหม่เสียด้วยซ้ำ”
ทันทีที่เห็นเหยียนซีโรว่ ความมุ่งมั่นที่มาจากจิตวิญญาณในส่วนลึกที่สุด ทำให้หลัวซิวมีเจตนาฆ่าอย่างรุนแรงต่อทุกคนที่คิดจะทำร้ายนาง
“เสี่ยวหูฆ่ามัน !” ซือถูสงส่งเสียงฟึดฟัดด้วยความโกรธ และตะโกนใส่สมุนอีกหนึ่งคนที่มีผลการฝึกตนระดับราชายุทธ์ขั้น 5
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...