เกาเหลียนหงใจเต้นรัว ถือขวดหยกที่บรรจุยาไว้อย่างระมัดระวัง ถอยออกไปจากตำหนักวัฏสงสารอย่างเคารพนับถือ
เดิมเขาคิดว่าตนเองจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีที่จะไปถึงขั้นแดนมกุฎยุทธ์ ไม่คิดว่าจะได้เจอโอกาสแบบนี้ ณ เวลานี้หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความซาบซึ้งและเกรงกลัวหลัวซิว
ซาบซึ้งที่หลัวซิวมอบโอกาสนี้ให้เขา เกรงกลัวที่แม้แต่ยามแบบนี้ยังสามารถมอบให้เขาได้ งั้นความสามารถของเจ้าสำนัก จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน?
จากนั้น หลัวซิวก็หันไปมองสวีจิงเหนียน ให้ยาที่ทำมาจากแก่นร่างทองแก่เกาเหลียนหงแล้ว สวีจิงเหนียนเองก็เป็นผู้คุมกฎ จึงจะลำเอียงไม่ได้
เห็นเพียงเขาดีดนิ้ว มีแสงเปล่งประกายออกมา ตรงหน้าสวีจิงเหนียน ปรากฏแท่นบัวทิพย์ห้าสี
“ผู้คุมกฎสวี เจ้าฝึกตนมายาวนานที่สุด จะว่าไปแล้ว พื้นฐานและศักยภาพมีจำกัด หากไม่มีเหตุบังเอิญ ชั่วชีวิตนี้เจ้าสามารถไปถึงได้มากสุดคือแดนมกุฎยุทธ์ ไม่มีความหวังมากกว่านี้” หลัวซิวพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
สวีจิงเหนียนก็รู้ว่าหลัวซิวพูดความจริง กระทั่งหากไม่มีสภาพการฝึกสอนของสำนักไท่เสวียน ที่มีหอฝึกฝนแดนปริศนา มียาให้ทุกเดือน ในชีวิตนี้เขาไม่มีโอกาสฟันฝ่าไปถึงแดนมกุฎยุทธ์ด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้เกาเหลียนหงที่เป็นผู้คุมกฎเหมือนกันได้ยาที่ทำมาจากแก่นร่างทอง ทำให้ในใจสวีจิงเหนียนตื่นเต้นอย่างมาก เขารู้ว่าในเมื่อหลัวซิวพูดเช่นนี้ ยังไงก็ยังมีความหวังแน่นอน
“ของล้ำค่าสิ่งนี้ มีชื่อเรียกว่าแท่นบัวทิพย์ห้าสี สามารถรวบรวมพลังฟ้าดินให้กลายเป็นปราณทิพย์ ปราณทิพย์สามารถชำระล้างร่างกาย ดับขจัดสิ่งสกปรก ต่อไปเจ้าฝึกฝนบนแท่นบัวทิพย์ห้าสี เวลาผ่านไปหลายปี สามารถทำให้เจ้าเกิดใหม่ได้ มีโอกาสไปสู่แดนศิลปะการต่อสู้ที่สูงที่สุด”
ได้ยินเช่นนี้ สวีจิงเหนียนแทบจะร้องไห้น้ำตาไหล เทียบกับยาแก่นร่างทองแล้ว แท่นบัวทิพย์ห้าสีนี้ ช่วยเขาได้อย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...