มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 536

นี่คือผืนป่ารกร้างที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ตามที่ปรากฏบนแผนที่ ทางเข้าสู่แดนปริศนาที่ปรากฏขึ้นแบบสุ่มในครั้งนี้ อยู่ในส่วนลึกของป่ารกร้างแห่งนี้

ในตอนที่หลัวซิวมาถึงที่นี่ แต่เป็นตอนกลางคืนแล้ว พระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า รัศมีของอสูรระดับห้ากระจายอยู่รอบตัวของสิงห์ทิพย์อัคคีอร่าม ทำให้ป่าบริเวณนี้ดูเงียบเป็นพิเศษ อสูรระดับต่ำที่เดิมทีวนเวียนอยู่บริเวณรอบ ๆ ต่างก็หนีกระเจิดกระเจิง

จากพลังการต่อสู้ของผลการฝึกตนของหลัวซิวในตอนนี้ นอกเหนือจากสถานที่อันตรายที่มีอยู่ไม่กี่แห่งพวกนั้น จะไปที่ไหนก็ได้ ในป่ารกร้างแห่งนี้ไม่มีความพิเศษอะไร มุ่งหน้าสู่ส่วนลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ได้มาถึงจุดที่ปรากฏอยู่บนแผนที่

นำเอาหยกอสูรจันทราคู่ออกมา ใช้พลังจิตแท้ขับเคลื่อนมัน ค่ายกลแห่งหนึ่งก็ได้ลอยปรากฏออกมา หลัวซิวก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล ร่างกายและค่ายกล ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา

ส่วนสิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามนั้นได้ถูกเขาปล่อยเอาไว้ให้เฝ้าคอยอยู่ด้านนอก

เมื่อปริภูมิตรงหน้าได้เปลี่ยนไป พลังจิตที่เข้มข้นก้อนหนึ่งก็ได้พุ่งเข้ามาปะทะใบหน้า ตอนที่เข้ามาในเมื่อก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้พบเห็น ตอนนี้วิญญาณตัวสำนึกไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลัวซิวสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน พลังจิตที่พลุ่งพล่านอยู่ในแดนนานาอสูร แตกต่างจากพลังฟ้าดินจิตที่อยู่ด้านนอกอย่างชัดเจน

พลังฟ้าดินจิตในที่นี้นั้น เหมือนว่าภายใต้อิทธิพลของวิชาห้ามค่ายกล มีกลิ่นอายของปีศาจรวมอยู่ด้วย ทำให้อสูรกายดูดซับมากลั่นแปรได้ง่ายขึ้น แปลงเป็นพลังอสูรกายที่พิเศษเก็บเอาไว้ในร่างกาย

และเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายที่พิเศษชนิดนี้ หลังจากที่อสูรกายในที่นี้ได้ถูกสังหาร ถึงได้รวมตัวกันเป็นลูกแก้วโลหิต และหลังจากที่ตายไปได้ไม่นาน ก็จะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งในวิชาห้ามค่ายกลของแดนปริศนาแห่งนี้

อสูรกายในแดนปริศนาแห่งนี้ ไม่ว่าจะถูกสังหารไปเท่าไหร่ หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่ง ก็จะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

สามเขตใหญ่แรก ๆ หลัวซิวไม่ได้มีการหยุดลงเลยสักนิด หลังจากที่ได้มาถึงเขตที่สี่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวังใต้ดินที่ได้พบกับหลงหมิงแห่งนั้นไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ