มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 54

“หลังจากนี้สองเดือน ผมจะเข้าร่วมการสอบเข้าสำนัก พอถึงตอนนั้นผมก็จะได้เข้าไปในสำนักเซียวเหยา เดี๋ยวพวกเราก็ได้พบกันอีก” หลัวซิวยิ้มพูด

ลู่เมิ่งเหยาเป็นใครกันแน่ เธอไม่ได้พูด หลัวซิวก็ไม่ได้ถาม

แบมือออกมา หลัวซิวก็เอากำไลอัญมณีฟ้ามาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าของทั้งสองคน “กำไลข้อมืออันนี้ ถือว่าเป็นของที่ระลึกที่เราจะแยกจากกันก็แล้วกัน วันข้างหน้าพวกเราคงจะได้พบกันอีก”

3วันผ่านไป มีคนเอาจดหมาย มาให้หลัวซิวที่บ้าน

ในจดหมายเขียนสั้นๆ ว่า “หลัวซิว ฉันจะรอนายที่สำนักเซียวเหยา ฉันจะรอนายอยู่ที่สำนักเซียวเหยา............”

หลัวซิวหายใจเข้าอย่างลึก แล้วก็เอาจดหมายใส่ไว้ในอก “ผมจะไปหาคุณแน่นอน”

วันนี้ หลัวซิวก็ออกไปจากเมืองชิงหยุน มุ่งหน้าไปยังเขาปาฉี ก่อนที่จะสอบเข้าสำนัก เขาคิดว่าจะพยายามเพิ่มพลังตนเองให้มากที่สุด

แต่ว่าตอนที่เขาเพิ่งก้าวขาออกเมืองชิงหยุนไปนั้น ก็มี3คนแอบติดตามมา มีทีมนักล่าอสูรมากมายมุ่งหน้าไปยังเขาปาฉี ดังนั้นหลัวซิวก็เลยไม่ได้สังเกต

“คนนี้ก็คือหลัวซิว ได้ยินว่าเพิ่งบรรลุแดนชี่ไห่”

“ก็แค่แดนชี่ไห่ จัดการง่ายเหมือนฆ่าหมาตัวหนึ่ง อาจารย์ให้พวกเรา3คนมาฆ่ามัน มันจะดูเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า”

“อย่าชะล่าใจไป จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย จะให้ทางเจ้าสำนักชิงหยุนจับผิดอะไรไม่ได้เด็ดขาด”

“วางใจเถอะศิษย์พี่ พวกผมเข้าใจแล้ว!”

……

ในป่าทึบ หลัวซิวเดินเบียดเข้าไป ไม่นาน วิชาท่ากลไกวิเศษก็บรรลุผล

ถึงแม้จะไม่เคยเห็นวิชายุทธ์ระดับ5มาก่อน แต่ตอนนี้สำหรับหลัวซิวแล้วนั้น วิชายุทธ์ระดับ4ไม่ได้มีความน่าลึกล้ำยากอะไรอีกแล้ว สามารถทำเข้าความเข้าใจมันได้ง่ายๆ

นอกจากวิชาท่ากลไกวิเศษที่บรรลุผลแล้วนั้น วิชาเก้ากระบี่สะท้านฟ้าก็ถูกหลัวซิวฝึกจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ ถึงขั้นแดนบริบูรณ์!

ตัวเบาดั่งนกนางแอ่น บางครั้งหลัวซิวก็เดินเหินบนอากาศได้ สามารถหยุดอยู่กลางอากาศได้ในเวลาสั้นๆ วิชาท่าร่างระดับนี้ ต่อให้เป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์บางคนก็ไม่อาจทำได้

“เจ้าสำนักยุทธ์สามารถเหาะบนอากาศได้ ไม่รู้ว่าวันไหนเราจะไปถึงระดับนั้นได้” ในใจของหลัวซิวมีความหวัง

จากพลังของเขาในตอนนี้ อสูรกายระดับ1ไม่อาจทำอะไรเขาได้แล้ว ฆ่าได้สบายๆ ดังนั้นพอเข้ามาเขาปาฉี เขาก็เลยเข้ามาในส่วนลึก คิดว่าหาอสูรระดับ2มาลองวิชาตนเองสักหน่อย

ใจกลางป่าไม่ค่อยมีทีมนักล่าอสูรเข้ามาเท่าไรนัก ต่อให้เป็นคนระดับจอมยุทธ์ชี่ไห่นำทีมมา ส่วนมากก็จะวนเวียนอยู่รอบนอกข้างใจกลางป่า

หลัวซิวปล่อยประสาทสัมผัสไป แล้วคิ้วก็ขมวด เพราะว่าสิ่งที่เขารับรู้ได้นั้น มีกลิ่นไปของจอมยุทธ์3คน กำลังเข้าใกล้ตำแหน่งของเขามาเรื่อยๆ

ไม่นาน มีวัยรุ่นรูปร่างผอมแห้ง มาปรากฏตัวตรงหน้าของหลัวซิว อายุน่าจะประมาณ20กว่าๆ จากข้อมูลที่ลายเส้นชีวิตปล่อยออก หลัวซิวก็คาดคะเนได้ว่า คนนี้น่าจะมีผลการฝึกตนอยู่ระดับชี่ไห่ขั้นห้าขึ้นไป ปราณแท้ในจุดตันเถียนเป็นของเหลว

จากนั้น ก็มีอีกสองคนโผล่ออกมา เป็นวัยรุ่นอายุ20กว่าๆ เหมือนกัน

“หือ?” พอเห็นหลัวซิวยืนอยู่บนกิ่งไม้ตรงหน้า วัยรุ่น3คนนั้นก็อึ้งๆ

“ทั้ง3ท่านตามผมมาทำไมกันแน่?” หลัวซิวถามเสียงขรึม จากบนตัวของ3คนนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความอันตราย

วัยรุ่นที่เป็นหัวหน้าสวมชุดขาว ท่าทางจะแข็งแกร่ง คาดว่าอย่างน้อยก็ประมาณวิชาชี่ไห่ขั้น7 อีกสองคนอ่อนกว่า แต่ก็มีผลฝึกตนชี่ไห่ขั้นห้า

จอมยุทธ์ชี่ไห่3คนแบบนี้ ในเมืองชิงหยุนก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือเหมือนกัน

“ไม่คิดเลยว่า มึงจะรู้ด้วยว่าพวกกูตามมึงมา แต่คนใกล้ตายอย่างมึง ก็ไม่สมควรรู้อะไรให้มันมากไปหรอก”

ในมือของวัยรุ่นชุดขาวก็เผยกระบี่ยาวแวววาวสะท้อนแสงออกมา อีกสองคนก็หยิบอาวุธออกมาเหมือนกัน คนหนึ่งถือกระบี่ คนหนึ่งถือดาบ

หลัวซิวก็กระตุกสายตา เห็นได้ชัดว่า3คนนี้จะมาฆ่าตนเอง ครั้งก่อนที่เฉินหู่นำคนมาตามฆ่า ก็เป็นการกระทำของตระกูลจาง แล้ว3คนนี้รับคำสั่งใครมากันแน่?

“ฆ่า!”

วัยรุ่นที่มีผลฝึกตนระดับชี่ไห่ขั้นห้าก็ขับเคลื่อนวิชาท่าร่าง แล้วก็บุกมายังตัวของหลัวซิว

แต่หัวหน้าที่เป็นวัยรุ่นชุดขาวไม่ได้ลงมือ มุมปากยิ้มเย็นอยู่ที่เดิม เหมือนว่าสำหรับเขานั้น เด็กน้อยพลังระดับวิชาชี่ไห่ขั้น1 ไม่คู่ควรให้เขาลงมือจัดการเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ