“โฮก!”
ทันใดนั้น เสียงคำรามของสัตว์ก็สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งป่า ทำให้หลัวซิวหูอื้อ เลือดลมในตัวก็สะเทือนกันขึ้นมา
“แค่เสียงคำรามก็มีพลังขนาดนี้ อย่างน้อยก็เป็นอสูรระดับ3ขึ้นไป!”
หลัวซิวสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย นี่คือเขาปาฉีที่มีอันตรายรอบด้าน กลิ่นคาวเลือดสามารถดึงดูดอสูรบริเวณใกล้เคียงเข้ามาได้ง่ายๆ
เขาไม่กล้าอยู่ต่อ ในขอบเขตของสัญญาณชีวิต มีกลิ่นอายของอสูรกายที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น เขารีบใช้วิชาท่าร่างออกไปจากที่นี่ทันที
ผ่านไปพักใหญ่ หลัวซิวก็มาโผล่ที่ข้างลำธารสายหนึ่ง ใช้มือช้อนน้ำขึ้นมาดื่ม และล้างหน้าด้วย
พอนึกถึง3คนนั้นที่ถูกตนเองฆ่าตาย ใบหน้าของหลัวซิวก็หน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
“จางหลู่เหลียงส่งลูกศิษย์3คนมาฆ่าเรา แล้วถ้า3คนนั้นยังไม่กลับไปสักทีล่ะก็ เขาก็ต้องสงสัยแน่ๆ พอถึงตอนนั้นเราได้ไปในสำนักเซียวเหยาคงจะเจอปัญหาไม่น้อย”
สำหรับเรื่องของนายท่านของตระกูลจางนั้น เจ้าสำนักชิงหยุนก็เคยบอกกับหลัวซิวแล้ว ว่าเป็นยอดฝีมือพลังระดับแดนพรสวรรค์ขั้น9แค่นิ้วมือเดียวก็สามารถแสดงพลังแดนชี่ไห่แบบเขาออกมาได้ง่ายๆ
หลัวซิวรู้ดี ต่อให้ตนเองต้องทำลายลายเส้นชีวิตเพื่อต่อสู้ข้ามระดับ แต่ถ้าพลังมันมากกว่าตนเองมากเกินไป ก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะว่าจอมยุทธ์ที่ยิ่งแข็งแกร่ง ลายเส้นชีวิตก็จะแข็งแกร่งไปด้วยเหมือนกัน ทำลายได้ยาก
คิ้วขมวดแน่น หลัวซิวเคยคิดว่าจะไม่ไปเข้าร่วมสอบ แต่ถ้าไม่ได้มีฐานะเป็นลูกศิษย์ของสำนักเซียวเหยา เขาก็จะไม่มีตำแหน่งอะไรในเขตการปกครองหยุนหลง พอถึงตอนนั้นนายท่านตระกูลจางจะมาเล่นงานตนเองอีก ก็จะไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย
“รู้ดีว่ามันอันตราย แต่ก็ได้แค่มุ่งหน้าไปหามันเท่านั้น” พอหลัวซิวพิจารณาแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะไปเข้าร่วมสอบ
เจ้าสำนักชิงหยุนบอกไว้ว่า ขอเพียงเขาได้เป็นศิษย์นอกสำนัก ต่อให้นายท่านตระกูลจางจะมีอำนาจ ก็ไม่กล้าทำอะไรเขา ถ้าหากว่าถูกคัดเลือกให้ถูกฝึกอย่างดี ตำแหน่งก็อาจจะอยู่เหนือนายท่านตระกูลจางนั่นได้
ส่วนพ่อแม่ของตนเอง เจ้าสำนักชิงหยุนก็รับปากไว้แล้ว ขอเพียงอยู่ในเมืองชิงหยุน ก็จะช่วยปกป้องดูแลให้ปลอดภัย เพื่อให้หลัวซิวไม่ต้องกังวลอะไร
“วิ๊ง!”
ในตอนนี้เอง หลัวซิวรู้สึกว่ากระบี่เงามืดด้านหลังสั่นๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลัวซิวตกใจเล็กน้อย แล้วก็ชักกระบี่ออก เห็นว่ารอยต่อที่ตัวกระบี่กับด้ามสลักไว้ว่า มืด เปล่งรัศมีสีดำออกมา ตัวกระบี่สั่นๆ ราวกับถูกเรียกขานให้กลับไปที่เดิมจากแดนไกล
“รับรู้ถึงเสียงเรียกงั้นหรือ?”
หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปที่ห่างไกล เขาสัมผัสได้ถึงที่มาที่ทำให้กระบี่เงามืดสั่นไหว มันมาจากทิศทางนี้
ตอนนั้นที่เขาซื้อกระบี่เงามืดมาจากร้านขายอาวุธ เจ้าของร้านบอกว่ากระบี่เล่มนี้เคยเป็นของนักล่าอสูรคนหนึ่ง ไปเจอมาจากโบราณสถานแห่งหนึ่ง
หลัวซิวคิดมาตลอดว่าเจ้าของร้านอาวุธแกล้งพูด เพื่อให้ของในร้านตัวเองมีราคาสูงขึ้น
แต่ว่ากระบี่เงามืดก็เป็นวัสดุพิเศษจริงๆ พลังเหมือนกับอาวุธชั้นล่าง แต่ต่อให้อาวุธขั้นสูงมาฟันใส่ ก็ไม่มีทางทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ให้มันได้เลย
“หรือว่ากระบี่เล่มนี้จะมีที่มาจริงๆ? แล้วการเรียกขานนี้มันคืออะไรกันแน่?” หลัวซิวชักแปลกใจ และสงสัยขึ้นมา
เก็บกระบี่เข้าฝัก หลัวซิวเดินต่อ เข้าไปในเขาปาฉีตามเสียงเรียกของกระบี่เงามืด
ในขณะเดียวกัน ก็มีหนุ่มน้อยผิวดำคนหนึ่งเดินอยู่ในป่าเหมือนกัน กระบี่ที่แบกด้านหลังก็สั่นๆ
“กระบี่สว่างสั่นไหว หรือว่าจะรับรู้ได้ว่ากระบี่มืดอยู่แถวนี้?” หนุ่มน้อยคนนี้ตาเป็นประกาย แล้วก็รีบเดินต่อไป เดินไปยังทิศทางที่กระบี่สั่นไหว
“พลังของกระบี่คู่มืดสว่าง เทียบเท่าของชั้นล่าง ระดับจอมยุทธ์พรสวรรค์ อย่างน้อยก็ต้องใช้ของชั้นกลาง คนที่ถือกระบี่มืดคงจะมีพลังไม่แข็งแกร่งมากนัก เราน่าจะแย่งชิงมาได้อยู่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...