มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 604

เจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียนผู้ยิ่งใหญ่กลับมองไม่ออกว่าเป็นใคร

ในขณะเวลาเดียวกันนั้น ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแดนที่มาชมการต่อสู้นั้น ก็สังเกตเห็นฝีมือของหลัวซิวเช่นกัน

จากแหล่งข่าวที่ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์พวกนี้ควบคุมอยู่นั้น แน่นอนว่าพวกเขาย่อมสามารถสืบประวัติความเป็นมาของหลัวซิวได้

“ผู้สืบทอดวิชายิ่งเลิศไท่เสวียนโบราณ?”

ตามความคิดของเหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ที่มีจากต่างแดนศักดิ์สิทธิ์กันนั้น การที่หลัวซิวสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่ปีนั้น ย่อมมีความข้องเกี่ยวกับการได้รับการสืบทอดมาแต่โบราณ

บางทีสำหรับนักยุทธ์ที่มีฐานะทั่วๆ ไป เมื่อได้ยินคำว่าผู้สืบทอดมาจากโบราณ ก็มักจะเกิดความละโมบขึ้นมา แต่นักยุทธ์ที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่มีความรู้สึกเช่นนี้ เพราะทักษะวรยุทธ์ระดับยิ่งเลิศนั้น ไม่ใช่สิ่งขาดแคลนในแดนศักดิ์สิทธิ์

และเพราะว่าผ่านสงครามครั้งใหญ่แต่โบราณมาก พลังจิตฟ้าดินก็เริ่มเบาบางลงกว่าอดีตที่ผ่านมาก การที่นักยุทธ์อยากบรรลุกฎจึงเป็นเรื่องยาก แม้ว่าจะได้รับพลังทักษะยุทธ์ระดับยิ่งเลิศมาก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝนไปถึงระดับสูงได้

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ในสายตาของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์พวกนี้ หลัวซิวเป็นแค่หนุ่มน้อยที่โชคดีก็เท่านั้น ในอนาคตของเขาจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่นั้นถือว่ายังเป็นเรื่องที่ยากจะตัดสิน

ในการประลองยกที่สาม เนื่องจากปี้คงที่วิญญาณหยั่งรู้ได้รับการบาดเจ็บจนสลบอยู่กับพื้น ร่างของเขาจึงหายวับไปในทันที และไม่นานหลังจากนั้นก็ไปปรากฏอยู่ที่แท่นบัวเพลิงอัคคี รอบๆ แท่นบัวพลังฟ้าดินจิตก่อตัวขึ้นหนาแน่น ทำให้บาดแผลของเขาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

และหลังจากที่หลัวซิวสามารถเอาชนะศัตรูคนที่สามได้แล้ว เขากลับยังไม่ได้ออกไปจากเวทีประลอง แต่กลับมองไปที่คนอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ถูกคัดออกของกลุ่มที่สาม

คนทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นชาย คนหนึ่งเป็นหญิง ผู้หญิงสวมใส่ชุดกระโปรงสีขาว ขับให้เห็นเรียวขางามของเธอ ดวงตากลมโตและดำสนิทเปล่งประกายแวววับด้วยความน่ารัก

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่หลัวซิวมองมาที่ตน เธอจึงยิ้มกว้างก่อนที่จะกระโดดไปข้างหน้า กระดิ่งทองที่แขวนติดตัวไว้ส่งเสียงดังสดใสน่าฟัง ก่อนจะลงมาสู่เวทีประลองยุทธ์อย่างแผ่วเบา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ