มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 619

ภายในระยะเวลาสั้นๆ ราวกับว่าหลัวซิวไม่สนใจทุกการโจมตีและเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าผามีด เขาชี้มือออกไปแทนดาบ ทันใดนั้นราวกับเจ้าผามีดโดนสายฟ้าฟาดใส่ เขากระอักเลือดแล้วกระเด็นลอยไปข้างหลัง

ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งอันไร้เทียมทานของสำนักดาบเทพพ่ายแพ้ในที่สุด

“เจ้าเก่งมาก ข้ายอมแพ้ทั้งกายและใจ” เจ้าผามีดเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกมาจากมุมปาก ตอนที่เขาบอกว่ายอมแพ้ออกมานั้น ร่างของเขากับหลัวซิวก็ได้หายวับไปจากเวทีประลองยุทธ์ทันที แล้วกลับลงมาสู่แท่นบัวเพลิงอัคคี

หลัวซิวสัมผัสได้ถึงพลังอันเข้มข้นที่ปกคลุมร่างกายของเขาไว้ ทำให้ร่างกายของเขาจะนำเอาพลังกฎการเวียนว่ายตายเกิดออกมารับมือ แต่เขากลับรู้สึกว่าพลังงานนี้ไม่มีประสงค์ร้าย จึงพยายามรีบข่มปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองเอาไว้

เมื่อกลับมายังแท่นบัวเพลิงอัคคี หลัวซิวก็มองไปยังเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวที่อยู่บนกลุ่มเมฆาไกลๆ และรู้ในตอนนั้นว่าเมื่อครู่นี้เป็นฝีมือของผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรคนนี้

“เคลื่อนย้ายคนให้ล่องหนไปได้อย่างง่ายดาย วิธีการเช่นนี้ ไม่เสียแรงที่ได้ชื่อว่าผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักร” หลัวซิวแอบคิดในใจ หากเทียบกับจอมยุทธ์จริงๆ แล้ว เขานับว่าอยู่ห่างไกลมากนัก

“ซิงซ่าย เจียงหวูจี้!”

เจ้ายุทธจักรอัคหวูซิวเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองลุกขึ้นจากแท่นบัวเพลิงอัคคีแล้วลงไปยังเวทีประลองยุทธ์

การปรากฏตัวของคนทั้งสองคนนี้ ทำให้คนทั้งสนามต่างพากันโห่ร้องขึ้นมา

เพราะว่าคนทั้งสองล้วนเป็นผู้สืบทอดจากแดนนิรันดร์

ซิงซ่ายคือผู้สืบทอดจากตำหนักดารานภาทางอาณาจักรตะวันออก ส่วนเจียงหวูจี้เป็นผู้สืบทอดจากนิกายมารศักดิ์สิทธิ์ทางอาณาจักรตะวันตก

ในด้านการฝึกตน ซิงซ่ายอยู่ในแดนมกุฎยุทธ์ขั้นเจ็ด ส่วนเจียงหวูจี้บรรลุไปถึงมกุฎยุทธ์ขั้นแปดแล้ว

เป็นผู้สืบทอดจากแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เช่นกนัน แดนฝึกตนห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่อันที่จริงแล้วนับว่าสามารถเดาผลได้ชัด

คนทั้งสองเมื่อปรากฏตัวขึ้นบนเวทีประลองยุทธ์ เจียงหวูจี้ก็ลงมือทันที ไอมารรอบกายของเขาอบอวลไปด้วยพลังแห่งความตาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ