ในขณะนั้น ลู่เมิ่งเหยาตกใจกลัวมาก เพราะนางไม่เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็ถูกคว้าข้อมือไว้ ถ้าผู้หญิงคนนี้ต้องการจะฆ่านาง นางจะไม่สามารถต้านทานได้เลยหรือ?
และเทวีหานยู่คว้าข้อมือของนางไว้ จริงๆแล้วก็เพื่อยืนยันร่างกายของนาง
แม้ว่าผลการฝึกตนของเทวีหานยู่ จะสามารถตรวรร่างกายของนางได้ด้วยตัวสำนึกของนาง แต่ร่างกายโดยกำเนิดนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงต้องยืนยันดีๆ
“สาวน้อย พรสวรรค์ของเจ้าดีมาก เจ้ายินดีจะกราบข้าในฐานะอาจารย์ของเจ้าหรือไม่?”
เมื่อลู่เมิ่งเหยากำลังตกใจกลัว เทวีหานยู่ก็ปล่อยข้อมือของนางและพูดด้วยรอยยิ้ม
ลู่เมิ่งเหยาถอยหลังสองก้าว ดูตื่นตัว “ข้าไม่รู้จักเจ้าเลย”
เมื่อเทวีหานยู่เห็นว่านางตื่นตัวมาก นางรู้ว่าถ้านางไม่เปิดเผยตัวตนของนาง นางคงจะไม่สามารถทำให้หญิงสาวคนนี้เลิกระวังตัวได้
ดังนั้นนางจึงพลิกมือและหยิบป้ายสัญลักษณ์ออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้ารู้จักสิ่งนี้หรือไม่?”
อันที่จริง ป้ายที่นางเอาออกมาเป็นป้ายลาดตระเวน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของลู่เมิ่งเหยาในตอนนั้น นางไม่รู้จักด้วยซ้ำ
“แล้วเจ้ารู้จักองค์กรนักล่ายุทธ์ไหม? ข้าเป็นสมาชิกขององค์กรนักล่ายุทธ์” เทวีหานยู่อธิบายอย่างอดทนและไม่ได้บังคับพาลู่เมิ่งเหยาไปผลการฝึกตนของนางเอง
แต่ลู่เมิ่งเหยาระมัดระวังตัวมากและไม่เชื่อใจนางง่าย ๆ จากนั้นทั้งสองก็ไปที่องค์กรนักล่ายุทธ์
ทำให้ลู่เมิ่งเหยาคาดไม่ถึงก็คือเมื่อหัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนานเห็นป้ายชื่อที่เทวีหานยู่แสดงออกมา เขาตะลึงไปในทันที จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเกรงกลัว “เสิ่นหยวนหนานคารวะท่าน!”
ในฐานะของเสิ่นหยวนหนาน เขาไม่เห็นป้ายลาดตะเวน แต่เขาเข้าร่วมองค์กรนักล่ายุทธ์มานานกว่า 10 ปี เขาได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสี่แก๊งหลักและได้เห็นรูปแบบของหัวหน้าลาดตระเวนมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...