ขึ้นเวทีทีละคนตามลำดับ และบางครั้งก็ปรากฏวิชายุทธ์ระดับ3ที่ฝึกตนถึงแดนสำเร็จน้อย จะได้รับเจ็ดคะแนน
“บรรลุผลวิชาท่าร่างระดับ4! เก้าคะแนน!”
ในขณะนี้เอง ตามด้วยเสียงประกาศของจางหลู่เหลียงหัวหน้าผู้คุมสอบ ผู้คนในเหตุการณ์ก็แตกตื่น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่บนเวที
“คือสวีผิงของเมืองสุ่ยยุ่น เขาอยู่ในการประเมินรายการที่หนึ่งก็ได้เก้าคะแนน รายที่สองก็ได้คะแนนสูงขนาดนี้!”
“จำนวนคนสามคนที่เข้าสู่นอกสำนัก ดูเหมือนว่าเขาจะต้องครอบครองหนึ่งในนั้น วิชาท่าร่างระดับ4ฝึกตนจนบรรลุผล พรสวรรค์นี้น่าทึ่งจริงๆ!”
เมื่อสวีผิงก้าวลงจากเวที ก็มีอีกคนหนึ่งที่ขึ้นมาบนเวที ซึ่งเป็นอัจฉริยะเมืองหยูซานที่เสมอกันกับสวีผิง หวางช่าน!
การขึ้นแสดงบนเวทีของเขา ทำให้สายตาของทุกคนจับจ้องมองไป เพราะว่าหวางช่านและสวีผิงทั้งสองคน เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของการประเมินขั้นปฐมภูมิในครั้งนี้
เห็นเพียงหวางช่านแสดงวิชาดาบอยู่บนเวที แสงปราณลมก็เปล่งออกมา แสงดาบก็ส่งเสียงดังกรรโชกอย่างน่ากลัว และพลังอานุภาพยิ่งใหญ่มาก
“บรรลุผลวิชาดาบะดับ4! เก้าคะแนน!”
ในกลุ่มคนก็มีเสียงอุทานดังมาอีกครั้ง หวางช่านที่มีศักยภาพในการแข่งขันการประเมินอันดับที่หนึ่ง และการแสดงออกมาให้เห็นไม่ได้แย่กว่าสวีผิง
อายุสิบห้าปีฝึกตนถึงวิชาชี่ไห่ขั้น3 แล้วก็ฝึกตนวิชายุทธ์ระดับ4ถึงบรรลุผล ผลคะแนนแบบนี้ ก็ย่อมทำให้คนประหลาดใจเป็นอย่างมาก
การทดสอบดำเนินไปอย่างช้าๆ ในที่สุด ในเวลานี้ถึงคราวที่หลัวซิวขึ้นเวทีแล้ว
สำหรับการขึ้นเวทีของหลัวซิว ในกลุ่มคนก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังมามากมาย เนื่องจากว่าในระหว่างการทดสอบผลการฝึกตนรายการที่หนึ่งของก่อนหน้านี้ จางหลู่เหลียงหัวหน้าผู้คุมสอบจะเพิกถอนสิทธิ์ในการประเมินของเขา ด้วยการปรากฏตัวที่ไม่คาดคิดของลู่เมิ่งเหยา ก่อให้เกิดปัญหามากมาย
“หลัวซิวคนนี้เป็นอัจฉริยะของสำนักยุทธ์ชิงหยุน สามารถที่จะฝึกฝนพลังหยางบริสุทธิ์ได้ พรสวรรค์น่าจะไม่เลว”มีคนพูดด้วยรอยยิ้ม
“นอกเหนือจากว่าเขาสามารถที่จะฝึกตนวิชายุทธ์ระดับ4ถึงแดนบริบูรณ์ ไม่อย่างนั้นคะแนนก็ไม่สามารถที่จะไล่ตามสวีผิงและหวางช่านทัน”ก็มีคนไม่เห็นด้วย
จางหลู่เหลียงก็จ้องมองหลัวซิวที่ประลองยุทธ์อยู่บนเวที เขาเป็นคนที่ไม่ต้องการให้หลัวซิวเข้าสู่นอกสำนักที่สุด
“เพล้ง!”
แสงดาบพุ่งขึ้นบนเวที ในทันใดนั้น แสงดาบก็ราวกับฟ้าผ่า และระบายแพร่กระจายออกไป
“วิชายุทธ์ระดับ4ถึง ……แดนบริบูรณ์!?”
ในกลุ่มผู้ชม เจ้าสำนักยุทธ์ทั้งสิบแปดเมืองต่างก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
แม้แต่ตัวของเจ้าสำนักชิงหยุนเองก็เต็มไปด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เดิมทีเขาคิดว่าหลัวซิวอย่างมากก็เป็นบรรลุผลวิชายุทธ์ระดับ4 กลับคาดไม่ถึงว่า เขาฝึกตนถึงแดนบริบูรณ์แล้ว
สิ่งที่เรียกว่าบริบูรณ์ นั่นเป็นการเข้าใจความลึกลับทั้งหมดของวิชายุทธ์สำนักหนึ่งอย่างถ่องแท้ จอมยุทธ์ของแดนฝึกชี่ไห่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำถึงขั้นนี้ได้
บางคนอาจจะคิดว่าบริบูรณ์สูงกว่าบรรลุผลไปแค่แดนเล็กหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ในความเป็นจริงช่องว่างระหว่างทั้งสองขนาดใหญ่มาก
ลู่เมิ่งเหยามองไปทางหลัวซิวที่อยู่บนเวที รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก“หมอนี่ มักจะทำเรื่องราวที่ไม่คาดคิดออกมาเสมอ”
“นี่……”สีหน้าของจางหลู่เหลียงก็ยิ่งดูไม่ดีมากขึ้น การแสดงของหลัวซิวยิ่งดีเลิศเท่าไหร่ ก็หมายความว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยคุกคามต่อเขาในอนาคตก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
“ฮ่าๆ อายุสิบสี่ปีของแดนวิชาชี่ไห่ขั้น2 ฝึกฝนพลังหยางบริสุทธิ์และบริบูรณ์วิชายุทธ์ระดับ4 เป็นต้นกล้าที่ดี!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหัวเราะเบิกบานใจในอากาศดังมา ทุกคนก็มองไปตามเสียง เห็นชายวัยกลางคนใส่เสื้อคลุมยาวสีน้ำเงิน ยืนอยู่บนท้องฟ้า และมองลงมาทางหลัวซิวบนเวที
“เจ้าสำนัก!”
“เข้าพบเจ้าสำนัก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...