“วิชาท่าร่างรำบำผีเสื้อ!”
แม้ว่าภายในใจเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยจะรู้สึกตกใจ แต่ก็มิได้หวั่นเกรง ปลายเท้าสัมผัสพื้นเบา ๆ รางบอบบางหมุนตัวกลางอากาศ ลอยตัวลงห่างออกไป
“ครืน!”
เสียงอากาศระเบิดแตกดังลอยออกไปจากเวทีประลองยุทธ์ หมัดนี้ของหลัวซิวมิได้โจมตีโดนเนี่ยเสี่ยวเตี๋ย แต่ลมพลังภายในที่เหลืออยู่นั้น ยังคงพัดพานางลอยออกไป แทบจะตกลงไปจากเวทีประลอง
“เป็นท่าร่างที่งดงามละเอียดอ่อนเสียจริง”
หลัวซิวกล่าวชื่นชม เมื่อตอนทั้งสองได้ประมือกันที่สำนักชิงหยุน ท่าร่างของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยยังไม่งดงามละเอียดอ่อนเช่นนี้ ประจักษ์ชัดว่าได้ฝึกฝนอย่างหนักหลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับตน ไม่เพียงอานุภาพของวิชาหอก แข็งแกร่งขึ้น และยังฝึกฝนจนบรรลุผลวิชาท่าร่างระดับ4
วิชาหอกระดับสี่และวิชาท่าร่างบรรลุผล หากอยู่ในการประเมินคัดเลือกศิษย์เข้าสำนักเมื่อครั้งก่อน ๆ จักต้องอยู่ในสามอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน
หากเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยท้าประลองสวีผิงหรือหวางช่านหนึ่งในสองคนนั้น ล้วนมีโอกาสที่จะเอาชนะได้
ทว่าคนที่นางเลือกท้าประลอง กลับเป็นคนที่แสดงความสามารถออกมาเพียงน้อยนิดอย่างหลัวซิว!
ดังนั้น เพียงเจ็ดกระบวนท่า เนี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็ได้หอบหายใจติดต่อกัน ได้ถูกหลัวซิวใช้วิชาท่ากลไกวิเศษร่วมกับหมัดเสือมังกรบีบจนถึงขอบเวทีประลอง
“เปรี๊ยะ!”
หลัวซิวต่อยหมัดออกไป กำลังภายในปราณแท้ไหลทะลัก สะเทือนหอก (ปืน) ยาว ทำให้ร่างของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยทรงตัวไม่นิ่งทันที แล้วตกลงไปจากเวทีประลอง
หมัดนี้ หลัวซิวไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ดังนั้นเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยถึงได้ลงสู่พื้นอย่างมั่นคง มิได้บาดเจ็บใด ๆ
ทว่า ไม่ว่าจะเป็นเจิงคุน หรือผู้ที่มีฝีมือสูงกว่าอย่างเนี่ยเสี่ยวเตี๋ย ล้วนมิอาจทำให้หลัวซิวชักกระบี่ออกจากฝักได้
“วิชากระบี่ของเขา ร้ายกาจเพียงใดกันแน่?”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวทีประลองต่างกลั้นลมหายใจจดจ่อ สำหรับกระบี่เล่มที่หลัวซิวสะพายอยู่นั้น พวกไปด้วยความสงสัย
แน่นอน มีบางคนคิดว่าที่หลัวซิวไม่ชักกระบี่ เพียงเพราะต้องการเหยียดหยามคนอื่นเท่านั้น อาศัยสิ่งนี้เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตน
ทว่ามีเพียงตัวหลัวซิวเองเท่านั้นที่ทราบ นับจากที่วิชาดาบเร็วถึงขั้นสำเร็จน้อย วิชากระบี่ของเขาได้ก้าวสู่ระดับใหม่ทั้งหมด เหนือกว่าขั้นบริบูรณ์ระดับ4 อีกมาก
กระบี่ เป็นอาวุธสังหาร เมื่อกระบี่ออกจากฝักจักต้องเห็นเลือด!
และนี่ ถึงเป็นสาเหตุที่หลัวซิวไม่ชักกระบี่ออกมา เพราะยังไงนี่ก็เป็นเพียงการทดสอบการประลองยุทธ์เท่านั้น หากมิใช่เหตุสุดวิสัยจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายผู้ใด
มิเช่นนั้น ต่อให้เป็นเนี่ยเสี่ยวเตี๋ย ก็มิอาจต้านทานกระบี่เดียวของเขาได้อย่างแน่นอน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงรับมือแปดกระบวนท่าถึงพ่ายแพ้
โดยไม่รู้ตัว การท้าประลองของผู้ที่อยู่หลังอันดับที่สามลงไปก็ได้สิ้นสุดลง
ต่อไป ก็จะเป็นการประลองระหว่างสามอันดับแรก
“ข้าถถอนตัวจากการประลอง!”
สวีผิงลุกขึ้น และเอ่ยขึ้นมาทันที
สำหรับการเลือกของสวีผิง ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างไม่แปลกใจ เขาชำนาญวิชาท่าร่าง ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะหวางช่านที่ชำนาญวิชาดาบได้ นอกจากนี้ตนได้อยู่ในสามอันดับแรกแล้ว สามารถเข้าสู่นอกสำนักเซียวเหยาได้เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องสู้สุดชีวิต
ในเวลานี้เอง เงาร่างสายหนึ่งก็ได้พุ่งกระโดดขึ้นมา และลอยตัวลงบนเวทีประลองยุทธ์
คนผู้นี้ ก็คือผู้ที่อยู่ในอันดับที่สอง หวางช่านนั่นเอง!
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ของหวางช่าน คือต้องการท้าประลองหลัวซิวอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้บรรยากาศในลานประลองดุเดือดถุงขีดสุดขึ้นมาฉับพลันทันที
“หวางช่านนั้นบรรลุผลวิชาดาบระดับ4 ว่ากันว่าที่เขาฝึกนั้นคือ《วิชาฝึกปราณแข็งสะท้าน》กำลังภายในระดับ4แห่งตระกูลหวาง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...