จากนั้นหลัวซิวก็เห็นผู้อาวุโสสองคนที่สวมชุดของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด มาถึงเมืองเทียนหัวด้วย
ผู้อาวุโสทั้งสองเดินเข้ามาดุจพญาเสือ ล้อมรอบด้วยรังสีสังหารสีเลือด ตลอดทั้งทางที่เดินมา ทำให้ผู้คนล่าถอยไป ไม่มีใครที่กล้าเข้าใกล้
เมื่อเห็นบรรดาผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้มารวมตัวกัน หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความประหลาดใจ เมื่อหาสถานที่ที่ปลอดภัยในเมืองที่หนึ่งได้ ก็ติดต่อกับภูตแห่งค่ายของสี่แก๊งใหญ่
วันนี้ในระบบขององค์กรนักล่ายุทธ์ หลัวซิวได้ครอบครองสิทธิขั้นฟ้าแล้ว จากนั้นก็อาศัยสิทธิเพื่อเรียกดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้
เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถในการรายงานขององค์กรนักล่ายุทธ์ จะสามารถมีข้อมูลในส่วนนี้ได้นั้นคงไม่ยากเกินความสามารถ
“ภูตทอง?”
เมื่อหลัวซิวได้รับข้อมูลตอบกลับจากองค์กรนักล่ายุทธ์ ก็เกิดความรู้สึกประหลาดใจขึ้นในทันที
คนจากกองกำลังใหญ่ต่าง ๆมารวมตัวกันที่เมืองเทียนหัว เพราะว่ามีคนที่นี่พบภูตทองฟ้าดิน
เพียงแต่ว่าจิตฟ้าดินนั้นต่างมีจิตวิญญาณและความชาญฉลาด เมื่อถูกคนพบเจอก็จากไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนจอมยุทธ์ที่พบเจอภูตทองนั้นมีผลการฝึกตนไม่สูง ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจับเอาไว้ได้
คนที่เข้าใจจิตฟ้าดินอย่างแท้จริงนั้นต่างรู้ดีว่า สถานที่ที่สามารถทำให้จิตฟ้าดินปักฐานได้นั้น แต่เดิมย่อมเป็นสถานที่ที่ไม่ธรรมดา แต่ในเมื่อจิตฟ้าดินมาหยุดลงตรงที่แห่งนี้ นั่นหมายความว่าสิ่งแวดล้อมในสถานที่แห่งนี้เหมาะสมกับการเติบโตของมัน
ดังนั้น เว้นแต่จะไม่อับจนหนทางจริง ๆ จิตฟ้าดินจะไม่เคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่อย่างง่ายดาย
“ที่แท้ก็มาเพราะภูตทอง” หลัวซิวรี่ตาลงเล็กน้อย
ในบรรดาจิตฟ้าดิน ภูตอัคคีพบเจอได้ยากกว่า ถูกจอมยุทธ์พูดถึงก็มากกว่าด้วย ส่วนจิตฟ้าดินอื่น ๆ เมื่อเทียบกันแล้วน้อยกว่ามาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...