“วางค่าย!”
เมื่อเห็นว่าแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์อีกคนถูกสังหาร ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์อื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึง เลยรีบเรียกทุกคนให้วางค่ายเพื่อจัดการกับหลัวซิวทันที
นอกจากแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์มากกว่าสิบกว่าคนนี้แล้ว ตำหนักอัคคีนภายังมีเจ้ายุทธจักรจำนวนมาก คนเหล่านี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการวางค่ายและสร้างค่ายกลที่ทรงพลังได้
“วางค่ายที่ดูงุ่มง่ามต่อหน้าข้าหรือ?”
หลัวซิวเยาะเย้ยดูถูก เขายืนอยู่กวางอากาศ เขายื่นนิ้วออกมาพร้อมวาดลวดลายกวางอากาศ
ค่ายกลของแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆยังไม่ได้สร้างงออกมา แต่หลัวซิวกลับได้ใช้พลังแห่งกฎและการเวียนว่ายตายเกิดวาดลายค่ายออกมาเสร็จสิ้น และค่ายมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าสามค่ายกล
“วาดลายค่ายกลางอากาศ ค่ายมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้า?”
“คุณพระ เขาฝึกตนมาเพียง 30 ปีเท่านั้นเอง พลังการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมากยังไม่พอ แต่เขายังเป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9!”
ในเวลานี้ ทุกคนตื่นตระหนกกันหมด แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ซึ่งดำรงอยู่เป็นเวลาหลายพันปีก็หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
พรสวรรค์ของหลัวซิวคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว หลังจากฝึกฝนมาเพียง 30 ปี พลังการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ และเขายังฆ่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นกลางอีกด้วย!
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือเขาได้ฝึกฝนห้วงยุทธ์ค่ายกลถึงแดนปรมาจารย์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสมัยโบราณหรือตอนนี้!
“ยังมีใครที่กล้าขวางข้า?”
ค่ายมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าสามค่ายกล สองค่ายสังหาร และหนึ่งค่ายคุ้มกัน หลัวซิวเหมือนเข้าไปในที่ที่ไร้ผู้คน เขาบินไปยังตำหนักอัคคีนภา ผู้แข็งแกร่งแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ยังคงล่าถอยเพราะกลัวเขาเพียงคนเดียว!
เมื่อกฎและการเวียนว่ายตายเกิดรวมกันเป็นหนึ่งแล้วเกิดเป็นพลังแห่งกฎดั้งเดิมที่เทียบได้กับการต่อสู้ของเทพมาร หากต่อสู้ขึ้นมา ผู้ที่สามารถหนีรอดไปได้จะไม่มากไปกว่าจำนวนนิ้วมือข้างหนึ่ง
เขายังคงวาดลายค่ายไม่หยุด ในเวลาเพียงชั่วครู่ เขาก็ได้วาดค่ายสังหารมากกว่าสิบกว่าค่ายกล ครอบคลุมอากาศหลายพันไมล์ซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักอัคคีนภา
หลัวซิวไม่สนใจที่หญิงชราคนนี้เลย เขายกมือขึ้นและทำลายค่ายยากเย็น แล้วเดินไปหาเหยียนซีโรว่
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ไป๋หุ้ยเหลียนตะคอกเสียงเย็น ในความคิดเห็นของนาง หลัวซิวมาที่นี่ เป็นการมาติดกับดักเอง เขาจะต้องไม่ทำให้พวกเขาประสบกับปัญหาด้วย
นางไปขวางทางตรงหน้าหลัวซิว แต่แล้วนางก็ปลิวไปตามออร่าที่กดขี่ข่มเหง หลัวซิวไม่ได้ทำร้ายนาง เพราะนึกถึงความเมตตาในการเลี้ยงดูที่ต่อเหยียนซีโรว่
เขาเดินไปตรงหน้าเหยียนซีโรว่ เห็นว่าใบหน้าของนางซีดเซียว สายตาเหนื่อยล้า แต่โชคดีที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บ
“ข้ามาช่วยเจ้าออกไป” หลัวซิวกล่าว
เขารู้ว่าเหยียนซีโรว่คือความยึดเหนี่ยวของตน แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติก่อน เมื่อเผชิญหน้ากับนาง เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
แต่เหยียนซีโรว่กลับพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของเขาพร้อมเริ่มร้องไห้ออกมา ในช่วงนี้ นางเผชิญกับเรื่องต่างๆมากมาย นางเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...