ด้านหลังเทวทูตจื่อเยียนคือหลิวหงเทียน จ้าวแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลัวซิวรู้สึกว่าการฝึกตนของเขาน่าจะเป็นเทพมารขั้นกลาง แล้วมีเทพมารอีกสี่คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในที่แดนเทพมารขั้นปฐมภูมิ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทพมารทั้งสี่นี้น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ประทับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่
ทั้งหกท่านนี้ยังเป็นเทพมารเพียงหกท่านที่เหลืออยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว
ยกเว้นเทวทูตจื่อเยียน หลัวซิวสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของอีกห้าคนได้
ในขณะที่หลัวซิวสัมผัสได้ถึงคนทั้งหกนี้ เทวทูตจื่อเยียนก็สัมผัสได้ถึงลมปราณของหลัวซิวจ้อง มองไปที่เขาแล้วมองข้ามไปในความว่างเปล่า สบตากับหลัวซิวที่ฝึกตนอยู่ในหอฝึกกลางในแดนปริศนา
หลัวซิวไม่แปลกใจกับการมาถึงของเทวทูตจื่อเยียน เขาแค่นึก แดนตำหนักจื่อในความว่างเปล่าก็เปิดออกเป็นช่องว่างหนึ่ง
“ช่างเป็นปราณทิพย์ที่มากมายอะไรเช่นนี้!”
เมื่อเทพมารทั้งหกเข้าสู่แดนตำหนักจื่อ พวกเขารู้สึกถึงปราณทิพย์ที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่นี้ในทันที แม้แต่ในแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่ ก็มีแดนปริศนาในการฝึกตนเช่นนี้น้อยมาก
“ค่ายผนึกปราณระดับมหาจักรพรรดิขั้นเก้าแปดสิบเอ็ดแห่ง ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว” หลิวหงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ
เทวทูตจื่อเยียนก็พยักหน้าเช่นกัน แดนปริศนาฝึกตนเช่นนี้เป็นสถานที่ที่หายากและดีในพิภพต่ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจอมยุทธ์ระดับต่ำ การฝึกฝนในสภาพแวดล้อมนี้ การบรรลุแดนจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้แต่ความสามารถที่ไม่ค่อยดีนักในตอนแรก ผลการฝึกตนก็จะสูงขึ้นโดยอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม
ที่ชั้นบนสุดของหอฝึกกลาง หลัวซิวได้ต้อนรับเทพมารทั้งหกนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...