มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 100

มาถึงชั้นบนสุดของตึกแล้ว

โถงประชุมได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์ที่แต่เติมได้จัดแจงเอาไว้ ตอนนี้ล้วนถูกเก็บกลับไปทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แปรเปลี่ยนเป็นโต๊ะราบขนาดมหึมาตัวยาวตัวหนึ่ง และบนโต๊ะนั้นก็ล้วนวางหินหยาบน้อยใหญ่จำนวนมากเต็มไปหมด

หนึ่งในนั้นที่อยู่บนโต๊ะ มีก้อนขนาดใหญ่มากอยู่เต็มไปหมด หินหยาบที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับสูงที่สุดล้วนวางอยู่ทางด้านบน และโดยรอบหินหยาบนั้น ก็มีกลุ่มคนรุมล้อมเป็นกลุ่มใหญ่เอาไว้หนึ่งชั้นเช่นเดียวกัน

เห็นเพียงแค่ขนาดใหญ่มหึมาของหินชนิดนี้แล้ว ขนาดประมาณครึ่งเมตร วัสดุด้านนอกมืดดำ ถือเป็นวัสดุที่ประณีตวิจิตร และบวกเข้ากับรูปลักษณ์ของหินเข้าด้วยกันแล้ว ทั้งก็ไม่มีรอยแตกแยกมากเกินไปเช่นเดียวกัน มีเพียงแค่รอยเล็ก ๆ รอยหนึ่งทางด้านนอกเท่านั้น ที่เผยหินหยกสีมรกตออกมาให้เห็น เป็นมรกตสุกสกาวราวกับสายน้ำที่ไหลริน

แค่มองก็ทราบแล้วว่าเป็นวัสดุมรกตที่คุณภาพสูง

หินหยาบชิ้นนี้ที่วางอยู่ตรงกลาง ผู้คนที่รุมล้อมเองก็เป็นมากเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน รูปลักษณ์โดดเด่นเป็นพิเศษ ราคาย่อมไม่ต่ำอย่างแน่นอนอยู่แล้วเฉกเช่นเดียวกัน ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่สิบล้าน

หินหยาบก้อนนี้ที่กำลังถูกผู้คนรุมล้อมอยู่ อดไม่ได้ที่จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อย ๆ ดังขึ้นมา

“รูปลักษณ์ของหินหยาบก้อนนี้ดูดีจริง ๆ เลยนะ แถมผิวเนื้อยังมันวาวพอดีอีกด้วย มองแค่ครู่เดียวก็รู้แล้วว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง แถมยังก้อนใหญ่ขนาดนี้อีก หากเปิดตรงกลางออกมา เช่นนั้นจะไม่ต้องร่ำรวยกันเลยหรือ?”

“ใช่สิ วัสดุคุณภาพสูงแบบนี้ ฉันไม่ได้เห็นมานานมากแล้วเหมือนกัน ไม่เสียแรงที่ตระเตรียมงานประมูลและประเมินของล้ำค่ากันมาเป็นปี สิ่งของทุกอย่างในที่นี้ล้วนหาพบได้ยากกันทั้งนั้น”

“ไม่ต้องพูดแล้ว หินหยาบก้อนนี้ฉันจะประมูลเอาแน่ อีกประเดี๋ยวจะกลับไปจะเปิดมรกตออก กะจะมอบเป็นของขวัญให้กับคุณปู่ของฉันน่ะ” มีคนกำลังตบทรวงอกไปมา ท่าทีเชื่อมั่นเป็นประดา

“เช่นนั้นคุณนำเงินมาพอแล้วหรือเปล่า? มรกตก้อนนี้ราคาประมูลเริ่มต้นที่สิบล้าน แต่ผมดู ๆ แล้วนะ อย่างน้อย ๆ ที่จะสามารถประมูลสำเร็จกันได้ก็ต้องสามสี่สิบล้านขึ้นไป คุณนำเงินมาไม่พอก็อย่าได้หวังเลยครับ”

ผู้รุมล้อมต่างก็พากันสนทนาวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด

“หินก้อนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ นะครับ”

ซูเคอเองก็สนใจหินหยาบก้อนนี้เช่นเดียวกัน อดไม่ได้ที่จะกล่าววิจารณ์ออกไปเล็กน้อย หินหยาบก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเช่นนี้ อีกทั้งรูปลักษณ์ยังเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูงอีกด้วย ความน่าจะเป็นไปได้มาก ๆ หนึ่งในนั้น ก็คือเป็นวัสดุหยกมรกตที่มีคุณภาพดีที่สุดนั่นเอง

“หินหยาบก้อนนี้ราคาเริ่มประมูลสิบล้าน ผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุดเท่านั้นถึงจะได้ไปครอบครองค่ะ!”

ไม่นานนัก การประมูลก็เริ่มต้อนขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ผมให้สิบเอ็ดล้าน!”

“สิบสามล้าน!”

“สิบห้าล้าน!”

เดิมทีหินหยาบก่อนนี้ก็เป็นจุดสนใจของทั่วทั้งงานอยู่แล้ว หลังจากผู้ทำการประมูลเปิดปากขึ้นมา ราคาก็ยิ่งพุ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับหินหยาบก้อนนี้นั้น ซูเคอเองก็รู้สึกว่าจำเป็นที่จำต้องได้มาครอบครองเช่นเดียวกัน ทว่าเขาไม่ได้ร้อนรนเปิดปาก รอหลังจากราคาพุ่งสูงถึงยี่สิบล้านแล้ว จู่ ๆ ก็ยกมือขึ้นกล่าวว่า “สามสิบล้านครับ!”

กระทั่งราคาเพิ่มขึ้นอีกสิบล้านแล้ว ราคาที่เกินไปเช่นนี้ทำให้ทุกคนอดที่จะตกตะลึงไปไม่ได้ ตระกูลซูนี่อวดรวยจริง ๆ สามสิบล้านก็สามารถทิ้งไปได้อย่างไม่กะพริบตา

“สามสิบล้านครั้งที่หนึ่งค่ะ!”

หลังซูเคอเปิดปากกล่าว จู่ ๆ ในกลุ่มคนก็เงียบสงบลงขึ้นมาทันที ท่าทีของซูเคอแทบจะมีท่าทางของความอยากจะครอบครองหินหยาบให้จงได้ก็ไม่ปาน หนึ่งในพวกเขาถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลชั้นหนึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยก็ตาม ทว่าหากถกกันเรื่องกำลังทรัพย์แล้วละก็ เกรงว่าไม่อาจเทียบกับตระกูลซูได้เลยจริง ๆ

“สี่สิบล้านครับ!”

เป็นในตอนนั้นเอง ที่จู่ ๆ ในกลุ่มคนก็มีเสียงดังขึ้นมาหนึ่งเสียง

สีหน้าของซูเคอพลันแปรเปลี่ยนไปในทันที เมื่อหันกลับไปมองกลับเป็นเสิ่นต้วนยู่ที่กำลังยืนอยู่ทางด้านหลังเสียอย่างนั้น!

“บ้าเอ๊ย มึงจะเอากับกูใช่ไหม?” ดวงตาทั้งสองข้างของซูเคอแดงระเรื่อ ก่อนจะชี้ไปยังเสิ่นต้วนยู่พลางก่นด่า

“การประมูลหินหยาบ เดิมทีก็เป็นผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุดเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองไป คุณไม่มีเงินจะมาโหวกเหวกโวยวายทำไมครับ?” เสิ่นต้วนยู่ยกยิ้มเย็นชาหนึ่งสาย ทว่าความหมายในคำพูดกลับมีความปรปักษ์พุ่งเป้าแอบแฝง ไม่ได้ปกปิดเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าคุณซื้อไม่ไหวก็ให้พี่ใหญ่ของคุณซื้อสิครับ”

เพื่อนข้างกายเขาเยาะเย้ยขึ้นมาหนึ่งเสียง ทั้งก็กล่าวขึ้นตามกันมาเช่นเดียวกัน

ซูเคอกัดฟันแน่น ก่อนจะรีบยกมือขึ้นอีกครั้งพลางกล่าวว่า “สี่สิบห้าล้านครับ!”

ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำราวกับโลหิต เสิ่นต้วนยู่เป็นเช่นนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลังทำให้เขาบันดาลโทสะแล้ว

“ห้าสิบล้าน!”

เสิ่นต้วนยู่ยกยิ้มราบเรียบหนึ่งสาย ไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว

เดิมทีเขาก็มาจากตระกูลหินหยกอยู่แล้ว แค่มองก็ดูออกแล้วว่าหินหยาบก้อนนี้จะสามารถแยกวัสดุหยกที่มีคุณภาพสูงออกมาได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ทั้งยังสามารถซื้อวัสดุหยกมาได้ แถมยังสามารถขัดขาซูเคอกับมู่เซิ่งได้อีกด้วย แล้วเขาจะไม่ยินดีได้อย่างไรกัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง