มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 112

“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

บรรยากาศอึมครึมหนาวเยือก ทำเอาเจียงหว่านอึ้งวาบ ฤทธิ์เหล้าหายไปมากมายกับลมหนาว

เจียงหว่านมองไปที่ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างหน้า ถามขึ้นมาว่า “พวกเขา เป็นเพื่อนนายหรือ?”

“ไม่ถึงกับเรียกว่าเพื่อน แต่รู้จักกัน” เจียงเซิ่งแค่นเสียงหัวเราะ

“ก็ได้”

ในใจเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง แต่ก็ยังผงกหัวรับ พูดเสียงเบา ๆ ว่า “งั้นฉันก็จะกลับไปก่อน นายระวังตัวหน่อยนะ”

“อือม์”

มู่เซิ่งพูดเสียงนุ่ม ๆ

เจียงหว่านหันหลังกลับวิ่งเหยาะ ๆ จากไป จนเลือนหายจากสายตา ชายชุดดำสองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้ามู่เซิ่งยังคงยืนนิ่งเฉย มองจ้องอยู่ที่มู่เซิ่ง ท่าทางสงบเงียบ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยการมุ่งฆ่า

“หมานหนิว หั่วจี คิดไม่ถึงเลยนะว่าบ้านตระกูลมู่ถึงขนาดเชิญพวกแกออกมาได้” มู่เซิ่งพูดเสียงเหยียด ๆ

สองคนที่อยู่ข้างหน้านี้ เป็นทหารรับจ้างที่เขาเคยรู้จักสมัยอยู่ชายแดน พวกนี้ไม่มีคำว่าน้ำใจ ในสายตามีแต่เงิน และตอนนี้ที่ไปเอาตัวเขาทั้งสองมาได้ นอกจากบ้านตระกูลมู่ มู่เซิ่งคิดไม่ออกว่าจะเป็นใครอื่นไปได้

สองคนผู้ชายที่ยืนอยู่นั่นคนหนึ่งสูงอีกคนผอม คนหนึ่งล่ำสันสูงใหญ่ อีกคนหนึ่งผอมเรียวดูคล่องแคล่ว

ชายล่ำปึกแสยะปากหัวเราะ “รับเงินเขามา ก็ขจัดภัยให้เขา ผมก็ไม่ได้คิดเลยว่า คนที่มู่จงหยุนจ้างให้ข้ามาเอาชีวิตนั้นกลับเป็นคุณ เงินสองร้อยล้านที่เขาจ่าย ช่างคุ้มจริง ๆ!”

หั่วจี ผงกหัว แสดงความเห็นด้วยอย่างมาก

เขาเคยเจอกับมู่เซิ่งสมัยอยู่ชายแดนหลายครั้ง และก็เคยประมือกันมา ถ้าว่ากันตัวต่อตัว น่ากลัวไม่มีใครสู้มู่เซิ่งได้ ในครั้งนี้มู่จงหยุนไม่ได้ทำเว่อร์ จ่ายเงินเป็นสองเท่า จ้างเขาให้มากันทั้งสองคน

แววตามู่เซิ่งสาดทอแลงหนาวเยือก มู่จงหยุน!ตอนนั้นที่แย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลกับคุณพ่อ ตั้งใจฆ่าล้างพวกเข้าให้สิ้นซากก็คือเขาคนนี้ ตอนนี้จะมาจัดการกับตนอีกครั้ง ถึงกับจ้างมือฆ่ามาลงมือ!

“ฉันให้พวกแกห้าร้อยล้าน พวกแกจะถอยไปไหม?” มู่เซิ่งออกปากถาม

หมานหนิว ส่ายหน้า รอยยิ้มที่เห็นอยู่ค่อย ๆ หายไป แม้อากาศรอบข้างก็ยังควบแน่น

ที่ตามมา ในวินาทีนั้น

ฟู้ว์!

กระแสลมป่วนขึ้นมาอย่างแรง

แทบจะในพริบตาเดียวกัน ทั้งสามลงมือพร้อมกัน!

ทั้งสองคนหมานหนิว กับลูกมือกำหมัดทั้งสอง โถมเข้าใส่มู่เซิ่งอย่างบ้าระห่ำ คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา ไม่มีทางที่จะให้มู่เซิ่งหลบ ได้แต่ใช้หมัดต่อหมัด รับกันไปตรง ๆ

ปึง!

พื้นดินสะท้านขึ้นวูบหนึ่ง

มู่เซิ่งกระแทกลงพื้น เซถอยไปหลายก้าว ภายใต้แสงไฟถนน ทุกก้าวที่ย่ำลงไปก็จะทิ้งรอยยุบลึกเป็นรูปฝ่าตีน

พวกเขาทั้งสองคน แต่ละคนมีพลังฝีมือระดับปรมาจารย์ศิลปะวิชาเพลงมวยเทียบได้กับโอหยางฟู่เช่อ ทั้งสองร่วมมือกัน ปะทะกันตรง ๆ มู่เซิ่งไม่มีทางจะได้เปรียบในทุกกรณี

“ไม่เจอกันสามปี พลังฝีมือของแกดูเหมือนถดถอยไปหน่อยนะ?”

หมานหนิวลูบกำปั้นไปมา แสยะปากยิ้มพูดว่า “ผมได้ยินว่า หลังจากแกออกจากหน่วยมังกรแล้ว ก็ได้ไปอยู่กับบ้านตระกูลระดับชั้นสอง ไปเกาะหากินเป็นแมงดาอยู่”

“ชิชะ เป็นถึงเทพสงครามหน่วยมังกร ดันถึงกับตกอับขนาดนี้”

หั่วจีก็ออกเสียงพูดประชดประชันอยู่ข้าง ๆ

มู่เซิ่งไม่สนใจที่จะต่อปากต่อคำ ตาทั้งคู่หนาวเฉียบ ขาขวาส่งแรงถีบลงไป เงาร่างแวบหายไปจากที่เดิม พุ่งตรงเข้าใส่หมานหนิว

“ไอ้ชิบ มาเอาผมเป็นลูกพลับสุกงอมมาขยี้เล่นรึ?”

หมานหนิวโพล่งเสียงด่าออกไป แต่สีหน้ากลับเครียดหนัก ไม่กล้าจะชะล่าใจ พลังฝีมือของมู่เซิ่งนั้นเขารู้ดีอยู่แก่ใจ การต่อสู้ติดพันกันอย่างเอาเป็นเอาตายนี้ เผลอพลาดเพียงนิดเดียว เขาก็มีสิทธิ์ต้องตาย!

ปึง!

กำปั้นของมู่เซิ่งอัดลงไปบนไหล่ทั้งสองข้างของหมานหนิว พลังมหาโหดนั้นซัดเอาเขากระเด็นลอยออกไป ขณะเดียวกันนั้น สีหน้าของหมานหนิวถูกความความสะท้านกลัวครอบเต็ม หลุดปากด่าไปว่า “ไอ้ชิบ...มู่เซิ่งแม่งเก็บอำพลังจริงไว้ หั่วจี ใช้ตัวช่วย!”

แรงของหมัดนี้ หนักไปกว่าหมัดก่อนหน้านี้อีกถึงห้าเท่าได้ แม้แต่หมานหนิว ที่จัดเป็นประเภททรงพลังก็รับกระบวนท่านี้ไม่ไหว ทำเอาใจเขาสะท้าน พลังของมู่เซิ่งในสามปีที่ผ่านมา กลับเป็นว่าไม่ได้ถอยแต่รุดหน้าขึ้น!

ปึง ปึง ปึง !

ซัดหมัดต่อเนื่องไปสามหมัด หมานหนิวโดนอัดจนถอยร่นไปติด ๆ เข่าทรุดคุกลงกับพื้น ได้แต่ปัดป้อง

ขณะเดียวกันนั้น หั่วจีก็มองดูได้แต่ตะลึงงง หวาดไหวไปสุด ๆ

เขารู้พลังฝีมือของหมานหนิวดี พลังวังชานั้นเหลือประมาณ ผลกลับเป็นถูกแรงของมู่เซิ่งบดขยี้ลงมา สองแขนคอยปัดป้องอยู่หว่างอก โดนถล่มจนไม่มีโอกาสตอบโต้

“แม่ง นี่ ไม่เสียทีที่เป็นคนมาจากหน่วยมังกร!”

หั่วจีสะบัดเสียงฮึออกจมูก ทันใดนั้นก็ชักปืนออกมาจากกระเป๋า!

มู่เซิ่งตกใจกลัวขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง