มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 114

“หายแล้ว หายแล้วจริง ๆ!”

เจียงหว่านกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น กระโดดลงจากเตียงด้วยความดีใจ สีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่งยวด

“อะไรหาย?”

มู่เซิ่งขยี้ตา สีหน้างัวเงีย ยังปรับความรู้สึกไม่ทัน

“น่องของฉันไง หายไปแล้ว รอยแผลอะไรก็ไม่มีเหลือเลย!”

เจียงหว่านดึใจแทบบ้า ยื่นน่องไปให้มู่เซิ่งดูถึงตรงหน้า แผ่นกอเอี๊ยะที่แปะอยู่ก็ถูกเจียงหว่านแกะทิ้งแล้ว เนื้อน่องขาวเนียนยังกับของใหม่เพิ่งแกะกล่อง ไม่มีให้เห็นริ้วรอยแผลเป็นเลย

“หมดปัญหาก็ดีแล้ว” มู่เซิ่งพูด นวลน่องสวยงามแบบนี้ถ้ามีรอยแผลเป็น นั่นสิน่าเสียดายแท้

“ขอบคุณคุณสามีอย่างที่สุด”

เจียงหว่านหอมแก้มมู่เซิ่งไปฟอดหนึ่ง เดินออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ระรื่น

มู่เซิ่งยังไม่ได้ตื่นดี ลูบไปที่แก้ม ปริรอยยิ้มออกมา

“เธอยิ่งวันยิ่งจะมีความคิดริเริ่มมากขึ้นแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะให้โอกาสกับฉันมั่ง ให้ชื่นใจเต็มที่จริง ๆ ซะที” มู่เซิ่งแลบลิ้นเลียปากอย่างอยากลิ้มรสละมุนนั้นจริง ๆ

เขาหารู้เลยไม่ว่า ในใจเจียงหว่านอยากให้เขาริเริ่มจนโลกจะแตกแล้ว

หลังจากเจียงหว่านออกไปแล้ว มู่เซิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จ มาถึงสโมสรรอยัลคลับ

ในขณะนั้น

บนชั้นสูงสุดของสโมสร ก็คือห้องทำงานสุดแสนหรูหรา

“ท่านหลง นี่เป็นของกำนัลที่ผมเตรียมไว้ให้ท่าน”

ไป๋หงกวงยืนอย่างพินอบพิเทาที่หน้าประตู พูดด้วยความนอบน้อม “หลังจากนี้ ในพื้นที่ของท่าน ขอท่านได้โปรดกรุณาดูแลด้วย”

ของกำนัลมูลค่านับล้านในแต่ละชิ้น วางกองอยู่เต็มโต๊ะ ท่านหลงไม่ได้ใส่ใจแม้แต่จะชายตาไปมอง เชาโบกมือไปสบาย ๆ พูดว่า “รู้แล้ว”

“ขอบพระคุณท่านหลง ขอบพระคุณท่านหลง!” ได้ยินคำตอบของท่านหลง ไป๋หงกวงดีใจแทบคลั่ง

หากได้รับการดูแลจากท่านหลง ธุรกิจเปิดใหม่ของเขา ก็จะลดปัญหาตุกติกได้มากมาย!

ในทางตรงข้าม หากท่านหลงไม่เห็นด้วย แล้วหน้าไหนที่ขืนเปิดทำธุรกิจในเขตุของเขา ที่ผ่าน ๆ มาก็อยู่ได้ไม่กี่วัน ต้องหายสาบสูญไปทั้งคนทั้งกิจการ

“ท่านหลง พี่มู่มา” และในขณะนั้นเอง เฮยเจียวเดินเข้ามาในห้องทำงาน เอ่ยปากพูดมา

“พี่มู่?”

ไป๋หงกวงขมวดคิ้วย่น เขาไม่เคยได้ยินมีคนชื่อนี้อยู่ในวงการเลย

แต่ วินาทีต่อมานั้น ปฏิกิริยาของท่านหลง ทำเอาเขาตกใจแทบจะฟันร่วง!

ท่านหลงรีบลุกขึ้นยืน พูดด้วยความเคารพสุด ๆ ว่า “เร็ว รีบไปเชิญพี่มู่เข้ามา!”

การแสดงออกบนใบหน้า เป็นความเคารพนบนอบอย่างที่ไป๋หงกวงไม่เคยเห็นมาก่อน!

หลังจากพูดเสร็จ เขาหันหน้ามองไป๋หงกวงแวบหนึ่ง พูดเสียงหนาวเฉียบว่า “แกยังมัวเซ่ออยู่ที่นี่ทำไมอีก ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?”

“ผมไปเดี๋ยวนี้แล้วครับ” ไป๋หงกวงยอมรับอย่างคนต่ำด้อย ถึงตอนนี้มีหรือจะยังไม่รู้ ผู้ที่มาเป็นแขกสูงศักดิ์ของท่านหลง?

แต่ทว่า เป็นใครกันหนอ ถึงขนาดทำเอาท่านหลงต้องต้อนรับอย่างพิธีรีตอง?

ใจพกความอยากรู้อยากเห็น เดินพ้นจากห้องทำงานแล้ว ไป๋หงกวงเห็นเงาหลังคนหนุ่มที่ยังวัยอ่อนมากคนหนึ่ง เดินเข้ามาจากประตูใหญ่

“คุณชายมู่ นายมาแล้ว”

ท่านหลงยังไล่ให้เลขาส่วนตัวออกไปเอง พูดไปอย่างพินอบพิเทา

“ถามชัดเจนหรือยัง?” มู่เซิ่งถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา กดทับอารมณ์โกรธในการพูด

เหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ ทำให้ไฟโกรธของเขายากที่จะดับได้

มีบางส่วนในบ้านตระกูลมู่จ้องจะเล่นงานเขาอยู่ตลอดเวลา คิดหวังแต่จะขจัดทิ้งให้สะใจ ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเขาที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่เรื่องต้องใส่ใจ มาหนึ่งคนฆ่าหนึ่งคน มาสองคนก็เก็บทิ้งทั้งคู่ แต่ในปัจจุบัน เขาทำไม่ได้

ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้อีก แล้วเจียงหว่านต้องถูกทำร้าย น่ากลัวเขาคงไม่ให้อภัยกับตัวเขาเองไปทั้งชาติ!

“หมานหนิว ก็ได้สารภาพออกมาหมดแล้ว คนคนนั้นชื่อเย่ปู้เฟิงเป็นลูกบุญธรรมของมู่จงหยุน ขณะนี้อยู่ที่หอจินหม่า รอการกลับของหมานหนิวกับหั่วจี ” จางเสวียนหลงพูด

สุดท้าย เขาหยุดไปพักหนึ่ง แล้วมองไปที่มู่เซิ่งอีก ถามว่า “คุณชายมู่ รอบข้างของไอ้เย่ปู้เฟิงนั่นยังมียอดฝีมืออีกหลายคน ให้พวกเราไปจัดการเลยไหม?”

“ไม่ต้องละ ฉันจะจัดการเอง เย่ปู้เฟิงมันต้องตายไม่ต้องสงสัย!”

มู่เซิ่งส่ายหน้า เดินออกจากประตูไป

ท่านหลงไม่ได้พูดอะไร มองมู่เซิ่งเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ เหตุการณ์เมื่อวานนี้เขาก็รู้อยู่บ้าง เจียงหว่านได้รับบาดเจ็บเพื่อมู่เซิ่ง ตอนนี้ จำเป็นต้องปล่อยให้เป็นเวลาของเขาในการระบายความเจ็บแค้นแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง