“มาแล้วหรอ”
มู่เซิ่งมองไปยังชายฉกรรจ์ สูงหนึ่งร้อยแปดสิบ ที่ยืนอยู่หน้าประตู แล้วพูดอย่างยิ้มๆ
อันที่จริงเขาได้เตรียมใจไว้แล้วว่าชายฉกรรจ์ผู้นี้เอาเงินไปแล้วต้องหายตัว ถึงอย่างไรมันก็แค่เงินห้าแสน เขาต้องเจอกับเรื่องลำบากทุกข์ร้อน ถึงทำให้คุกเข่านานขนาดนั้น
เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ ชายฉกรรจ์ผู้นี้ได้ฝังพ่อของเขาไปแล้วจริงๆ แล้วกลับมาหาเขา
“เจ้านายครับ ผมจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าต้องกลับมา”ชายฉกรรจ์พยักหน้าอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเขามีแววเศร้าสร้อยเล็กน้อย
มู่เซิ่งกล่าว“นายไม่ต้องเรียกฉันว่าเจ้านายหรอก เรียกฉันว่ามู่เซิ่งก็พอ นายมีเรื่องทุกข์ยากอะไร บอกกับฉันได้เลยนะ ถ้าฉันช่วย ฉันจะช่วยเต็มที่”
“ผมชื่อเตาจั๋วครับ คุณชายมู่ เงินห้าแสนนี้ ทำให้ผมสามารถฝังพ่อผมได้อย่างเต็มภาคภูมิ มันเป็นการช่วยผมมากพอแล้ว”ชายฉกรรจ์ก้มหน้าพูด
มู่เซิ่งหัวเราะ แล้วกล่าวว่า“เอาล่ะ ถึงยังไงตอนนี้นายก็ตัวคนเดียว งั้นก็ตามฉันกลับเจียงหนานแล้วกัน ฉันจะหางานให้นายทำเอง”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของชายฉกรรจ์ผู้นี้ก็มีน้ำตารื้นออกมา
เดิมทีเขาทำงานใต้ดิน เป็นนักมวยเถื่อน เพียงแต่เพราะครั้งนี้ เขาไม่ยอมล้มมวย ดังนั้นจึงถูกเจ้านายเตะออกจากสนาม เจ้านายยังมาทำร้ายพ่อของเขา หลังจากที่เขารู้เรื่องนี้ เจ้าของสนามมวยใต้ดิน ก็คว้าเอาเงินก้อนใหญ่ หนีออกจากเยียนจิงไปแล้ว
เตาจั๋วรู้สึกโกรธมาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้ มาวันนี้ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดียว ทำได้เพียงแค่คุกเข่าอยู่ข้างถนน ขอทานเพื่อเอาเงินมาจัดงานศพให้พ่ออย่างเต็มที่
ตอนนั้น เขาคุกเข่าอยู่ข้างถนนหนึ่งวันเต็มๆ ไม่มีใครยอมช่วยเขาแม้แต่คนเดียว นอกจากหัวเราะเยาะเขาว่าโง่ ก็ไม่มีใครเลย มีเพียงแค่มู่เซิ่งที่เดินผ่านมา ทิ้งบัตรATMไว้ให้เขาใบหนึ่ง
เงินพวกนี้สำหรับมู่เซิ่งแล้ว มันไม่มีค่าอะไรเลย แต่สำหรับเตาจั๋วแล้ว มันกลับเป็นทั้งชีวิตของเขา!ลูกหลานอยากเลี้ยงดูพ่อแม่แต่พ่อแม่กลับรอไม่ถึงวันนั้น เขาไม่สามารถดูแลพ่อให้ดีได้ หวังแค่เพียงว่าจะสามารถฝังศพพ่ออย่างสมศักดิ์ศรีได้ ไม่เช่นนั้น ชาตินี้เขาคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“คุณชายมู่ครับ ผมเป็นนักมวยตั้งแต่กำเนิด มีเพียงฝีมือชกต่อย ขอแค่คุณเอ่ยปาก ผมจะทำตามคำสั่งเลยครับ!”
เตาจั๋วโขกหัวคำนับเขาหนึ่งครั้งอย่างแรง
มู่เซิ่งพยักหน้า ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เตาจั๋วเพิ่มหนึ่งใบ
ทั้งสองนั่งแท็กซี่ เดินทางไปยังสนามบิน
สำหรับเตาจั๋วคนผู้นี้ พลังกำลังน่าตกใจมาก เป็นนักมวยตั้งแต่กำเนิด หากตั้งใจอบรมบ่มเพาะ อาจจะกลายเป็นมือซ้ายมือขวาที่ไม่ธรรมดาก็เป็นได้ เพียงแต่ว่า ตอนนี้เขายังมีภารกิจสำคัญ จะต้องเอาเขาฝากไว้ที่ท่านหลงสักพัก
บ่ายวันนั้น ในบริษัทของท่านเจียงสาม เจียงมู่หลงกับเจียงเทาฉินและคนอื่นๆนั่งอยู่ในห้องทำงาน บรรยากาศตึงเครียดมาก
“ไปถามที่มู่ซื่อกรุ๊ปรึยัง?”เจียงมู่หลงนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธาน ด้วยท่าทีของผู้นำ
“พวกเขายังไม่ตกลงครับ แม้แต่เอกสารยังโยนออกมาพร้อมกันเลยครับ”เจียงเทาฉินกล่าว
เจียงมู่หลงสีหน้าเย็นชา เขาตบโต๊ะแล้วตะโกนด่า“ดูท่าเจียงหว่านผู้นี้จะปีกกล้าขาแข็ง ไม่เห็นเราอยู่ในสายตา!หรือเธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตระกูลเจียงเหมือนกัน”
“จริงด้วย เจียงหว่านทำเกินไปแล้ว”
“ผู้นำครับ คุณจะต้องคิดหาวิธีนะครับ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เงินทุกของบริษัทต้องมีปัญหาแน่ๆครับ ช่วงก่อนหน้านี้ ท่านเจียงสามได้หยุดพักโปรเจ็คอื่นๆ เพื่อที่จะสามารถจัดการโปรเจ็คของเขตซีไห่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”
คนสกุลเจียงคนอื่นๆต่างพากันออกความเห็น
หากเสียโปรเจ็คเขตซีไห่นั้นไป
บริษัทจะไม่มีแหล่งกำไรอีกต่อไป อีกทั้ง คู่ค้าคนอื่นๆ เหมือนจะได้ข่าวนี้ แต่ละคนจึงเริ่มพากันปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเจียงมู่หลงกันหมด
“นังแพศยา นังตัวดี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...