“ใช่ ๆ ๆ รีบเปิดกระดาษจดข้อความนั่นดู”
เหล่าบรรดาญาติต่างรีบชิงพูด
พวกเขาก็สงสัยกันอยู่มาก ในกระดาษจดข้อความนั้น จะเขียนอะไรไว้มั่ง
จ้าวลิ่วป๋อเรียกสติคืนมาได้ หยิบเอากระดาษจดข้อความนั้นขึ้นมาดู ข้างในเขียนไว้ว่า “สุขสันต์วันเกิดครับคุณปู่ ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่พอจะแสดงถึงความเคารพ ส่งมาแทนลูกเขยของท่าน”
“ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ?” จ้าวลิ่วป๋ออ่านตัวหนังสือ เล่นเอาใจสะดุ้ง
นี่มันอำพันทะเลราคาแปดพันล้านนะ ถ้าหากว่าของขวัญระดับนี้ ยังจัดว่าเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วคนที่ส่งของขวัญนี้มา จะเป็นใครมีที่มาขนาดไหน?
เขาคงไม่มีทางรู้ได้ว่า เดิมทีของขวัญที่กู่ชิงเสวียนเตรียมจะให้กับจ้าวลิ่วป๋อนั้น ยิ่งจะเป็นที่ฮือฮากันทั้งงาน และราคาสูงล้ำกว่านี้อีกมาก เพียงแต่ว่าเมื่อวานเจอมู่เซิ่งเข้า โดนอบรมตำหนิเรื่องการใช้จ่ายที่เอิกเกริกฟุ่มเฟือยกันเกินไป กลับไปถึงได้ให้คุณปู่ของเธอเปลี่ยนส่งเป็นอำพันทะเลตัวนี้ แต่ตัวเองก็ไม่กล้ามาที่นี่เอง
ผ่านเหตุการณ์เมื่อวานนี้แล้ว ตอนนี้ตัวเธอเอง ยังคิดไม่ตกเลยว่าจะวางสีหน้าท่าทีรับหน้ามู่เซิ่งท่าไหน
“เพื่อนสนิทของหลานลูกเขย?ท่านปู่จ้าว จะเป็นลูกเขยของหลานสาวของท่านส่งมาให้งั้นหรือ?”
“ฉันก็ไม่รู้สิ ข้างบนเขาเขียนไว้อย่างนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ” จ้าวลิ่วป๋อก็พูดด้วยความรู้สึกมืดมน
สายตาของทุกคนมองไปที่มู่เซิ่งอย่างเอะใจ คิดจะค้นหาความจริง เผื่อจะรู้เรื่องจากการแสดงออกบนใบหน้าของเขา
แต่ทว่าบนใบหน้ามู่เซิ่งคงมีแต่ความเฉยเมย สำหรับของขวัญชิ้นนี้ ดูเหมือนจะรู้อยู่แก่ใจแล้ว
เหล่าบรรดาญาตินั้นต่างรู้สึกอัศจรรย์ใจขึ้นมาในพลัน พูดกันออกมาอย่างไม่คิดจะเชื่อว่า “นี่ จะเป็นไปได้ยังไง?อำพันทะเลราคาตั้งแปดสิบกว่าล้าน จะใช่มู่เซิ่งมอบให้จริงหรือ?”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” จ้าวหลินพูดอย่างหน้าชื่นตาบาน
ในสายตาของเธอ เชื่อแน่นอนว่ามู่เซิ่งต้องการให้เธอได้หน้า จึงตั้งใจส่งของขวัญชิ้นนี้มา
อีกอย่าง ระดับอย่างมู่เซิ่ง ต้องอยู่ในฐานะที่จัดให้ได้แน่นอน
จ้าวเหมยเหมยมีปฏิกิริยาโต้ตอบทันที ปฏิเสธการกล่าวอ้างของจ้าวหลินอย่างสิ้นเชิง “เฮอะ ๆ ไอ้ลูกเขยขยะบ้านเธอคนนั้นรึ ตัวเองยังต้องขออาศัยกินอยู่ที่บ้านเลย จะไปเอาปัญญาที่ไหนมาส่งของขวัญล้ำค่าขนาดนี้? เธออย่ามัวฝันกลางวันอยู่เลย”
“ใช่แล้ว มู่เซิ่งเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่มีงานทำ มันก็คือพวกเศษขยะเกาะชายกระโปรงหากิน คนแบบนี้ไม่มาขอเงินที่บ้านเราก็ว่าดีแล้ว แล้วจะมีเงินที่ไหนไปซื้อของขวัญอีก?”
เจียงหว่านขมวดคิ้วย่น
เธอไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อมู่เซิ่งจะซื้ออำพันทะเลนี้ได้ แต่เป็นเพราะมู่เซิ่งได้ซื้อของขวัญให้มาแล้ว ถึงแม้ถ้าเขาคิดจะให้เพิ่มอีกสักชิ้น ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำลับ ๆ ล่อ ๆ และไม่คิดปรึกษากับตัวเองมัง?
“ไอ้ขยะ แกไม่คิดจะพูดอะไรเองมั่งเลยหรือ?” จ้าวเหมยเหมยพูดอย่างเหยียด ๆ
ในใจของเธอนั้น มั่นใจอยู่แต่แรกแล้ว งานนี้ไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับมู่เซิ่ง
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ ก็ต่างเงียบเสียงลงทันที พวกเขาก็อยากรอดู มู่เซิ่งจะว่ายังไง
“ท่านปู่จ้าว นี่เป็นของที่เพื่อนของผมส่งแทนผมมาให้จริง ๆ ท่านรับไว้เถอะ” มู่เซิ่งผงกหัว แล้วพูด
“ซืด!”
เสียงพูดจบ
ทั่วทั้งห้องพิเศษนี้ แว่วยินแต่เสียงเฮือกที่เย็นหนาวจากการสูดหายใจ
อะไรแม่งนี่!
เป็นมู่เซิ่งส่งให้จริง ๆ ด้วย?
“ไอ้เศษขยะ แกนี่หน้าด้านจริง ๆ ของระดับนี้ เป็นของบ้านแกส่งให้ได้ยังไง!” จ้าวเหมยเหมยยิ้มเยาะเย้ยไม่หยุด เอ่ยปากพูดประชดอีกว่า “บ้านแกมีฐานะยังไง ตัวเองยังไม่รู้รึไง?”
“เหอ ๆ หรือไม่ใช่ของลูกเขยบ้านฉันส่งให้ แต่เป็นของลูกเขยบ้านเธอส่งหรือไง?” จ้าวหลินย้อนว่าเข้าให้
“แล้วทำไมจะไม่ได้?ฉันจะบอกเธอให้นะ จริง ๆ ก็บ้านฉันนี่แหละให้มา!”
“เริ่มแรก ฉันก็ไม่อยากพูดหรอกนะ แต่ว่า ไม่คิดว่าเธอจะน่าด้านขนาดนี้ เอาของที่ลูกเขยข้าให้มา อ้างไปเป็นของตัวเองให้ จ้าวหลิน ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นแบบนี้ไปได้”
จ้าวเหมยเหมยดึงเฉินเสวียลี่เข้ามาพูดว่า “เสวียลี่บ้านฉันนี่นะ เขารู้จักกับเจ้าของโรงแรมไป๋ต้านี่นะ ของขวัญชิ้นนี้ น่าจะต้องเป็นของเขาให้มา”
ของขวัญมูลค่าแปดสิบกว่าล้าน ทำเอาใจของเฉินเสวียลี่ยังสะท้าน แต่มาตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าคนมากมาย ถูกจ้าวเหมยเหมยเชิดขึ้นมาจนหาทางลงไม่ได้ จึงได้แต่แกล้งทำเป็นผงกหัวพูดไปอย่างมั่นใจว่า “ใช่ครับ ผมรู้จักกับเจ้าของโรงแรมไป๋ต้านี้จริง ๆ”
“ได้ยินหรือยัง เฉินเสวียลี่รู้จักแต่คนใหญ่คนโต อย่างแกไอ้ขยะนี่ รู้จักมั้ย?” จ้าวเหมยเหมยพูดอย่างหน้าชื่นหน้าบาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...