“ของของตระกูลกู่ ใช่หรือที่เศษเดนอย่างแกจะเอามาพูดส่งเดชได้?”
เสียงของหลี่หรานหนาวเยือก ทำเอาคนอึดอัดหายใจไม่ออก
พวกญาติที่วางท่าโอหัง ทำหยิ่งผยองสุด ๆ เมื่อก่อนหน้านี้ เห็นสถานการณ์ตอนนี้ แต่ละคนสงบเงียบเป็นจักจั่นจำศีล ให้แม้แต่เฉินเสวียลี่เอง ก็ตกใจจนไม่กล้ากระดิกตัว ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่มุมข้าง ๆ
ความตื่นตระหนกในใจ ต้องเรียกว่าหวาดกลัวถึงที่สุด!
หลี่หรานถ้าเห็นว่าเขาเป็นเพื่อน เขาก็ได้เป็นเพื่อนของหลี่หราน ถ้าหลี่หรานไม่เห็นเขาเป็นเพื่อน เขานี่แม้แต่ลมตดยังไม่ใช่เลย!
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่หรานให้ความช่วยเหลือเขามานานนม ต่อให้เป็นบุญคุณยิ่งใหญ่เทียมฟ้า ก็คืนเขาไปได้แทบไม่เหลือเศษแล้ว
“ยังมีใคร ใครบอกว่าของของตระกูลกู่นั้นเป็นขยะ?” หลี่หรานกวาดตาที่หนาวเยือกออกไป
พวกที่ได้ส่งเสียงพูดกัน ต่างตัวสั่นกันไปพลัน ก้มหน้านิ่งไม่กล้าออกเสียง ในเขตอำเภอซานเซี่ยง ถ้าหากใครถูกหลี่หรานเพ่งเล็งเข้าให้ นั่นแปลได้ว่าเขาเลิกคิดที่จะอยู่ทำมาหากินที่นี่อีกต่อไปแล้ว
“ท่านกู่แห่งตระกูลกู่?ท่านคือ......”
จ้าวลิ่วป๋อที่นั่งในตำแหน่งประธานชะงักอึ้ง เขาเป็นคนวิสัยทัศน์ต่ำต้อย ไม่รู้จักเลยกับชื่อเสียงของบ้านตระกูลกู่
“สายสาแหรกตระกูลอิทธิพลเล็ก ๆ ไม่พอที่จะพูดถึงกัน” กู่มู่สวีนยิ้มชืด ๆ
สายสาแหรกตระกูลอิทธิพล?
ได้ยินคำที่พูด คนทุกคนตัวสั่นกันงก ๆ
พวกเขาถึงวิสัยทัศน์จะไม่กว้างไกล แต่ก็เข้าใจดี ถึงนิยามของคำว่าตระกูลอิทธิพล ว่าอะไรคือตระกูลอิทธิพล?ร้อยปีคือตระกูลสืบทอด พันปีคือระดับอิทธิพล ต่อให้เอาตระกูลอันดับหนึ่งทั้งหมดในเจียงหนานรวม ๆ กัน ก็ยังไม่พอให้หนึ่งตระกูลอิทธิพลใส่ใจมองเลย
ถึงแม้ว่า ตระกูลกู่จะเป็นเพียงสายสาแหรกตระกูลอิทธิพล แต่โดยฐานะแล้ว ก็เหยียบข้ามมากหลายของตระกูลอันดับหนึ่งไปแล้ว
บรรดาญาติในตระกูลจ้าวต่างอึ้งทึ่งกันในใจ ไม่คิดเลยว่า เมืองเขตเล็ก ๆ อย่างอำเภอซานเซี่ยง กลับยังมีสายสาแหรกตระกูลอิทธิพลปรากฏตัวมาได้ แต่ทว่า ในภาพเหตุการณ์ต่อไปนี้นี่สิ เป็นเหมือนฟ้าผ่ากลางวัน ใส่ลงกลางใจของทุกคนที่อยู่ที่นั่น
ภาพที่เห็นคือกู่มู่สวินเดินเข้าไปข้างหน้ามู่เซิ่ง พูดด้วยสีหน้าไม่สบายใจว่า “คุณมู่ ต้องขอประทานโทษ มาคราวนี้ทำเอาคุณเสียหายหมดเลยมั้ย?เป็นเพราะนังลูกไม่รักดีที่บ้านผมนั่นตื๊ออาละวาด ลากจนผมต้องมา”
กู่มู่สวินยิ้มแหย ๆ พูด ตัวเขาเองไม่รู้เรื่องจริง ๆ ว่าเจ้าของงานแซยิดที่จะมาอวยพร จะเป็นคุณตาของเจียงหว่าน กระทั่งเขาเองเกือบทำคุณบูชาโทษ เพิ่มความเดือดร้อนให้มู่เซิ่งไปอีก
เรื่องนี้จึงทำให้ในใจเขานั้น ต้องหวาดไหวเป็นอย่างมาก
ทว่า ภาพที่ญาติตระกูลจ้าวเห็นอยู่นี้ ทุกคนตะลึงงันยืนเซ่อกันไปหมด
เฉินเสวียลี่ที่ยืนเซ่ออยู่ที่มุมผนังห้อง ก็ยิ่งดูเหมือนตกใจจนขวัญกระเจิงหมดแล้ว!
เมื่อกี้นี้แตกตื่นผวากับฐานะของตระกูลอิทธิพล ตอนนี้ดูลึกลงไปอีก สายสาแหรกตระกูลอิทธิพล ให้ความยำเกรงกับมู่เซิ่งถึงขนาดนี้เลยเชียวหรือ?หรือหมายถึง ฐานะของมู่เซิ่ง เทียบกับกู่มู่สวีนแล้วยังเหนือชั้นไปกว่าอีก?
เป็นไปได้ยังไง!
เฉินเสวียลี่กลัวจนเหงื่อกาฬแตกท่วมตัว
นัยน์ตาของเขาทอแต่ประกายความไม่อยากเชื่อ ลูกเขยประเภทบ่าวแต่งเข้าบ้านของตระกูลเจียง ไอ้ขยะตัวหนึ่งที่รู้จักกันทั่วของคนทั่วไปในเจียงหนาน ถูกจ้าวเหมยเหมยดูถูก ถากถางเหยียดหยาม แม้คำตอบโต้ยังไม่กล้าออกปาก แต่กลับทำให้กู่มู่สวีนก้มหัวให้ได้
“ใช่เลยเพราะเขา แท้ที่จริงทั้งหมด เพราะเขานี่แหละ!”
เฉินเสวียลี่พึมพำอยู่กับตัวเอง มาถึงตอนนี้เขาจึงได้เข้าใจ ทำไมถังเสี่ยวเยว่ถึงได้เคารพนบนอบถึงขนาดนั้น ส่วนมู่เซิ่งนั้น ทำไมมีเงินมากมายขนาดนั้น ถึงขนาดซื้อเสื้อผ้าที่จำกัดขายเฉพาะที่ของGUGCแบบยกเหมาหมดรวดเดียวได้
นี่ไม่ใช่เลยที่จะเป็นแบบที่จ้าวเหมยเหมยพูด หาว่าสาเหตุมาจากที่เจียงหว่านได้งานโครงการเขตซีไห่ ตรงกันข้าม ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นได้จากมู่เซิ่งอยู่เบื้องหลัง!
คนที่ถูกบ้านตระกูลจ้าวเรียกว่าไอ้ขยะคนนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ใช่ขยะ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ชายที่กระทบกระทั่งไม่ได้เลยเด็ดขาด!
เฉินเสวียลี่ที่คิดจนรู้เข้าใจทั้งหมดแล้ว ทันใดนั้นก็ก้าวพรวดพราดเข้าไป มาถึงข้างหน้ามู่เซิ่ง คุกเข่าลงไปดื้อ ๆ โขกหัวลงไปพลางพูดกับมู่เซิ่งว่า “คุณมู่ ผมจะตัดขาดจากถงเสว่เหมยเดี๋ยวนี้เลยแล้วครับ เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับผมเลย ได้โปรดเถอะนะผมขอคุณ กรุณาไว้ชีวิตผมด้วย”
การคุกเข่าลงไปของเฉินเสวียลี่ ไม่ผิดกับลูกระเบิดลูกหนึ่ง เกิดระเบิดขึ้นมาที่ตระกูลจ้าว
ถงเสว่เหมย ได้ยินเข้าดังนั้น ก็ลนลานขึ้นมาทันที “เสวียลี่ คุณพูดอะไรนั่น พวกเราแยกทางกันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...