“เจียงมู่เฉิง พรุ่งนี้ประธานกรรมการบริษัทคนใหม่จะมาแล้วนะ นายยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกหรอ?”เวลานี้เอง มีลูกหลายของคนแซ่เจียงชื่อว่าเจียงปู๋นิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน
“แกรู้ได้ยังไง?”เจียงมู่หลงขมวดคิ้วถาม
ประธานกรรมการคนใหม่จะมา นั่นหมายความว่าบริษัทนี้ เขาไม่สามารถตัดสินใจได้อีกต่อไป และเขาหวังว่าเขาจะได้นั่งเก้าอี้ประธานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
“แน่นอนว่าเฝิงจงเหลียง”เจียงปู๋นิ่งกล่าว
“เฝิงจงเหลียง เขามีสิทธิ์อะไรมาแทรกแซงเรื่องในบริษัทของเรา?”เจียงมู่หลงรู้สึกโมโหมาก เขากระแทกกำปั้นลงกับโต๊ะของประธานกรรมการบริษัท จนแก้วน้ำบนโต๊ะตกลงพื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
เจียงปู๋นิ่งไม่สนใจ พูดต่อไปว่า“พรุ่งนี้เขาจะเข้ามาบริษัท เพื่อร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวกรรมการบริษัท ถึงเวลานั้นจะมาประกาศปัญหาเรื่องของการเลิกจ้างพนักงาน เจียงมู่หลง นี่เป็นตำแหน่งกรรมการบริษัทนะ ถ้านายทำมันพัง พรุ่งนี้เตรียมไสหัวออกไปได้แล้ว!”
ตอนนี้ ถึงแม้เจียงมู่หลงจะยังเป็นผู้นำของตระกูลเจียง แต่ในสายตาของลูกหลานตระกูลเจียงพวกนี้ เขาไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรนานแล้ว
สถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาอยากเอาใจเฝิงจงเหลียงประธานคนใหม่ เพื่อเป็นแมลงเม่าอยู่ในบริษัทต่อไป นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
“ฉันขอเตือนนาย ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นซะเถอะ ไม่อย่างนั้น แกจะไม่มีแม้แต่ข้าวให้กิน”หลังจากเจียงปู๋นิ่งพูดจบ ก็เดินออกจากห้องทำงานของประธานกรรมการบริษัท
“บัดซบ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ตำแหน่งนี้ จะถูกคนอื่นมานั่งแทนที่ ตระกูลเจียงนั่น จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ?”
เจียงมู่หลงดวงตาแดงก่ำ คำรามอยู่ในห้อง
ตระกูลเจียงเป็นตระกูลชั้นสองในเจียงหนาน อาศัยบริษัทของท่านเจียงสามทั้งหมด แต่ตอนนี้บริษัทเปลี่ยนผู้ถือหุ้นแล้ว ตระกูลเจียงของพวกเขาแทบจะเป็นที่น่าขบขันในแวดวงสังคมในเจียงหนาน!
กระทั่งคุณชายนับไม่ถ้วนที่เคยเป็นเพื่อนเมื่อก่อน ล้วนรังเกียจที่เจียงมู่หลงตกอับ เริ่มทำตัวเหินห่างกับเขา!
“บัดซบ บัดซบเอ้ย!”
เจียงมู่หลงก่นด่าหยาบคายด้วยความโกรธ และกวาดสิ่งของทั้งหมดบนโต๊ะลงบนพื้น เอกสารต่างๆเปื้อนน้ำจนเละเทะไปหมด พรมแบรนด์เนมที่อยู่ตรงพื้นเป็นวงกว้าง
เจียงปู๋นิ่งที่ฟังอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง จนกระทั่งเจียงมู่หลงโยนเอกสารพวกนั้นลงถังขยะไป แล้วหัวเราะอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานไป
เรื่องแบบนี้ถือเป็นหายนะสำหรับ เจียงมู่หลง แต่เขาไม่สนใจ รวมถึงคนในตระกูลเจียง เขารู้แค่ว่าสามารถอยู่ต่อไปในบริษัทได้ก็เพียงพอแล้ว
“เจียงปู๋นิ่ง เจียงมู่หลงว่ายังไง เขายอมส่งมอบตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทไหม?”
ลูกหลานตระกูลเจียงที่ยืนรออยู่หน้าประตูบริษัทตั้งนาน เมื่อไม่เห็นว่าเจียงปู๋นิ่งออกมา เขาจึงรีบเดินเข้ามาถาม
“เขาจะยอมได้ยังไง แต่ดูท่าทางขี้ขลาดปอดแหกนั้น พรุ่งนี้คงจะยอมส่งมอบอย่างว่าง่ายแหละมั้ง”เจียงปู๋นิ่งกล่าว
“ก็จริง ประธานเฝิงเป็นคนสานสัมพันธ์โดยตรงเลยนะ เขากล้าไม่ส่งมอบงั้นหรอ!”
“หวังว่าเขาจะเจียมตัวหน่อย แบบนี้เขายังพอมีตำแหน่งอยู่ในบริษัทต่อไปได้บ้าง ถ้าเจียงมู่หลงรนหาที่ตาย กล้าปะทะกับประธานคนใหม่ คงไม่รู้ว่าเขาจะตายยังไง!”
“เห้อ หวังว่าจะไม่ทำให้เราติดร่างแหไปด้วยนะ”
“เจียงไห่เชา ไปคุยกับลูกชายหน่อยสิ พรุ่งนี้ให้เขาเจียมตัวหน่อย ไม่อย่างงั้น ประธานคนใหม่จะไม่พอใจตระกูลเจียงของเราเพราะเขานะ แล้วไล่เราออกยกทั้งตระกูลจะทำยังไง?”เวลานี้เอง มีลูกหลานตระกูลเจียงคนหนึ่งกล่าว
ลูกหลานตระกูลเจียงเหล่านี้ นอกจากเป็นห่วงตัวเอง เรื่องที่เป็นห่วงอย่างเดียวก็คือ คนอื่นจะก่อเรื่องกระทบต่อตนเอง
เจียงไห่เชาถอนหายใจ แต่เขาก็รู้ดี นี่คือทางเลือกที่ฉลาดที่สุดในตอนนี้ ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผาเขาพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“ฉันจะกลับไปคุยกับเจียงมู่หลง”
ทุกคนจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ แล้วเดินแยกย้ายจากไป
หลังจากที่เจียงมู่หลงกลับมาถึงบ้าน ก็ได้ยินเสียงของเจียงไห่เชาผู้เป็นพ่อคอยเกลี้ยกล่อม เขารู้สึกโกรธมาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...