มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 203

เมื่อสายตาของมู่เซิ่งมองไปที่จ้าวเหมยเหมย เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอรู้สึกหวาดกลัวจนสติแตก และพูดทุกอย่างออกมาทั้งหมด

“ลูกสาวฉันเอง เป็นความคิดของลูกสาวฉันทั้งหมด”จ้าวเหมยเหมยร่ำไห้และปัดความรับผิดชอบ

“แม่ แม่พูดอะไรอยู่น่ะ หนูเป็นลูกสาวแม่นะ”

ถงเสว่เหมยที่ได้ยินดังนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีด คำพูดของแม่เธอ เห็นได้ชัดว่ากำลังปกป้องตัวเอง แล้วโยนความผิดมาให้เธอเต็มๆ

“วางใจเถอะ พวกเธอสองคนหนีไปไหนไม่รอดหรอก”มู่เซิ่งกล่าว

เมื่อจ้าวหมยเหมยได้ยินประโยคนี้ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เธอยังไม่อยากตาย เธอพึ่งวัยกลางคนเอง ยังไม่ได้มีความสุขเลย!เธอจึงรีบควักมือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วโทรศัพท์ออกไป อย่างรวดเร็ว กระทั่งจางเสวียนหลงที่อยู่ข้างๆพึ่งรู้สึกตัว ยังไม่ทันได้คว้ามือถือของเธอไป สายก็โทรติด

ปลายสาย คือเสียงของจ้าวลิ่วป๋อ

“มู่เซิ่ง อย่างน้อยแกก็เป็นคนของตระกูลจ้าว แกไม่เห็นแก่ความดีของฉัน อย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าแม่ยายกับเมียของแกที่เป็นคนของตระกูลจ้าวหน่อยเถอะ ปล่อยฉันไปสักครั้ง?”จ้าวเหมยเหมยขอร้องอ้อนวอน

สถานการณ์ในตอนนี้ เธอไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้ว ทำได้แค่ยกจ้าวลิ่วป๋อขึ้นมาพูดถึง หวังว่ามู่เซิ่งจะเห็นอก่หน้าของจ้าวลิ่วป๋อ ปล่อยพวกเธอไป

“จริงด้วยมู่เซิ่ง ถึงยังไง แกพึ่งฉลองวันเกิดให้คุณปู่ไปเองนะ เป็นคนของตระกูลจ้าวเหมือนกัน อีกทั้งสุขภาพเขาก็ไม่ค่อยดี ยังรอให้เราดูแลเขายามแก่เฒ่า ถ้าได้ยินข่าวนี้ล่ะก็ เขาจะรู้สึกยังไง?”ถงเสว่เหมยกล่าว

“คนตระกูลจ้าว?”มู่เซิ่งทำเสียงหึอย่างเย้ยหยัน

ในงานเลี้ยง พวกเธอดูถูกเขา หากไม่เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของเจียงหว่าน คงไม่มีทางให้เขาเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดของจ้าวลิ่วป๋ออย่างแน่นอน สถานการณ์ในตอนนี้ กลับเห็นว่าเขาเป็นคนของตระกูลจ้าวอย่างงั้นหรอ?

แต่ในเมื่อโทรติดแล้ว แน่นอนว่ามู่เซิ่งจะต้องมีคำอธิบายให้จ้าวลิ่วป๋อ

“จ้าวเหมยเหมย ถงเสว่เหมย ยังมีเจียงหว่านอีก เป็นคนของตระกูลจ้าวไหมครับ?”มู่เซิ่งพูดกับปลายสาย

จ้าวลิ่วป๋อได้ยินเสียงของมู่เซิ่ง ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ยังคงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า“แน่นอนว่าพวกเธอเป็นคนของตระกูลจ้าว”

“บ้านเมืองมีขื่อมีแป ครอบครัวมีกฎต้องเคารพ ตระกูลจ้าวของพวกคุณ น่าจะมีกฎของครอบครัวตัวเองนะครับ?”มู่เซิ่งพูดต่อไป

“มี”

จ้าวลิ่วป๋อกล่าว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ จ้าวเหมยเหมยกับถงเสว่เหมยทั้งสองคน มาที่เจียงหนานเพื่อจ้างคนมาลักพาตัวคนอื่น แล้วยังจ้างให้มาข่มขืนเจียงหว่านอีก และบีบเอาเงินรื้อถอนบ้านสี่ล้านไปจากผม วิธีแบบนี้ ควรจะจัดการอย่างไรครับ?”มู่เซิ่งถาม

“นะ นี่……”

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เซิ่ง จ้าวลิ่วป๋อตัวสะดุ้ง

เขารู้ดีในเวลาปกติ จ้าวเหมยเหมยกับจ้าวหลินทั้งสองคนนี้ไม่กินเส้นกัน มักจะแอบทำร้ายกันเสมอๆ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า จ้าวเหมยเหมยกับถงเสว่เหมยสองคนนี้ จะกล้าไปลักพาตัวกับข่มขืนเจียงหนาน แถมยังมีพฤติกรรมแย่งเงินของมู่เซิ่งอีก

“จ้าวเหมยเหมย ฝีมือของแกจริงๆหรอ?”ตอนนี้จ้าวลิ่วป๋อเข้าใจแล้วว่าทำไมมู่เซิ่งรับสาย จึงกัดฟันกรอดถาม

“พ่อคะ หนูผิดไปแล้ว หนูสำนึกผิดแล้วจริงๆ ขอร้องให้มู่เซิ่งปล่อยหนูไปเถอะนะคะ”จ้าวเหมยเหมยร้องไห้น้ำมูกไหลด้วยความเจ็บปวด

จ้าวลิ่วป๋อมือสั่นเทา เกือบจะจับมือถือไว้ไม่อยู่

“จ้าวเหมยเหมย แกมันสัตว์เดรัจฉานชัดๆ ถึงยังไงเจียงหว่านก็เป็นหลานสาวของแกนะ กะแก กล้าทำเรื่องแบบนี้!นับจากนี้เป็นต้นไป แกไม่ใช่คนของตระกูลข้าวอีกต่อไป!”

“จ้าวลิ่วป๋อ นี่เป็นกฎของตระกูลคุณอย่างงั้นหรอ?”มู่เซิ่งถือโทรศัพท์ไว้ แล้วเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย

จ้าวลิ่วป๋อได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกกระวนกระวายใจ โดนไล่ออกจากบ้าน ดูเหมือนเป็นการลงโทษที่หนักมาก แต่ตระกูลจ้าวของพวกเขาเดิมเป็นตระกูลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ตระกูลไม่ได้สนับสนุนอะไรกันมาก เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เซิ่งในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ยอมปล่อยจ้าวเหมยเหมยไปอย่างง่ายดายแน่นอน

“งั้น มู่เซิ่งนายตัดสินใจจะทำยังไง?”จ้าวลิ่วป๋อถามอย่างระมัดระวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง