มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 221

และตอนที่กลุ่มคนตกตะลึงกับตัวตนของมู่เซิ่ง คุณเดวี่เอ่ยปากพูดอีกครั้ง:

“แขกที่ฉันเชิญ ถึงคราวที่พวกคุณจะมาเยาะเย้ยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดเล็ก รองรับคนใหญ่คนโตอย่างพวกคุณไม่ได้ เชิญพวกคุณออกไปดีกว่า !”

“นี่……”

กลุ่มคนเหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะชะงัก

ไล่พวกเขาออกไปทั้งหมด?คนที่เยาะเย้ยมู่เซิ่งเมื่อสักครู่นี้ มีเกือบ10คนเลย

ไล่พวกเขาออกไปทั้งหมด คุณเดวี่คนนี้ หรือว่าไม่กลัวล่วงเกินคนเขางั้นเหรอ?

“ทุกท่าน หรือว่าจะให้ฉันลงมือจัดการ สั่งให้ยามพาพวกคุณโยนออกไปงั้นเหรอ?”คุณเดวี่พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

กลุ่มคนต่างก็มองหน้ากัน

ถ้าหากถูกยามโยนออกไปต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ งั้นต่อไปพวกเขา เกรงว่าไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว

“เหอะ ไปก็ไป งานเลี้ยงแบบนี้ พวกเราไม่สนใจหรอกนะ!”

“คุณเดวี่ คุณจะต้องชดใช้กับพฤติกรรมที่คุณทำให้วันนี้!”

“สถานที่แบบนี้ มีอะไรให้น่าอยู่ต่อ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”

คนที่เคยเยาะเย้ยมู่เซิ่งเหล่านั้นก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางอยู่ที่นี่ต่อไปได้ กัดฟันแล้ว พูดทิ้งคำพูดที่หยาบคายไว้สามสี่ประโยค ก็หันหลังเดินจากไปเลย

“คุณพระช่วย มู่เฟิงบอกว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายหญิงไม่ใช่เหรอ?เขารู้จักคุณเดวี่ยังไงกันแน่?”

“ไม่รู้ ถึงยังไงต่อไปนี้ ทางที่ดีอย่าไปยั่วยุไอหมอนี่เลยดีกว่า”

“ครั้งนี้ถูกไล่ออกไป ทำให้ฉันเสียหน้ามากจริงๆ ฉันกลับไปจะต้องไปบอกเรื่องนี้กับพ่อแน่นอน!”

หลังจากที่คนเหล่านี้ถูกไล่ออกไป ปากบ่นพึมพำ ว้าวุ่น

แต่ว่า ในใจของพวกเขา ไม่มากก็น้อย ล้วนแต่เจ็บใจแค้นมู่เซิ่ง

งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ในเวลานี้ ทางฝั่งตระกูลมู่

ในห้องผู้ห่วยที่หรูหราแห่งหนึ่ง แสงไฟสว่างไสว

พ่อของมู่เฟิง มู่จงหยุน และแม่ของเธอ ลุงรองและสมาชิกตระกูลมู่เป็นต้น ล้วนแต่ยืนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของมู่เฟิงทั้งนั้น สีหน้าจริงจัง ในห้องผู้ป่วย มีเจตนาฆ่าล่องลอยอยู่จางๆ

“พ่อ มือของผมเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

มู่เฟิงลืมตาขึ้นมาจากบนเตียงผู้ป่วย สีหน้าซีดขาว

ตอนที่เขารู้ว่าแขนข้างนี้ถูกมู่เซิ่งทำให้ทุพพลภาพแล้ว ถึงขั้นยากที่จะกลับคืนสู่ปกติไปตลอดชีวิต เขาลนลานทันที เบิกตามองกว้าง มองไปรอบๆอย่างลนลานมาก

“ผมไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่อ พ่อ แม่ หมอเทวดาหลู่ ช่วยผมด้วยนะ ผมยังวัยรุ่น ไม่อยากที่จะเป็นคนพิการต่อจากนี้นะ !”มู่เฟิงทอดสายตาไปยังกลุ่มคนอย่างขอร้อง

เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลายปี ไม่ง่ายเลย ถึงได้ประสบความสำเร็จเฉกเช่นวันนี้

ตอนนี้แขนถูกทำให้ทุพพลภาพ เกรงว่าหลังจากนี้ต่อไป ยากที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้อีก

แต่ว่าไม่ว่ามู่เฟิงจะขอร้องยังไง กลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าเตียง ต่างก็มีสายตาที่เยือกเย็นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ

“หมอเทวดาหลู่ แขนของลูกชายของฉัน จะสามารถรักษาได้ไหม?”

“หลู่หนานเว่ยที่ถูกเรียกว่าหมอเทวดาเดินมาถึงหน้าเตียง ใช้มือทาบเส้นลมปราณของมู่เฟิงอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ลุกขึ้นยืน ถอนหายใจ ภายใต้สายตาของทุกคน ”

“คุณมู่ มือของลูกชายคุณ ถูกบิดจนหักทั้งท่อนแล้ว ตั้งแต่บนลงล่าง ตั้งแต่กระดูกแขนจนถึงกระดูนิ้วมือ ถูกบดจนละเอียดโดยสิ้นเชิง แม้ว่าฉันออกโรงช่วย ก็ไม่สามารถรักษาแขนของลูกชายคุณให้หายดีได้ อีกอย่าง จะต้องรีบตัดแขนข้างนี้ของลูกชายคุณโดยเร็ว หลีกเลี่ยงไม่ให้เลือดคั่งเป็นหนอง”

“แต่ว่าวางใจได้ ตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาขนาดนี้ ต่อไปลูกชายของคุณ ก็ยังใส่แขนเทียมได้”

“งั้นต่อไปเรื่องของการฝึกศีลปะการต่อสู้ล่ะ?”

มู่จงหยุนพูดถาม

“ฮาย แขนถูกทำให้ทุพพลภาพแล้ว เรื่องที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้ได้หรือไม่นั้น คุณและฉันรู้ดีอยู่ใจ ฉันก็ไม่อยากเปิดเผยอีกแล้ว ”หมอเทวดาหลู่ส่ายหน้า ถอนหายใจพร้อมพูดกล่าว

“ขอบคุณหมอเทวดาหลู่ ในนี้มีเงินหนึ่งล้าน ถือว่าเป็นค่าตรวจวินิจฉัยของคุณ ”

มู่จงหยุนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดูแย่มาก นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสลดใจ ความแข็งแกร่งในคำพูดสามสี่ประโยคนั่นเมื่อสักครู่ ราวกับว่าทำให้เขาแก่ลงสิบกว่าปีเลยทันที

“หมอเทวดาหลู่ รบกวนคุณแล้ว”มู่จงหยุนพูดกล่าว

หมอเทวดาหลู่พยักหน้า

เขาจัดพยาบาลขึ้นมา เตรียมใส่ชุดปลอดเชื้อ หลังจากนั้น เข็นมู่เฟิงเข้าไปในห้องผ่าตัด

“ไม่เอา!”

“พ่อ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะ!ผมไม่อยากถูกตัดแขน ตอนนี้เทคโนโลยีการรักษาพัฒนาไปขนาดนั้น จะต้องมีวิธีอื่นแน่นอน พ่อ ผมไม่อยากเป็นคนพิการนะ !”

ได้ฟังบทสนทนานั่นของพ่อ มู่เฟิงไม่สามารถทนยอมรับความหวาดกลัวในใจได้อีก มือซ้ายของเขาพยุงตัวขึ้นมา ถึงขั้นคิดอยากจะหนีออกไปจากเตียงผู้ป่วย

การกระทำเช่นนี้ มู่จงหยุนลงมือเองจะดีกว่า ตบลูกชายของเขาให้สลบ

หลังจากตบสลบแล้ว หลู่หนานเว่ยฉีดยาชาเข้าไปในร่างกายของมู่เฟิง ป้องกันเขาตื่นขึ้นมากลางคัน หลังจากนั้นพาผู้ช่วย เดินเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยกัน

ส่วนมู่จงหยุน เขามีสีหน้าที่อึมครึมตั้งนานแล้ว เดินออกมาจากห้องผ่าตัด

“มู่เซิ่ง!”มู่จงหยุนตะโกนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ รั้วหินของโรงพยาบาล แตกร้าวภายใต้ฝ่ามือของเขาเลย แต่เขายังคงเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ เตะเก้าอี้ข้างๆเสียงดังปัง

ต้าง!ต้าง!ต้าง!

โครงเหล็กค้ำยันแตกหัก เก้าอี้ทุบหล่นลงลนพื้น

มู่เฟิงเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้มากที่สุด ในบรรดารุ่นหนุ่มสาวของตระกูลมู่ ถึงขั้นมีความหวัง ก่อนอายุยี่สิบปี ได้เข้าสู่ตำแหน่งปรมาจารย์บู๊ และก็ยิ่งมีความหวังที่จะกลายเป็นนักเสวียน!

ถึงตอนนั้น ตำแหน่งผู้นำตระกูลมู่ จะต้องเป็นของสองพ่อลูกมู่จงหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย!

แน่นอนว่า ลูกชายที่อนาคตก้าวไกลของเขา ก็ถูกมู่เซิ่งทำให้ทุพพลภาพแบบนี้แล้ว!

แถมเมื่อวันก่อน เขาพูดอยู่ตลอดว่ามู่เฟิงเป็นคนทุพพลภาพ นี่ทำให้มู่จงหยุน ไม่โมโหได้อย่างไร?

“ที่รัก”

ในเวลานี้ เซียวมู่เสวี่ยเดินออกมาจากด้านหลัง กัดฟันพร้อมพูดว่า : “หมอเทวดาหลู่ถอดแขนของลูกชายฉันออกมาแล้ว แม้ว่าร่างกายของเขาไม่มีปัญหาชั่วคราว แต่แค้นนี้ ฉันทนไม่ได้!”

สีหน้าของมู่จงหยุนอึมครึม “ฉันก็ทนไม่ได้เหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้จะทำยังไงได้?ไปรายงานท่านมู่ ให้กฎของตระกูลจัดการเหรอ?ไม่ กฎตระกูลสำหรับฉันแล้ว เบาเกินไป!ไม่สามารถขจัดความโกรธในใจของฉันได้ มู่เซิ่งคนนี้กล้าแตะต้องแขนของลูกชายฉัน งั้นฉันมู่จงหยุน จะเอาชีวิตของเขา! ”

“มู่เซิ่งและมู่เฉินเทียนสองพ่อลูก จะต้องตาย!”

เซียวมู่เสวี่ยพยักหน้า พูดอย่างอาฆาตแค้น

“แต่ว่า เรื่องนี้ควรจะทำยังไงดี?ฉันได้ตรวจสอบมู่เซิ่งแล้ว แม้ว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงในเมืองเจียงหนาน แต่เข้าร่วมกองทักว่าหลายปี พละกำลังก็แข็งแกร่งมาก ถึงขั้นแม้แต่หมานหนิวที่พวกเราส่งไปก็พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเขาแล้ว เว้นแต่ว่าคุณลงมือด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นยากนะ ”

ความแข็งแกร่งของศิลปะการต่อสู้ ทุกๆชั้น ล้วนเป็นสถานที่สำคัญที่เต็มไปด้วยอันตราย

อีกอย่างแม้แต่ทหารรับจ้างชั้นยอดทั้งสองนั้นที่หามาก่อนหน้านี้ล้วนแต่พ่ายแพ้แล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยากมากที่จะหาว่าใครที่ทำให้มู่เซิ่งต้องลงมือ

แต่ว่า เซียวมู่เสวี่ยที่คิดถึงสภาพที่น่าเวทนาของลูกชาย กลับว่ามีสีหน้าที่อมทุกข์

“คุณลืมบริษัทที่ท่านมู่แบ่งให้ตระกูลมู่ก่อนหน้านี้ไปแล้วเหรอ?”เซียวมู่เสวี่ยพูดกล่าว

“คุณหมายถึงเครื่องประดับ?”

มู่จงหยุนใช้นิ้วเคาะที่หัวเข่าอย่างเป็นจังหวะ เจตนาฆ่า กระจายอยู่บนอากาศ

“ถูก”

“มู่เซิ่งคนนั้นเพื่อที่จะดำรงตำแหน่งผู้สืบทายาทของผู้นำตระกูลต่อไป จะต้องไปบริหารดูแลบริษัทเครื่องเพชร ถึงตอนนั้น ฉันส่งคนไปก่อกวนในร้าน หลังจากนั้นค่อยหลอกล่อเขา เขาไปในที่ที่ไม่มีคน”

“ถึงตอนนั้น ท่ามกลางภูเขาลึก ใช้แค่ไม่กี่นัด ก็ทำให้มู่เซิ่งตายได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง