และตอนที่กลุ่มคนตกตะลึงกับตัวตนของมู่เซิ่ง คุณเดวี่เอ่ยปากพูดอีกครั้ง:
“แขกที่ฉันเชิญ ถึงคราวที่พวกคุณจะมาเยาะเย้ยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดเล็ก รองรับคนใหญ่คนโตอย่างพวกคุณไม่ได้ เชิญพวกคุณออกไปดีกว่า !”
“นี่……”
กลุ่มคนเหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะชะงัก
ไล่พวกเขาออกไปทั้งหมด?คนที่เยาะเย้ยมู่เซิ่งเมื่อสักครู่นี้ มีเกือบ10คนเลย
ไล่พวกเขาออกไปทั้งหมด คุณเดวี่คนนี้ หรือว่าไม่กลัวล่วงเกินคนเขางั้นเหรอ?
“ทุกท่าน หรือว่าจะให้ฉันลงมือจัดการ สั่งให้ยามพาพวกคุณโยนออกไปงั้นเหรอ?”คุณเดวี่พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
กลุ่มคนต่างก็มองหน้ากัน
ถ้าหากถูกยามโยนออกไปต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ งั้นต่อไปพวกเขา เกรงว่าไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว
“เหอะ ไปก็ไป งานเลี้ยงแบบนี้ พวกเราไม่สนใจหรอกนะ!”
“คุณเดวี่ คุณจะต้องชดใช้กับพฤติกรรมที่คุณทำให้วันนี้!”
“สถานที่แบบนี้ มีอะไรให้น่าอยู่ต่อ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
คนที่เคยเยาะเย้ยมู่เซิ่งเหล่านั้นก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางอยู่ที่นี่ต่อไปได้ กัดฟันแล้ว พูดทิ้งคำพูดที่หยาบคายไว้สามสี่ประโยค ก็หันหลังเดินจากไปเลย
“คุณพระช่วย มู่เฟิงบอกว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายหญิงไม่ใช่เหรอ?เขารู้จักคุณเดวี่ยังไงกันแน่?”
“ไม่รู้ ถึงยังไงต่อไปนี้ ทางที่ดีอย่าไปยั่วยุไอหมอนี่เลยดีกว่า”
“ครั้งนี้ถูกไล่ออกไป ทำให้ฉันเสียหน้ามากจริงๆ ฉันกลับไปจะต้องไปบอกเรื่องนี้กับพ่อแน่นอน!”
หลังจากที่คนเหล่านี้ถูกไล่ออกไป ปากบ่นพึมพำ ว้าวุ่น
แต่ว่า ในใจของพวกเขา ไม่มากก็น้อย ล้วนแต่เจ็บใจแค้นมู่เซิ่ง
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ในเวลานี้ ทางฝั่งตระกูลมู่
ในห้องผู้ห่วยที่หรูหราแห่งหนึ่ง แสงไฟสว่างไสว
พ่อของมู่เฟิง มู่จงหยุน และแม่ของเธอ ลุงรองและสมาชิกตระกูลมู่เป็นต้น ล้วนแต่ยืนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของมู่เฟิงทั้งนั้น สีหน้าจริงจัง ในห้องผู้ป่วย มีเจตนาฆ่าล่องลอยอยู่จางๆ
“พ่อ มือของผมเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
มู่เฟิงลืมตาขึ้นมาจากบนเตียงผู้ป่วย สีหน้าซีดขาว
ตอนที่เขารู้ว่าแขนข้างนี้ถูกมู่เซิ่งทำให้ทุพพลภาพแล้ว ถึงขั้นยากที่จะกลับคืนสู่ปกติไปตลอดชีวิต เขาลนลานทันที เบิกตามองกว้าง มองไปรอบๆอย่างลนลานมาก
“ผมไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่อ พ่อ แม่ หมอเทวดาหลู่ ช่วยผมด้วยนะ ผมยังวัยรุ่น ไม่อยากที่จะเป็นคนพิการต่อจากนี้นะ !”มู่เฟิงทอดสายตาไปยังกลุ่มคนอย่างขอร้อง
เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลายปี ไม่ง่ายเลย ถึงได้ประสบความสำเร็จเฉกเช่นวันนี้
ตอนนี้แขนถูกทำให้ทุพพลภาพ เกรงว่าหลังจากนี้ต่อไป ยากที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้อีก
แต่ว่าไม่ว่ามู่เฟิงจะขอร้องยังไง กลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าเตียง ต่างก็มีสายตาที่เยือกเย็นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
“หมอเทวดาหลู่ แขนของลูกชายของฉัน จะสามารถรักษาได้ไหม?”
“หลู่หนานเว่ยที่ถูกเรียกว่าหมอเทวดาเดินมาถึงหน้าเตียง ใช้มือทาบเส้นลมปราณของมู่เฟิงอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ลุกขึ้นยืน ถอนหายใจ ภายใต้สายตาของทุกคน ”
“คุณมู่ มือของลูกชายคุณ ถูกบิดจนหักทั้งท่อนแล้ว ตั้งแต่บนลงล่าง ตั้งแต่กระดูกแขนจนถึงกระดูนิ้วมือ ถูกบดจนละเอียดโดยสิ้นเชิง แม้ว่าฉันออกโรงช่วย ก็ไม่สามารถรักษาแขนของลูกชายคุณให้หายดีได้ อีกอย่าง จะต้องรีบตัดแขนข้างนี้ของลูกชายคุณโดยเร็ว หลีกเลี่ยงไม่ให้เลือดคั่งเป็นหนอง”
“แต่ว่าวางใจได้ ตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาขนาดนี้ ต่อไปลูกชายของคุณ ก็ยังใส่แขนเทียมได้”
“งั้นต่อไปเรื่องของการฝึกศีลปะการต่อสู้ล่ะ?”
มู่จงหยุนพูดถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...