มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 224

เวยปิงเอ๋อร์เยะปากอย่างไม่เต็มใจ กลับว่าไม่ได้เอ่ยปากเรียกว่าพี่มู่เซิ่ง พูดด้วยภาษาตงหัวที่ไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่ว่า : “แด๊ดดี้ ฉันไม่รู้จักเขาสักหน่อย แด๊ดดี้ให้ฉันเรียกคนประเทศตงหัวว่าพี่ชายอย่างเรื่อยเปื่อย นี่จะได้ยังไงล่ะ”

แม้ว่าเป็นเป็นลูกครึ่ง แต่ในใจ ยังคงค่อนข้างที่จะดูถูกคนประเทศตงหัวหน่อยๆ

ถึงยังไง ในสายตาของเธอ เธอก็เป็นคนประเทศอเมนะ

“เขาเป็นหมอเทวดามู่เซิ่งของลูก เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพ่อของลูกไว้ เพียงพอที่จะเรียกเขาว่าพ่อไหม?”

เห็นว่าคุณวิลเลี่ยมกำลังจะโมโหแล้ว

ตอนที่เวยปิงเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ไม่มีทางเลือกอื่นทำได้เพียงเอ่ยปากพูด มู่เซิ่งโบกไม้โบกมือ พูดว่า “ช่างเถอะ แค่การเรียกเท่านั้นเอง ก็ไม่จำเป็นต้องจริงจัง เรียกฉันว่ามู่เซิ่งก็ได้แล้ว”

ได้ยินมู่เซิ่งพูดแบบนี้ วิลเลี่ยมถึงจะไม่บับบังคับให้ลูกสาวเรียกมู่เซิ่งว่าพี่ต่อไป

แต่ทว่า เวยปิงเอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ กลับไม่ขอบคุณในความหวังดีของอีกฝ่ายสักนิด พูดเหอะอย่างเยือกเย็น แอบบ่นพึมพำว่า : “เหอะๆ ไม่พูดออกมาตั้งแต่แรก รอแด๊ดดี้ของฉันด่าฉันแล้วคุณถึงพูดออกมา คุณจะมาแสร้งทำเป็นคนดีอะไรอยู่ตรงนี้”

มู่เซิ่งขยับหู ได้ยินคำนี้ กลับไม่พูดอะไร

เขาเป็นผู้ใหญ่ ก็ขี้เกียจจะไปจู้จี้จุกจิกกับเด็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น เวยปิงเอ๋อร์ยังเป็นลูกสาวของคุณวิลเลี่ยมอีกด้วย เขาเพิ่งจะช่วยเหลือตัวเองไว้อย่างมาก แน่นอนว่ามู่เซิ่งจะต้องไว้หน้าคุณวิลเลี่ยมสักหน่อย

เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ความรู้สึกดีที่มู่เซิ่งมีต่อเวยปิงเอ๋อร์ลดลงเหลือศูนย์แล้ว แม้ว่าไม่โกรธ แต่สายตาที่มองเธอ ก็เยือกเย็นอย่างมาก

หลังจากที่เวยปิงเอ๋อร์บ่นพึมพำสองประโยค ก็พูดต่ออีกว่า : “แด๊ดดี้ ก่อนหน้าแด๊ดดี้บอกว่า วันนี้จะให้คนเข้าร่วมงานเลี้ยงของนักกลั่นยาหลิ่วพร้อมกันกับฉันไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ไง ก็มู่เซิ่งเข้าร่วมกับลูกไง อีกอย่างตัวของมู่เซิ่งเอง ก็เป็นนักกลั่นยาอยู่แล้วนะ”คุณวิลลเลี่ยมพูดกล่าว

“นักกลั่นยา?แด๊ดดี้ แด๊ดดี้เคยพิสูจน์ด้วยตัวเองเหรอ? ”

ได้ฟังประโยคนี้ เวยปิงเอ๋อร์มีสีหน้าที่ตกใจอย่างมาก!

อย่างที่รู้ แม้ว่าเมื่อก่อนเธออยู่ที่เมืองนอก แต่เมืองนอกก็มีการฝึกศิลปะการต่อสู้และกลั่นยา นักกลั่นยาระดับนี้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็จะเป็นที่ชื่นชอบ สถานะน่าเคารพอย่างมาก

ตอนนี้ พ่อของเขาบอกว่ามู่เซิ่งเป็นนักกลั่นยา!

คิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาของเวยปิงเอ๋อร์ สังเกตมู่เซิ่งเริ่มใหม่อีกครั้ง ในใจของเธอถึงขั้นรู้สึกว่า ท่าทีของตัวเองเมื่อสักครู่มันเกินไปหรือเปล่า จำเป็นจะต้องขอโทษมู่เซิ่ง

“เรื่องนี้ฉันก็ไม่เคยพิสูจน์มาก่อน เพราะว่าฉันเชื่อคุณมู่ สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง”

คุณวิลเลี่ยมส่ายหน้าแล้ว มองไปที่หน้าของมู่เซิ่ง

เขาทำวงการค้ามาหลายทศวรรษ อ่านคนมานับไม่ถ้วน คำพูดที่มู่เซิ่งพูดมา ในสายตาของเขา ไม่มีความรู้สึกเลินเล่อของวัยรุ่นเลยโดยสิ้นเชิง ในทางกลับกันเผยลมหายใจที่เก็บซ่อนไว้ ตัวตนของนักกลั่นยา สำหรับเขาแล้ว เป็นแค่เรื่องเล็กเท่านั้นเอง

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ หลังจากที่เห็นทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งของมู่เซิ่ง วิลเลี่ยมเชื่อมู่เซิ่งอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆเลยทั้งสิ้น

แต่ทว่า เวยปิงเอ๋อร์กลับไม่สนใจอะไรมากมาย เดิมทีเธอยังคิดว่ามู่เซิ่งเป็นนักกลั่นยานะ สรุปตอนนี้ ได้ยินแด๊ดดี้พูดอีกว่ามู่เซิ่งพูดอยู่ฝ่ายเดียว ความจริงจังในใจก็หายไปทันที ปรากฏสีหน้าที่ดูถูกตามมาเป็นพักๆ

เขาเพิ่งจะยี่สิบปี ก็เป็นนักกลั่นยา นี่มันแนวคิดอะไร?

แม้แต่คนที่มีพรสวรรค์สูงสุด ก็ไม่ถึงขั้นนี้เลยนะ

ส่วนสิ่งที่พ่อพูดว่าเชื่ออะไรนั่น เธอไม่ถือว่าเป็นเรื่องจริงเลย ในสายตาของเธอ อย่างมากก็เป็นเพราะว่ามู่เซิ่งอยากไล่จีบเธอ ถึงจงใจพูดว่ามีความแข็งแกร่งเช่นนี้ แสดงความสามารถออกมา อยากจะดึงดูดความสนใจของเธอ

คนแบบนี้ เธอเห็นมาเยอะแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง