เมื่อผู้แข็งแกร่งนั่งลงทีละคน พวกเขาจะได้ยินเสียงอุทานจากฝูงชน
"คนนี้เป็นปรมาจารย์หลินไม่ใช่เหรอ?คิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วย"
"ปรมาจารย์หยูก็มา ดูเหมือนว่าครั้งนี้บริษัทซือไท่จะทุ่มสุดตัวเลยนะ เหมือนจะชนะการแข่งขันครั้งนี้ให้ได้"
"ไม่ธรรมดาจริงๆ พวกเขาล้วนเป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือ"
"เอ๋ คนๆนี้คือใครกัน ผมไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย"
ขณะที่พวกเขาเข้าไปนั่งลง ทุกคนก็เงียบลงทันที ในบรรดาปรมาจารย์เหล่านี้ แม้แต่ผู้ที่มีความแข็งแกร่งต่ำที่สุดก็ยังเป็นปรมาจารย์บู๊ และทุกคนก็ให้ความเคารพแก่พวกเขามาก
และในไม่ช้า สาวสวยในชุดกี่เพ้าก็เดินขึ้นเวทีทีละก้าว สิ่งที่ทำให้มู่เซิ่งแปลกใจก็คือ พิธีกรคือคุณเดวี่
เธอสวยมากอยู่แล้ว เมื่อผ่านการแต่งหน้าทำผมมาอย่างดี ทันทีที่เธอก้าวขึ้นไปบนเวที เธอก็ดึงดูดความสนใจของคนมากมายรอบๆเวที คุณเดวี่ที่อยู่บนเวทีก็สังเกตเห็นมู่เซิ่งเหมือนกัน เธอเผยรอยยิ้มแสนหวาน มองไปที่มู่เซิ่งและพูดว่า
“ทุกท่าน เราได้พบกันอีกแล้ว ทุกท่านที่มาที่นี่ในวันนี้ คงรู้จุดประสงค์ของการมาครั้งนี้แล้ว ดังนั้นฉันจะไม่เสียเวลาอันมีค่าของทุกคน มีเพียงสองประเด็นที่ฉันอยากจะพูดซ้ำอีกครั้ง”
“ก่อนขึ้นเวที คุณได้ลงนามในข้อตกลงความเป็นความตายแล้ว และเราไม่มีผู้ตัดสิน ดังนั้นจะเป็นหรือตาย คุณต้องรับผิดชอบเอง”
ผู้แข่งขันทั้งหมดที่นั่งด้านล่างพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
ตลกละ ในฐานะปรมาจารย์บู๊ถ้าพวกเขาสู้กัน ดินถล่มฟ้าสลาย นอกเสียจากว่าจะมีนักเสวียนมาเป็นผู้ตัดสิน ไม่งั้นก็ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้
“มีอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือการแข่งขันนี้ ไม่ว่าจะเป็นหรือ แต่แพ้ก็ต้องทำตามกฏ ถ้าใครไม่ปฏิบัติตาม ก็อย่าโทษฉันที่เป็นคนกลางของตระกูลเย่ที่ต้องหยาบคายกับพวกคุณ!"
คุณเดวี่เอ่ยปากของเธอ กวาดมองผู้ฟังด้วยสายตาที่ลึกล้ำ แล้วเดินออกจากเวทีไปอย่างนุ่มนวล
ปรมาจารย์ทั้งหลายต่างก็ดูเคร่งขรึม
แม่ของคุณเดวี่เป็นคนของตระกูลเย่ ในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเยียนจิง แน่นอนว่าในตระกูลต้องมีนักเสวียนอยู่แล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของตระกูลเย่จึงไม่ธรรมดา
อีกประเด็นคือ พ่อของคุณเดวี่มาจากตระกูลที่อยู่ต่างประเทศ ตระกูลอื่นๆก็ให้ความเคารพแก่พวกเขา และทุกครั้งที่มีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศมา เช่นคุณวิลเลี่ยมและคนอื่นๆ พวกเขาจะขอให้คุณเดวี่มาต้อนรับพวกเขา
ดังนั้น การแข่งขันแบบนี้ พวกเขาก็หาคุณเดวี่มาเป็นคนกลาง เกียรตินี้ ต้องให้อยู่แล้ว
เมื่อคุณเดวี่ก้าวลงมา ชายวัยกลางคนจากตระกูลในต่างประเทศก็ยืนขึ้น มองไปทางเหยาเผิงและคนอื่นๆ แล้วตะโกนด้วยความโกรธ
"เหยาเผิง เรื่องเมื่อปีที่แล้ว คุณยังไม่ลืมใช่ไหม ปีนี้กูกลับมาแล้ว ผมยังได้เชิญปรมาจารย์หลินมาด้วย ผมจะคอยดูว่าวันนี้คุณยังกล้าอวดดีไหม
เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบ ดวงตาของชายชราที่อยู่ข้างๆก็ฉายแววเฉียบคม และเขาก็กระโดดขึ้น บินตรงจากเก้าอี้ไปที่บนเวที
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคือสิบเมตรเต็ม แต่ชายชราก็กระโดดข้าม
แค่ความสามารถนี้เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ผู้ชมด้านล่างสูบหายใจเข้าลึก
“เก่งจริงๆ นี่ต้องเป็นปรมาจารย์บู๊ระดับกลางอย่างแน่นอน และก้าวเข้าสู่แดนนี้มานานแล้ว”
"ครั้งนี้ ผมว่าเหยาเผิงซวยแน่"
"ลองดูไปก่อน การแข่งขันในปีนี้ ไม่ใช่แค่ความแค้นระหว่างบริษัทเหวินเฟิงกับตระกูลต้วนเท่านั้น เขาต้องการท้าทายทุกบริษัทในเยียนจิง"
หลังจากที่ถูกชี้ต่อหน้าสาธารณชน สีหน้าของเหยาเผิงก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไป เหมียวหยุนจื่อซึ่งนั่งอยู่ห่างๆก็ลุกขึ้นยืนทันที และพูดกับเหยาเผิงว่า"ประธานเหยา ดูเหมือนว่าครั้งนี้ ผมทำได้เพียงลงมือแล้ว"
ทำได้เพียง สามคำนี้เขาพูดดังมาก และสายตาของเขาก็จงใจมองไปที่มู่เซิ่ง
เมื่อเห็นว่ามู่เซิ่งดูเฉยเมย เหมียวหยุนจื่อก็เยาะเย้ยทันที ยังเป็นปรมาจารย์บู๊อยู่เหรอ ขี้ขลาดจริงๆ จากนั้นก็ลุกขึ้น เตะเก้าอี้ทันที เตะเก้าอี้ขึ้นไปในอากาศ แล้วเหยียบเก้าอี้ขึ้นไปในอากาศและบินตรงไปบนเวที
"ดี!"
"สมแล้วที่เป็นเหมียวหยุนจื่อ ผู้โดดเด่นในปรมาจารย์บู๊!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...