มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 251

“ได้ยินว่า นายกำลังตามหาฉันอยู่? ”

หลังจากที่มู่เซิ่งลุกยืนขึ้น ทุกสายตาในสถานที่นั้น ก็พลันจ้องมองมาที่มู่เซิ่ง โดยท่ามกลางกลุ่มคน ก็ยังมีเสียงอุทานดังขึ้นเป็นระยะ

พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่า เวลานี้แล้วยังจะมีคนที่กล้าลุกยืนขึ้นอีก หรือเขาจะไม่รู้ว่า คนที่ยืนอยู่บนสังเวียนนั้นคือนักเสวียน และยังเป็นนักเสวียนที่มาจากสำนักมือโลหิตด้วย?

ท่านเยี่ยนห้าที่เสนอตัวออกมาก่อนหน้านี้นั้น มีพลังความสามารถระดับปรมาจารย์บู๊ขั้นสูงสุด แต่ก็ยังถูกเตะจนกระดูกซี่โครงหักเหมือนกัน และถูกโยนทิ้งลงจากสังเวียนราวกับเป็นสุนัขที่ตายแล้ว

เวลานี้ คิดไม่ถึงว่ายังจะมีคนที่กล้าเสนอตัวขึ้นมาอีก

หลังจากที่ปรมาจารย์ฟางเห็นมู่เซิ่งลุกยืนขึ้นแล้ว ก็ตกใจจนหัวสมองอื้ออึงไปหมด แล้วรีบยื่นมือออกมาฉุดรั้งตัวมู่เซิ่งเอาไว้ พร้อมกับเอ่ยปากขึ้นอย่างร้อนใจและหวาดกลัวว่า: “เพื่อน แม้ว่าฉันจะดูถูกเหยียดหยามนาย แต่นายก็อย่าทำแบบนี้เลย อาจจะตายลงได้ พี่ผิดไปแล้ว นายกล้าหาญมากจริง ๆ นั่งลง รีบนั่งลงสิ”

แม่งสิ ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกก็คงจะไม่พูดคุยกับไอ้หนุ่มคนนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าลุกยืนขึ้นจริง ๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างบ้าดีเดือดจริงเลย

คุณเดวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้าง มองไปยังมู่เซิ่งที่ลุกยืนขึ้นมานั้น ก็เผยสีหน้าท่าทางที่กังวลใจออกมา แม้ว่าเธอจะรับรู้เรื่องที่นักกลั่นยาหลิ่วได้คุกเข่าคารวะนับถือมู่เซิ่งเป็นอาจารย์ แต่ตอนนั้นอยู่ในงานเลี้ยง ทักษะความเชี่ยวชาญของเขาที่ทำให้ทุกคนรอบข้างตื่นตกใจนั้น คือด้านการกลั่นยา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับด้านบู๊เลย หรือว่ามู่เซิ่งก็ยังประสบความสำเร็จในด้านบู๊ด้วย? แต่แม้ว่าเขาจะฝึกฝนบู๊ แล้วจะสามารถต้านทานหลินยิงโส่วได้อย่างนั้นเหรอ?

“คุณมู่ คุณ คุณอย่าได้ดึงดันไปเลย ต่อให้ต้วนหนานหมิงจะมาหาเรื่อง ฉันก็สามารถรับมือแทนคุณได้” คุณเดวี่ลุกขึ้นพูดด้วยความร้อนใจ

เหยาเผิงเองก็มองมาด้วยสายตาที่เป็นกังวล แม้มู่เซิ่งจะแข็งแกร่งมาก ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาถูกทหารรับจ้างไล่ล่าสังหารนั้น ก็ได้เห็นกับตาของตนเองแล้ว แต่หลินยิงโส่วเป็นถึงนักเสวียน กลัวว่าจะมีผลลัพธ์ชะตากรรมเดียวกันกับท่านเยี่ยนห้าก่อนหน้านี้

บริเวณไกลออกไป เหมียวหยุนจื่อที่ได้สติขึ้นมาแล้วและกำลังเอนกายอยู่บนคานหามนั้น ตอนแรกก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็แสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้น ไอ้หนุ่มนี้ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริงเลย คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเสนอตัวออกมาในตอนนี้

นักเสวียนที่ยิ่งใหญ่ เป็นคู่ต่อกรที่นายสามารถเผชิญหน้าได้อย่างนั้นเหรอ? เหอะเหอะ วางใจเถอะ เพียงแค่นายขึ้นไปบนสังเวียน คาดว่าก็คงจะมีผลลัพธ์ชะตากรรมที่อเนจอนาถยิ่งกว่าฉันเป็นแน่!

เหมียวหยุนจื่อที่เดิมทีกำลังเศร้าโศกเพราะท่อนแขนถูกทำร้ายสาหัสนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นโดยพลัน ถึงขนาดที่เขาได้ตะโกนเสียงดัง เกรงว่าหลินยิงโส่วจะไม่ได้ยิน ว่า: “มู่เซิ่ง ต่อให้นายจะเป็นยอดฝีมือคนที่สองที่ประธานเหยาเชิญมา แล้วยังไงล่ะ? คนที่เคยจมน้ำอย่างไม่ระมัดระวัง ยังกล้าที่จะเสนอตัวออกมาท้าประลองกับปรมาจารย์หลินอีก ก็แสดงว่าไม่เห็นปรมาจารย์หลินอยู่ในสายตาเลย”

เป็นไปดั่งที่คาด หลังจากที่เหมียวหยุนจื่อพูดจบ หลินยิงโส่วที่อยู่บนสังเวียนก็ได้เคลื่อนสายตาจับจ้องไปที่ร่างของมู่เซิ่งทันที

“นายก็คือยอดฝีมือคนที่สองของเหยาเผิง? ”

“ใช่ฉันเอง” มู่เซิ่งพูดขึ้น

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ต่างก็ตกตะลึงโดยไม่รู้ตัว แม่งสิ คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มนี้จะยอมรับว่าตนเองเป็นยอดฝีมือคนที่สองของเหยาเผิงแล้ว?

เวลานี้ เพียงแค่เป็นคนต่างก็คิดที่จะหลบหลีกกันทั้งนั้น แต่เขากลับยอมรับโดยตรงเลย?

ส่วนยอดฝีมือที่อยู่ด้านล่างสังเวียนตอนนี้ก็พากันมองไปยังมู่เซิ่ง และเริ่มกระซิบพูดกันว่า:

“ไอ้หนุ่มนี้ช่างกล้าหาญมากเสียจริง ถึงขนาดกล้าเสนอตัวออกมาเลย”

“แบบนี้เรียกว่ามีความกล้าหาญมากที่ไหนกันล่ะ มันเป็นการรนหาที่ตายชัด ๆ”

“จบกัน คาดว่าต่อจากนี้ เขาคงจะต้องโดนทำร้ายจนแขนขาหัก และถูกโยนทิ้งลงมาจากสังเวียนเป็นแน่? ”

“ช้าก่อน! ฉัน เหมือนว่าฉันจะเคยเห็นเขา เขาก็คือไอ้หนุ่มนี้ที่ตกลงไปในน้ำเมื่อวานล่ะสิ? ”

“ก็คือไอ้หนุ่มนี้ ตอนนั้นฉันเองยังประหลาดใจ ไม่นึกว่าจะมียอดฝีมือที่ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย และคิดไม่ถึงว่าวันนี้จะพบเจอตัวแล้ว แม่งสิ มีกลิ่นอายลมหายใจที่ธรรมดาแบบนี้ ฉันคาดว่าแม้แต่ปรมาจารย์บู๊ก็ยังไม่ใช่เลย”

ทุกคนต่างก็คิดว่า เมื่อมู่เซิ่งขึ้นมาบนสังเวียน ก็คงจะถูกลงมืออย่างหนักหน่วงจนกลายเป็นผุยผง ตายลงไปอย่างแน่นอน

หลินยิงโส่วกวาดสายตาสำรวจไปทั่วร่างของมู่เซิ่ง จากนั้นก็เอ่ยปาก พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ตัวของนายไม่มีพลังภายในแม้แต่น้อยเลย ฉันว่านายไม่ใช่คนฝึกบู๊ อย่างนายนี้ ยังคิดที่จะขึ้นมาบนสังเวียนเพื่อท้าประลองกับฉันด้วย? รีบคุกเข่าลงไปที่พื้นและคำนับกล่าวขอโทษซะ คนที่ไร้ความสามารถอย่างนายนี้ ฉันไม่อยากที่จะเสียเวลาไปกับนายเลย”

“ในสายตาของฉัน นายเองก็เป็นแค่ไอ้กระจอกเหมือนกัน” มู่เซิ่งยิ้มและส่ายศีรษะ “หากว่าไม่ใช่การประลองในครั้งนี้แล้ว นายเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะให้ฉันลงมือด้วยซ้ำ”

“กำเริบยิ่งนัก! ” หลินยิงโส่วโมโหขึ้นทันที แล้วก็ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ กระโดดลงมาจากด้านข้างของสังเวียน พร้อมกับพุ่งกระโจนเข้าใส่มู่เซิ่ง

ฝ่ามือของเขาดุจดั่งกรงเล็บนกอินทรี พลังความสามารถของนักเสวียน เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน เขาลงมือ โดยใช้เพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถตะปบมู่เซิ่งจนกลายเป็นเศษเนื้อ แบบนี้จึงจะแสดงให้เห็นถึงอานุภาพความสามารถของนักเสวียน ที่น่าเกรงขามมิอาจมองข้ามได้!

สวบบบ!

ฝ่ามือฟาดฟันผ่านอากาศ เกิดเสียงสนั่นกึกก้องไปทั่ว

หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องของทุกคน มู่เซิ่งก็กระโดดขึ้นไปในอากาศอย่างกะหันทัน โดยเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนศีรษะของหลินยิงโส่วอย่างมั่นคง พร้อมกับออกแรงทั้งสองเท้า เหยียบย่ำจนพื้นดินปรากฏเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง พื้นดินบริเวณนี้ได้ผ่านการเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานอย่างพิเศษ การที่ถูกเหยียบย่ำจนเป็นแบบนี้นั้น จะต้องใช้แรงพลังมากขนาดไหนเชียว

“คุกเข่าลง” มู่เซิ่งมองไปยังหลินยิงโส่วที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า และเอ่ยปากพูดขึ้น อย่างสงบนิ่ง

“ไอ้ชั่วที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย! ”

หลินยิงโส่วตะโกนด้วยความโมโห ย่ำเท้าสองข้างไปบนพื้นอย่างรุนแรง วิชาคุ้มกันกายรอบตัว ก็พวยพุ่งขึ้นมาทันที พลังเสวียนอย่างหนาแน่น ปกคลุมรอบตัวหลินยิงโส่วเอาไว้

พลังเสวียนคุ้มกันกาย!

หลินยิงโส่ว ได้อาศัยวิชาดังกล่าวนี้ สร้างชื่อเสียงจากการต่อสู้ จนเป็นที่เลื่องลือภายในสำนักมือโลหิต

“พลังเสวียนของนักเสวียนชั้นต่ำ? เหอะเหอะ ในสายตาของฉันแล้ว ก็บางราวกับกระดาษชั้นเดียว” มู่เซิ่งส่ายศีรษะไปมา

เมื่อพูดจบ ฝ่าเท้าของเขา ก็ออกแรงเพิ่มขึ้น

แครกกก! แครกกก!

นี่คือเสียงการสั่นสะเทือนแตกสลายของพื้นดิน เดิมที่ตรงนี้เป็นพื้นดินที่สามารถรองรับน้ำหนักได้หลายตัน ไม่นึกว่าภายใต้การเหยียบย่ำของมู่เซิ่ง จะปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นทีละน้อย ช่วงล่างหัวเข่าของหลินยิงโส่ว ค่อย ๆ ลึกจมหายไป ภายในพื้นดินแล้ว

ภาพเหตุการณ์นี้ ทุกคนที่พบเห็นถึงกับตกตะลึง

เพียงแค่พละกำลัง ก็ไม่มีใครในสถานที่แห่งนี้สามารถเทียบเท่าได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หลินยิงโส่วยังเป็นถึงนักเสวียน

หรือว่า พลังความสามารถของมู่เซิ่ง จะเหนือกว่านักเสวียนอีก?

ปรมาจารย์ฟางตัวสั่นเทา ความคิดแบบนี้ ไม่กล้าที่จะจินตนาการคาดคิดเลยเสียจริง

เวลานี้มู่เซิ่งราวกับว่ามีความสามารถเหนือกว่าทุกคนในที่แห่งนี้ เหยียบอยู่บนหลินยิงโส่ว ตัวตนลอยอยู่กลางอากาศ มีพลังเสวียนปกคลุมวนเวียนอยู่รอบด้าน ทำให้ชุดคลุมของเขาโดนพัดจนเกิดเสียงดังผึบผับ สง่างามอย่างที่สุด

“คุกเข่าลง! ” เสียงตะโกนของมู่เซิ่ง ดังขึ้นอีกครั้ง โดยกึกก้องไปทั่วทั้งสนามกีฬา

ตูมมมม!

ครั้งนี้ หลินยิงโส่วยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว พลังเสวียนคุ้มกันกายได้ระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขากระโจนตัวไปด้านหน้า ล้มตัวลงไปบนพื้น หัวเข่าสองข้างจรดพื้น เกิดเสียงดังสนั่นที่น่าหวาดกลัวขึ้น พื้นดินยับยั้งเอาไว้ไม่อยู่อย่างสิ้นเชิง เกิดรอยแตกร้าวราวกับใยแมงมุม ไปทั่วพื้นดินภายในบริเวณสนามกีฬา

โครมมม!

เสียงดังสนั่นครั้งที่สอง เป็นเสียงสะท้อนกลับของสนามกีฬา

บรรยากาศโดยรอบชะงักงันแข็งทื่อกันไปหมด

เหยาเผิง คุณเดวี่และคนอื่น ๆ ต่างก็มองเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ด้วยความตกตะลึง แม้แต่เหมียวหยุนจื่อที่เอนกายอยู่บนคานหาม รวมไปถึงปรมาจารย์ฟางและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ด้านล่างของสังเวียน ต่างก็ตกตะลึงกันอย่างมาก รู้สึกเพียงว่าภายในหัวสมอง มีเสียงดังอื้ออึงไปหมด

มู่เซิ่งนั้น......

เหยียบอยู่บนตัวของหลินยิงโส่ว จนต้องคุกเข่าลงแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง