โครมมม----
เสียงของพื้นกระเบื้องที่ถูกเหยียบย่ำจนแตกร้าว ได้ดังขึ้นภายในสนามกีฬา และกระจายกึกก้องไปทั่ว
พวกผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลเหล่านั้นไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นการต่อสู้ระหว่างพวกนักเสวียน ซึ่งในทุกครั้งก็จะสั่นสะเทือนเลือนลั่น โจมตีใส่กันอย่างไม่หยุดยั้ง แต่อย่างกับสถานการณ์ที่ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวตรงเบื้องหน้า โดยมู่เซิ่งเหยียบย่ำอยู่บนหลินยิงโส่วจนต้องคุกเข่าลงไปที่พื้นนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเขาเพิ่งจะพบเห็น
“อ่า อ่า ไม่นึกว่านายจะกล้าให้ฉันคุกเข่าลงไป ฉันจะฆ่านายทิ้งซะ! ”
หลินยิงโส่วคุกเข่าอยู่บนพื้น พร้อมกับร้องโอดครวญอย่างทรมานที่สุด
เขานั้นเป็นถึงนักเสวียน!
แต่กลับต้องมาคุกเข่าต่อหน้าฝูงชนแบบนี้ โดยความอับอายขายหน้านี้ เขาแทบทนไม่ไหวอยากที่จะบดขยี้มู่เซิ่งให้กลายเป็นผุยผง จึงจะสามารถระบายความโกรธแค้นในใจออกมาได้
เขาส่งเสียงคำราม ขณะเดียวกันพลังเสวียนก็พวยพุ่งขึ้นรอบกาย พร้อมกับใช้สองมือกดไปบนพื้น เพื่อให้พลังเสวียนและแรงกำลังในร่างกายทั้งหมดระเบิดพลังขึ้นพร้อมกัน
ภายใต้พละกำลังขนาดนี้ ต่อให้เป็นภูเขาขนาดเล็ก ก็ถึงกับต้องพลิกคว่ำลงไป
“ฉันอนุญาตให้นายลุกยืนขึ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
เมื่อรู้สึกถึงพลังแข็งแกร่งที่พวยพุ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้า มู่เซิ่งก็เบะปาก แล้วยิ้ม จากนั้น เขาจึงเพิ่มพลังที่ใต้ฝ่าเท้าทันที ทำให้หลินยิงโส่วที่กำลังจะลุกยืนขึ้นนั้นถูกกดทับจนต้องคุกเข่าลงไปที่พื้นอีกครั้ง
ขณะนี้ ผู้คนโดยรอบถึงกับตกตะลึงอย่างมากจนแทบจะเป็นลมสลบไปเลย
พลังของมู่เซิ่งนี้ ตกลงว่ามีความน่าสะพรึงกลัวถึงระดับขั้นไหนกันแน่?
ทว่า ถึงแม้ผู้คนในสถานที่แห่งนี้จะตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า แต่ก็เพียงแค่มองดูเท่านั้น ไม่มีใครกล้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ข้อแรก เป็นเพราะหากถ่ายรูปแล้วก็จะเป็นการล่วงเกินหลินยิงโส่วไปจนถึงสำนักมือโลหิตที่อยู่เบื้องหลัง ส่วนอีกข้อหนึ่งนั้น นี่คือการต่อสู้กันของนักเสวียน พวกเขาไม่มีสิทธิที่จะถ่ายรูป
“นายจะยอมแล้วหรือยัง? ” มู่เซิ่งมองไปยังหลินยิงโส่วที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าพร้อมกับสอบถามขึ้น
“ไอ้คนเจ้าเล่ห์ นายก็แค่ลอบโจมตีเท่านั้น ฉันไม่ยอมเด็ดขาด! หากแน่จริงก็ปล่อยตัวฉันสิ ให้ฉันได้ต่อสู้กับนายอย่างซึ่งหน้าอีกครั้ง! ” หลินยิงโส่วมีเลือดกลบปาก หน้าตาดุดันโหดเหี้ยม
“ก็ได้ ฉันจะให้นายพ่ายแพ้อย่างศิโรราบ” มู่เซิ่งกระโดดขึ้นในอากาศ ลอยตัวลงมาจากศีรษะของหลินยิงโส่ว แล้วไปยืนอยู่บนสังเวียน เขาเองก็อยากจะดูว่า หลินยิงโส่วคนนี้จะมีแผนการอะไรอีก
แรงกดดันเหนือศีรษะค่อย ๆ ลดน้อยลง หลินยิงโส่วก็กระโดดขึ้นจากพื้นในทันที ดวงตาสองข้างของเขาแดงก่ำแทบที่จะมีเลือดไหลออกมา ขณะเดียวกันก็กระโจนเข้าตะปบมู่เซิ่งอย่างรุนแรง ด้วยพละกำลังทั้งหมด!
“ไอ้หนุ่ม ฉันจะฆ่านายทิ้งซะ! ”
หลินยิงโส่วตะปบไปในอากาศ แต่กลับถูกมู่เซิ่งหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย
แต่ทว่า ในขณะที่ทุกคนต่างก็คิดว่าหลินยิงโส่วจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนนั้น เขาก็หันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน โดยที่กลางฝ่ามือของเขา ก็ปรากฏป้ายชิ้นหนึ่งที่มีรอยประทับฝ่ามือสีเลือด
ด้านบนของป้ายนี้ เต็มไปด้วยลวดลายโบราณที่แปลกประหลาดมากมาย บริเวณด้านข้าง ไม่นึกว่าจะสามารถมองเห็นเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวด้วย โดยเส้นเลือดนี้ราวกับว่ามีชีวิต อยู่ด้านบนของป้าย ขยับเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ และยังส่งกลิ่นอายความชั่วร้ายออกมาเป็นระยะ
มู่เซิ่งหันไปมอง พร้อมกับแสดงท่าทางเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
เพราะว่าบนป้ายนี้ เขาเองก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว รวมถึง พลังที่ทำให้คนหวาดกลัว
พลังประเภทนี้ สามารถที่จะคุกคามข่มขู่ต่อชีวิตของเขาได้!
“นี่ นี่คือป้ายมือโลหิตของสำนักมือโลหิต? โอ้วพระเจ้า ไม่นึกว่าหลินยิงโส่วจะนำสิ่งนี้ติดตัวมาด้วย! ” บนแท่นที่นั่งของผู้ชม พลันมีปรมาจารย์คนหนึ่งจดจำป้ายชิ้นนี้ได้ ถึงกับตกใจลุกยืนขึ้นมา พร้อมกับชี้ไปยังป้ายที่อยู่ในมือของหลินยิงโส่วและพูดตะโกนขึ้น
“ถือว่านายยังมีสายตาที่เฉียบแหลมอยู่บ้าง” หลินยิงโส่วยิ้มและพูดขึ้น
เมื่อพูดจบลง
ผู้คนที่อยู่บนแท่นที่นั่งของผู้ชม ต่างก็เฮฮาโห่ร้องกันขึ้น
คือป้ายมือโลหิตจริง ๆ ด้วย!
ป้ายมือโลหิตนี้ เป็นถึงอาวุธลับพิเศษในการลอบสังหารของสำนักมือโลหิต ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็เคยได้ยินมาบ้าง และยังมีการสืบทอดที่พิสดารลี้ลับอย่างมากด้วย แต่ในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นกับตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...