“ไอ้เด็กเวร ทำลายเรื่องดีๆ ของฉันแล้วจะไปงั้นเหรอ”
ขณะมู่เซิ่งกับเหยาเผิงกำลังจะออกไป จู่ๆ มีเงาใครบางคนมาขวางหน้ามู่เซิ่งแล้วพูดอย่างเย็นชา
“เรื่องดีเหรอ ฉันทำลายเรื่องดีอะไรของนายไม่ทราบ” มู่เซิ่งรู้แต่ก็แสร้งถาม
“หึ ไม่ต้องมาเสแสร้ง เมื่อกี้นายจงใจด่าเพื่อนเสียงดัง เพราะจะเตือนผู้หญิงคนนี้สินะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายอยากแสดงตัวเป็นฮีโร่ ก็ต้องแสดงความสามารถของฮีโร่ออกมา” ชายร่างกายกำยำพูดอย่างโมโห
มองแวบเดียวก็ดูออกว่าผู้หญิงสวมแว่นดำคนนี้เป็นมือใหม่ที่เพิ่งมาเล่นพนันครั้งแรก ไม่รู้กฎอะไรทั้งนั้น เขาวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แค่พนันต่อไปเรื่อยๆ จากนั้นจงใจยั่วโมโหผู้หญิงคนนี้สักสองสามครั้ง เธอต้องแพ้อย่างไม่เหลืออะไรแน่นอน ไม่เพียงแค่นั้นยังจะติดหนี้ก้อนโตจากบ่อนพนันแห่งนี้อีกด้วย
พวกคนที่มีกำลังจ่ายคืน แค่เอาเงินมาคืนก็จบ แต่ถ้าไม่มีเงินคืน จุดจบที่ตามมาไม่ต้องพูดก็เข้าใจ
เขาใช้วิธีนี้หลอกผู้หญิงหลายคนแล้ว ผู้หญิงสวมแว่นดำคนนั้น เป็นผู้หญิงที่มีราศีที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยเจอผู้หญิงมา ขณะที่เธอกำลังจะติดกับดัก มู่เซิ่งก็ดันส่งเสียงออกมา ทำลายเรื่องดีของเขาพังจนหมด
นี่ทำให้ชายร่างกายกำยำโมโหเป็นอย่างมาก
“ฉันไม่ได้พูดกับนายสักหน่อย ฉันพูดให้เพื่อนฉันฟัง” มู่เซิ่งผายมือยักไหล่ ทำหน้าใสซื่อ
เหยาเผิงพยักหน้ารัว “ใช่ ลูกพี่สั่งสอนฉัน ไม่ได้ว่านายสักหน่อย อีกทั้งลูกพี่ว่าคนโกง นายโกงหรือไง ทำไมถึงอินขนาดนั้นล่ะ”
“นาย นาย……”
พูดตามตรงว่าสกิลการพูดของเหยาเผิงเก่งกาจจริงๆ เพียงไม่กี่ประโยคก็ทำให้ชายร่างกายกำยำโมโหจนหน้าแดง โกงงั้นเหรอ เขาโกง แต่จะพูดเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งในบ่อนพนันได้ยังไงล่ะ เขาโมโหจนกำหมัดจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ
ลูกน้องที่ติดตามผู้ชายร่างกายกำยำพากันล้อมเข้ามา ปิดล้อมมู่เซิ่งกับเหยาเผิงเอาไว้จนไปไหนไม่ได้
มู่เซิ่งมองแววตาที่จะฆ่าคนของชายร่างกายกำยำ เขาก็เหนื่อยใจเหมือนกัน จึงพูดว่า “เราไม่ได้จงใจเล่นงานนาย นายจะมาหาเรื่องเรา ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน”
ชายร่างกายกำยำมองมู่เซิ่งอย่างเย็นชา กดเสียงต่ำพูดว่า “หึหึ ไม่มีอะไรจะพูดงั้นเหรอ นายไล่ลูกค้าฉันไป นายต้องชดใช้ให้ฉัน ฉันให้นายสองทางเลือก!”
“หนึ่งคือชดใช้ให้ฉันสิบล้าน! แล้วไสหัวออกไปซะ”
“สองคือนายเอาเงินมาเล่นพนันกับฉันต่อแทนผู้หญิงคนนั้น ถ้านายชนะเรื่องนี้จะจบ ถ้านายแพ้นายก็ต้องจ่ายเหมือนกัน”
พวกนักเลงมองมู่เซิ่งด้วยท่าทางหยิ่งผยอง เยาะเย้ยในใจไม่หยุด
พวกเขาเป็นลูกน้องของชายร่างกายกำยำ หลิวต้าเลี่ยงลูกพี่ของพวกเขา เป็นเซียนพนันที่มีชื่อเสียงในบ่อนพนันแห่งนี้ ดูเหมือนหลิวต้าเลี่ยงให้มาสองตัวเลือก อันที่จริงจุดจบก็เหมือนกันทั้งนั้น
ถึงกระทั่งที่นักเลงพวกนั้นคิดว่าเลือกข้อหนึ่งจะดีกว่า แบบนี้อย่างน้อยเสียแค่สิบล้าน แต่ถ้าเลือกข้อสอง ไม่รู้ไอ้หมอนี่จะต้องเสียเท่าไรถึงจะหยุดได้
“ฉันเลือกข้อสอง” มู่เซิ่งพูดอย่างราบเรียบ
“โอ้ มีความกล้าอยู่บ้าง ฉันนึกว่านายจะยอมจ่ายเงินง่ายๆ แล้วไสหัวไปซะอีก” หลิวต้าเลี่ยงพูดเสียงดัง พวกนักเลงด้านหลังหัวเราะพรืดออกมา
“นายจะพูดไร้สาระอีกนานไหม รีบเริ่มจะได้รีบจบ” เหยาเผิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆ
หลิวต้าเลี่ยงแววตาเย็นชา
เขาโบกมือตะโกนเรียกพนักงานในบ่อนพนัน จากนั้นเอาบัตรสมาชิกให้เขาแล้วพูดว่า “เปิดห้องระดับสูงสุดหนึ่งห้อง”
“ได้เลยครับ ที่นี่มีห้องระดับสูงหมายเลขสองและห้องระดับสูงหมายเลขสาม พี่เลี่ยงต้องการห้องไหนครับ” พนักงานพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...