เพิ่งจะเริ่มง้างหมัดที่สาม ซูเคอก็นั่งคุกเข่าหลังอยู่ที่พื้นเรียบร้อยแล้ว “ไว้ชีวิตด้วย พี่ชายไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะ!”
เรื่องตลกน่า สองหมัดเมื่อกี้นี้ เขาทนรับสภาพไม่ไหวแล้ว ถ้าเกิดถูกต่อยหมัดที่สามในเวลานี้ เขาต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาแน่
ภายใต้การโดนคุกคามจากความตายนั้น ซูเคอตัดสินใจยอมทิ้งเกียรติศักดิ์ศรี และนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นทันที
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นช่วงเวลาแสงไฟวาบเดียวเท่านั้นเอง มู่เซิ่งถอยหลังไปหนึ่งก้าว และปัดมือทันที “ฉันก็พูดตั้งแต่แรกแล้ว นายสู้ฉันไม่ไหว แต่ทำยังไงนายก็ไม่เชื่อ”
ใครจะไปรู้ล่ะว่าแกมันจะมีพละกำลังขนาดนี้
ซูเคอได้แต่พูดอยู่ในใจ ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาพูดอย่างเดียว “พี่ใหญ่ ไอ้กระจอกอย่างผมมันมีตาหามีแววไม่ พี่ใหญ่ไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะ”
“ไสหัวไป”
มู่เซิ่งปัดมือ และหันหลังออกพร้อมทั้งเดินจากไป
ซูเคอยังนอนกองอยู่ที่พื้น ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ
“มะ...มันเป็นไปได้ยังไง!”
ภาพที่ปรากฏอยู่ทางด้านหน้านี้ กู่ชิงเสวียนตกใจจนอ้าปากค้างจนกรามล่างจะหลุดลงอยู่รอมร่อ เธอเป็นศิษย์ร่วมสำนักซูเคอ ย่อมชัดเจนในศักยภาพของเขาที่สุดแล้ว ปรากฏว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่เซิ่ง ยังทนการถูกต่อยสามหมัดไม่ไหวเลย?
ก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกว่ามู่เซิ่งหยิ่งไม่เห็นหัวใคร กระทั่งไม่รู้จักความเป็นความตายด้วยซ้ำ
แต่เวลานี้
เธอรับรู้ถึงความตื่นตระหนกจริงๆ เข้าให้แล้ว
“คุณปู่ อยู่ดีๆ หนูก็เริ่มเชื่อคำพูดที่คุณปู่พูดแล้วค่ะ” กู่ชิงเสวียนจ้องมองแผ่นหลังมู่เซิ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเธอมองอีกฝ่ายไม่ขาด ไม่ใช่เพียงการมองเห็นภาพปลอมในหอเฉียนเป่าโดยใช้เวลาแค่ชั่วพริบตา กระทั่งศักยภาพยังทำให้คนตกใจได้ถึงเพียงนี้! บุคคลเฉกเช่นนี้ ตกลงว่ามีเหตุผลใด ถึงได้แอบหลบซ่อนอยู่ในตระกูลเจียง?
“หึ งั้นก็ทำตามที่คุณปู่สั่งแล้วกัน ใช้ทุกวิถีทางเพื่อฉุดรั้งมู่เซิ่งเอาไว้ โดยไม่สนต่อสิ่งใดก็แล้วกัน”
ทันใดนั้นกู่ชิงเสวียนฉีกยิ้มทันที รอยยิ้มละลายใจ “ฝากไว้ก่อนแล้วกัน ถึงแม้ว่าคุณจะยอดเยี่ยมแถมลึกลับขนาดไหน แต่เมื่อคุณหนูอย่างฉันถูกใจขึ้นมาแล้ว ก็ต้องสยบแทบเท้าลุ่มหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างแน่นอน”
พูดจบ เธอชี้ไปทางมู่เซิ่ง และพูดกับซูเคอ “ซูเคอ ถ้าต่อจากนี้นายยังมาเกาะแกะฉันอีก ฉันก็ให้มู่เซิ่งมาต่อยนาย”
“ไม่นะ พี่สะใภ้ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”
ซูเคอรีบเปลี่ยนคำเรียก ขนาดน้ำเสียงยังแสดงความหมายรับประกันออกมา
เขาสูญสิ้นกำลังใจตั้งแต่โดนมู่เซิ่งต่อยสองหมัดตั้งแต่แรกแล้ว และจะมีกะจิตกะใจคิดเกินเลยกับกู่ชิงเสวียนได้ยังไงกัน?
รนหาที่ตายชัดๆ
“ไสหัวไป เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
กู่มู่สวีนคงคิดไม่ถึง เขาให้หลานสาวไปส่งของขวัญแก่ตระกูลเจียง เพื่อต้องการผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดมู่เซิ่ง แต่กลับทำให้เธอเข้าใจความหมายเป็นอีกอย่างไปเสียแล้ว!
หลังจากกลับมาถึงบ้าน มู่เซิ่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จ จึงนอนอยู่บนเตียง เมื่อมองเห็นเจียงหว่านผลักประตูเข้ามา พลันพูดด้วยเสียงเข้ม “ในที่สุดนายก็กลับมาได้สักทีนะ?”
มู่เซิ่งพยักหน้า แววตาเหล่มองชุดนอนสายเดี่ยวอันเซ็กซี่ยั่วใจของอีกคนแวบหนึ่ง ต้นขาขาวผ่องจั๊กจี้หัวใจ จำต้องยอมรับได้เลยว่า ฉายานามว่าเป็นคนสวยอันดับหนึ่งของเจียงหนานอันโด่งดังนี้ ร่างกายอวบอั๋นเด้งดึ๋ง ความจริงคือในใจเขารั้งอาการกระสับกระส่ายพวกนี้ไว้ไม่อยู่เลย
“ทำไมเหรอ มีอะไรหรือเปล่า?”
มู่เซิ่งลุกขึ้น พลางเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
งานเลี้ยงฉลองของท่านสามยังไม่จบงานเลย แต่เมื่อมองลักษณะท่าทางของเจียงหว่าน ดูเหมือนกลับมาก่อน
“ผู้หญิงคนนั้นที่มาวันนี้คือใคร?” เจียงหว่านเอ่ยปากถามน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“คนในตระกูลกู่ไง ท่านสามก็พูดแล้วไม่ใช่เหรอ?” มู่เซิ่งกล่าวอย่างเบื่อหน่ายเต็มทน “ผมก็ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะมา จนทำให้คุณปู่ของคุณอับอายขายหน้าต่อหน้าสาธารณชน”
เมื่อเห็นลักษณะท่าทางของมู่เซิ่ง เจียงหว่านเกิดความรู้สึกบันดาลโทสะขึ้นมาในใจอย่างไม่รู้ตัว จึงกล่าวออกมา “ฉันไม่ได้หมายความว่างั้นนะ ฉันถามคุณว่า ตกลงว่าคุณไปรู้จักมักจี่กับเธอได้ไง ทำไมในงานเลี้ยง เธอถึงยอมไว้หน้าคุณ”
“คุณอยากจะถามเรื่องไหน?” มู่เซิ่งทำหน้าเจื่อน
เจียงหว่านก็ดีๆ กันอยู่ ทำไมพอกลับมาถึงได้เริ่มโมโหใส่เขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“หึๆ คุณต้องรู้จักเธอมานานมากแล้วแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะ?” เจียงหว่านแขวะกลับอย่างเจ็บปวด “ฉันว่าเธอคิดอะไรกับคุณ เมื่อกี้ตอนที่คุณออกจากงานก่อนเวลา เพื่อจะออกไปหาเธอใช่มั้ย? ที่แท้พวกผู้ชายก็ไม่มีดีสักคน พวกมือถือสาก ปากถือศีล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...