“สวัสดีคุณมู่! ”
หลังจากที่มู่เซิ่งได้เดินเข้ามาด้านในแล้ว ทุกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ก็พลันลุกยืนขึ้น และเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
เสียงดังฟังชัด จนทำให้พนักงานที่อยู่ด้านนอกตกใจจนตัวลอยขึ้น!
คุณมู่?
ใครคือคุณมู่?
สำหรับสถานะตัวตนของมู่เซิ่งแล้ว พนักงานคนนี้ไม่รับทราบ แต่เขาเข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า คุณมู่ผู้นี้ สามารถทำให้บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ชั้นยอดในเมืองเจียงหนานทั้งหมด ต้องลุกยืนขึ้นต้อนรับ นั่นแสดงว่าเขาต้องเยี่ยมยอดมากขนาดไหน เพียงแค่คิดก็ทราบได้แล้ว
พนักงานไม่กล้าหยุดยืนอยู่นาน รีบเก็บไม้กวาดที่ร่วงตกไปบนพื้นขึ้น แล้วก็วิ่งหนีไป เพราะกลัวว่าตนเองจะไปพลาดล่วงเกินอะไรต่อคุณมู่ สร้างปัญหาความวุ่นวายมาสู่ชีวิตของตนเอง
คนพวกนี้ แน่นอนว่ามู่เซิ่งให้เหยาเผิงไปเชิญมา
เหยาเผิงดูแบบนี้ก็ถือว่าเป็นคนเฉลียวฉลาดพอตัว ภายในเวลาอันสั้นนี้ ก็สามารถเชิญคนที่เขาต้องการพบตัวมากันยังสโมสรรอยัลคลับ และภายในเวลาอันสั้นนี้ ยังสามารถผูกมิตรเข้ากันกับพวกเขาได้ดีมาก แทบที่จะเป็นพวกพ้องเดียวกันกับพวกเขาไปแล้ว
“คุณมู่ ท่านมาแล้ว” เมื่อเหยาเผิงเห็นมู่เซิ่ง ก็คารวะแสดงความเคารพ
เขาสามารถเรียกมู่เซิ่งว่าลูกพี่ได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน เขาจะต้องให้เกียรติต่อมู่เซิ่งอย่างเต็มที่ ดังนั้นท่าทางในการแสดงความเคารพ ก็ไม่ได้ลดน้อยไปกว่าทุกคนเลย
“ไม่ต้องเกรงใจ ที่นี่ เป็นคนกันเองทั้งนั้น” มู่เซิ่งพูดขึ้น แล้วก็บอกให้พวกเขานั่งลง
“ขอบคุณคุณมู่”
นอกจากหยางเหนิงและเตาจั๋ว พวกผู้ที่่มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับมู่เซิ่ง แต่มีสถานะที่ไม่สูงนั้น ก็ยืนกันอยู่ด้านข้าง ส่วนคนอื่นต่างก็นั่งลงบนที่นั่งกันหมด โดยหยางเหนิงออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่แขนของเขา ก็ยังคงพันผ้าพันแผลอยู่
มู่เซิ่งเองก็นั่งลง และพูดขึ้นว่า: “ที่ฉันมาในครั้งนี้ มีสิ่งของอย่างหนึ่งที่ต้องการจะร่วมมือกับพวกท่าน ถังเสี่ยวเยว่ เดิมทีฉันอยากจะไปหาคุณเพื่อพูดคุยความร่วมมือ เพราะธุรกิจที่จะพูดคุยกันในครั้งนี้ มันเกี่ยวข้องกับธุรกิจสปาด้านความสวยความงาม แต่เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว ธุรกิจนี้มันใหญ่โตอย่างมาก ดังนั้นจึงได้เชิญทุกท่านมาเจอกันที่นี่”
ถังเสี่ยวเยว่ยิ้ม สปาหรงเหม่ย ในปัจจุบันนี้กำลังเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นทุกวัน แต่ในสายตาของมู่เซิ่งแล้ว ก็ยังถือว่าไม่เท่าไร ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นอ่อนน้อม “คุณมู่ สิ่งของชิ้นนี้คงจะไม่ใช่ชิ้นเล็ก ๆ ล่ะสิ? นำออกมาดูหน่อย ฉันเองได้ดำเนินธุรกิจด้านสปาความสวยงามมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ถือว่ายังพอมีความรู้อยู่บ้าง”
“แน่นอนอยู่แล้ว สิ่งที่คุณมู่นำมานั้น จะต้องเป็นของดีอย่างแน่นอน”
“คุณมู่ ชายชราอย่างฉันนี้สามารถใช้ได้ไหม? ” มีคนสอบถามขึ้น
มู่เซิ่งหันมองไปทีละคน ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม ราวกับว่าหมอกำลังตรวจดูผู้ป่วย จากนั้นสายตาก็หยุดไปที่ร่างของจางเสวียนหลง และเอ่ยปากพูดขึ้นว่า: “จางเสวียนหลง ในตอนวัยรุ่น ท่านทะเลาะตบตีกับผู้อื่นมาไม่น้อยล่ะสิ? ”
“ใช่เลย ตอนนั้นวัยรุ่นไฟแรง ถูกต่อยตีมาไม่น้อย” จางเสวียนหลงเกาศีรษะอย่างเก้อเขิน ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “คิดไม่ถึงว่ามู่เซิ่งจะออกมองได้ ช่างอัศจรรย์ราวกับเทพเสียจริง”
“ไม่ใช่ว่าฉันเป็นเทพหรอก แต่ฉันสามารถมองออกได้ว่า ร่างกายของท่านมีบาดแผลภายในอยู่มากมาย พวกบาดแผลภายในที่เรื้อรังเหล่านี้แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่มันจะส่งผลกระทบถึงการใช้ชีวิตของท่านไม่น้อย ฉันมียาอยู่หนึ่งเม็ด ท่านลองกินเข้าไปดูหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร”
เมื่อมู่เซิ่งพูดจบ ก็หยิบยาเม็ดสีเขียวจำนวนหนึ่งออกมาจากขวดหยก จัดวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็มองไปที่ทุกคนอย่างยิ้มแย้ม
“ยา? ”
ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ
สิ่งของแบบนี้ พวกเขาแค่เคยได้ยิน แต่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
จากนั้น พวกผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลก็ราวกับว่าเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังมองดูสิ่งของวิทยาศาสตร์ล้ำสมัยอย่างไรอย่างนั้น เบิกตามองยาเม็ดสีเขียวที่อยู่บนโต๊ะอย่างละเอียด แม้ว่าจะรับฟังสรรพคุณจากมู่เซิ่งไปบ้าง และหยิบยาเม็ดขึ้นมากันแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้อย่างไร จึงแสดงสีหน้าท่าทางที่เก้อเขินกันออกมา
ยามีทั้งแบบกินเข้าไปและแบบทาภายนอก ถ้าหากพวกเขาใช้ผิดแบบ ก็คงจะอับอายขายหน้ามาก
“กินเข้าไปสิ” มู่เซิ่งเห็นทุกคนกำลังลังเลใจ จึงได้พูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...