เมื่อเห็นท่าทางส่ายหัวต่อเนื่องอย่างยากที่จะยอมรับได้ของพ่อ หยางฟางฟางพูดด้วยความผิดหวังว่า: “ตอนที่พี่ของหนูพาคนมา พวกคุณปฏิบัติอย่างกับสิ่งล้ำค่า และเคารพนับถือ แต่คนที่หนูพากลับมา พวกคุณไม่แม้แต่จะเหลียวมองด้วยซ้ำ พวกคุณหากรู้ไม่ว่า หนูทุ่มเทความพยายามมากเท่าไหร่ เพื่อที่จะเชิญมู่เซิ่งกลับมา?”
“พวกคุณไม่รู้ พวกคุณทุกคนที่อยู่ที่นี่ ก็ดูถูกเขา หนูจะบอกกับพ่อ ความสามารถของมู่เซิ่ง แข็งแกร่งกว่าที่พวกคุณทุกคนจินตนาการไว้!”
เดิมทีมู่เซิ่งไม่ได้แสดงความแข็งแกร่ง หยางฟางฟางถูกทุกคนเยาะเย้ยไปด้วย ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ ตอนนี้ประกอบกับการบีบคั้นของพ่อ เธอก็ระบายความน้อยใจทั้งหมดออกมา
หยางฉางจวินยังคงเงียบไม่พูด ตกใจ งงงวย เหลือเชื่อ ความคิดทุกอย่างเกิดขึ้นในหัวของเขา ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
คาดไม่ถึงว่า สิ่งที่ลูกสาวของเขาพูด ไม่นึกเลยว่าจะเป็นความจริง
มู่เซิ่งไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ เป็นไปได้มั้ยว่า เขาเป็นแดนนักเสวียน อย่างที่หยางฟางฟางพูดจริงๆ?
นักเสวียนอายุยี่สิบปี พรสวรรค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์เกินไปนะ แม้ว่าเซียวจ้านอาจเรียกได้ว่าเป็นบุคคลโดดเด่นของรุ่นอัจฉริยะ แต่เมื่อเทียบกับมู่เซิ่งขึ้นมา ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะถือรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ
บางที นี่เป็นเพราะลูกสาวของเขาตั้งใจคุยโอ้อวด มู่เซิ่งน่าจะเป็นความแข็งแกร่งของปรมาจารย์บู๊ อย่างมากที่สุดก็แข็งแกร่งกว่าเซียวจ้านเล็กน้อย แต่เข้าสู่นักเสวียน น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริงๆ
ยังไงซะนักเสวียนในวัยนี้ ไม่มีปรากฏในประเทศตงหัวมานานเท่าไหร่แล้ว
เมื่อคิดถึงในเวลานี้ ร่างกายของหยางฉางจวินสั่นเทามาก มู่เซิ่งเป็นนักเสวียนหรือเปล่า ความแข็งแกร่งเป็นอย่างไร เขาไม่รู้ แต่ลูกสาวของเขาอาศัยยาของมู่เซิ่งทะลวง นี่เป็นสิ่งที่เขาเห็นกับตาตัวเอง ต่อให้มู่เซิ่งไม่ใช่นักเสวียน งั้นก็เป็นปรมาจารย์กลั่นยาที่ทรงพลังมาก!
ปรมาจารย์กลั่นยา!
แม้ว่าจะเทียบเท่ากับปรมาจารย์บู๊ในบรรดานักบู๊ แต่เพราะว่าปรมาจารย์กลั่นยาหาได้ยาก ของมันเกือบจะเหมือนกับนักเสวียน
“มู่เซิ่งอยู่ที่ไหน?” หยางฉางจวินพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างรวดเร็ว: “พ่อบ้าน แกรีบไปตามหามู่เซิ่งกลับมา”
“พ่อจะหามู่เซิ่งทำไม? เขาโดนพวกคุณคัดออกตกรอบแล้ว ตอนนี้ดึงเขาเข้าสู่สี่องค์กรใหญ่ นี่มันน่าจะสายเกินไปแล้วนะ?”หยางฟางฟางพูดอย่างเยือกเย็น
ตอนนี้เธอเห็นธาตุแท้จริงของพ่อเธอชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาไม่มีความรู้สึกด้วยซ้ำ มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็เยาะเย้ยมู่เซิ่งอย่างเหิมเกริม ตอนนี้รู้ถึงความแกร่งแข็งของมู่เซิ่ง ก็จะไปหามู่เซิ่งเดี๋ยวนี้ เปลี่ยนหน้าได้เร็ว เธอได้เห็นเป็นครั้งแรก
“สายแล้วยังไง? ฟางฟาง ลูกพูดเรื่องนี้กับมู่เซิ่งอีกครั้ง ขอโทษแทนพ่อก่อน ถ้าหากมู่เซิ่งยอมรับ งั้นก็เชิญเขากลับมาใหม่ ถ้าหากเขาไม่ยอมรับ บังคับดึงกลับมาก็ไม่เป็นไรแล้ว” หยางฉางจวินพูด
หยางฟางฟางนิ่งไป คาดไม่ถึงว่าตอนนี้พ่อจะมีความคิดนี้ด้วย ส่ายหัวพูดอย่างผิดหวังว่า: “ไม่มีประโยชน์ ด้วยนิสัยของมู่เซิ่ง ต่อให้ขอโทษ ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้ แต่หนูเตือนพ่อ ถ้าหากพ่อใช้วิธีบังคับ ทำให้มู่เซิ่งโกรธ ทั้งตระกูลก็ต้องพังพินาศด้วยตัวของพ่อเอง!”
“พังพินาศด้วยตัวเอง!”
หยางฉางจวินหัวเราะฮ่าๆ ไม่ถือสา“พ่อจะบอกแกให้นะ ความแข็งแกร่งมู่เซิ่ง พ่อประหลาดใจมาก แต่แล้วยังไง? เบื้องหลังสี่องค์กรใหญ่คือกลุ่มพันธมิตรนักเสวียน นักเสวียนจำนวนนับไม่ถ้วน ปรมาจารย์กลั่นยาอย่างแก เข้าร่วมทีม นั่นเป็นเกียรติอย่างยิ่งของแก!”
ปรมาจารย์กลั่นยามีสถานะน่านับถือ แต่ว่า พวกเขานอกจากกลั่นยา ความแข็งแกร่งของร่างกายกลับไม่แข็งแกร่ง ปรมาจารย์บู๊ส่วนใหญ่ ก็เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ ปรมาจารย์กลั่นยามักจะต้องหาคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งเพื่อให้มีความมั่นคง หยางฉางจวินแน่ใจว่ามู่เซิ่งไม่มีคนหนุนหลัง จึงกล้าใช้วิธีบังคับ
“มู่เซิ่งยอมให้ยาล้ำค่าขนาดนี้กับแก หมายความว่าเขาต้องชอบแกมาก เขาเป็นแฟนของแกไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ไปเกลี้ยกล่อมเขา ให้มู่เซิ่งเอายาเหล่านั้นออกมา ส่งมอบให้ตระกูลของพวกเรา ฉันจะให้แกแต่งงานกับเขา” หยางฉางจวินพูดต่อ
“ฮ่าๆ ก่อนหน้านี้ยังให้หนูแต่งงานกับเซียวจ้านอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ในสายตาของพ่อ หนูไม่ใช่ลูกสาวของพ่อด้วยซ้ำ เป็นเครื่องมือที่พ่อใช้เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์”หยางฟางฟางพูดอย่างเยือกเย็น
“แกอยากแต่งงานกับมันไม่ใช่เหรอ? ฉันยอมรับเรื่องนี้ได้ ไป ตามฉันไป” หยางฉางจวินดึงมือของหยางฟางฟาง ก็เดินไปที่ประตูโกดัง
“พ่อบ้าไปแล้วหรือไง? มู่เซิ่งเขาไม่มีทางยอมหรอก!”หยางฟางฟางดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
…….
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่ทานอาหารเย็น มู่เซิ่งกินจนอิ่มดื่มจนพอ ก็เตรียมกลับพักผ่อนที่ห้องนอน
เขาไม่ได้สนใจสี่องค์ใหญ่ สำหรับการเยาะเย้ยของเซียวจ้าน มู่เซิ่งก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง หลังจากพักผ่อนมาหนึ่งคืน ก็กลับไปที่เมืองเจียงหนานได้
ทางพ่อในเมืองเยียนจิงนั้น ช่วงนี้ก็มีธุระจะหาเขา มู่เซิ่งรอหาเวลาได้ ก็ไปที่เมืองเยียนจิง
เหยาเผิงกลับค่อนข้างโกรธคนเหล่านั้นมาก แต่ว่ามู่เซิ่งไม่ได้สนใจ เขาก็ทำได้เพียงอดกลั้นไว้ ด่าทออย่างลับๆ ต่อไปอย่าให้กูมีโอกาสเจอตามลำพัง ไม่อย่างนั้นจะให้แกลิ้นลองหมัดสิงอี้ของฉัน
แต่ในเวลานี้ มู่เซิ่งยังไม่ได้เดินกลับไปในห้อง ก็ถูกคนเรียกไว้ก่อน
“มู่เซิ่ง นายอย่าเพิ่งไป ฉันมีธุระจะหานาย” หยางฉางจวินปรากฏตัวในร้านอาหาร ข้อมือของหยางฟางฟางในมือของเขาถูกบีบจนแดง แต่เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด เผยให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเดินตรงไปที่ด้านหน้าของมู่เซิ่ง
“มีธุระ?”มู่เซิ่งขมวดคิ้ว สายตาจับจ้องไปบนใบหน้าของหยางฉางจวิน
เขาไม่มีความรู้สึกดี ต่อผู้นำแห่งตระกูลหยางที่เห็นผลประโยคสำคัญตรงนี้เลย
“มู่เซิ่ง นายเฉยเมยขนาดนี้ทำไมกัน นายมองไม่ออกเหรอ การแข่งขันคัดเลือกก่อนหน้านี้ ฉันตั้งใจกดดันนายเหรอ? ยังไงซะคนมีพรสวรรค์อย่างนายหาได้ยาก ฉันต้องทดสอบให้ดีๆถึงจะได้ แน่นอนว่า นายไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวังเลย”
“ตอนนี้ฉันให้นายทำการทดสอบใหม่อีกครั้ง หวังว่านายจะผ่านการประเมิน เข้าสู่ในสี่องค์กรใหญ่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...