ฝ่ามือตบไปนี้แทบจะใช้ไปเต็มแรง ตบเอากัวปู๋เจิ้นล้มไปข้างหลังอย่างแรง เลือดสด ๆ บนใบหน้าไหลอย่างกับน้ำท่อประปาแตก
กัวปู๋เจิ้นเอามือปิดหน้า ถามด้วยสีหน้าแสนเจ็บปวดว่า “คุณพ่อ พ่อมาตบผมทำไมอ่ะ?ผมทำอะไรผิดหรือ?”
ไม่เพียงแต่กัวปู๋เจิ้น พวกบรรดาลูกเศรษฐีที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาต่างก็อึ้งกับที่
พวกเขาถึงจะไม่ใช่คนตระกูลอันดับหนึ่งกันทั้งหมด แต่ถึงยังไงก็จัดเป็นพวกกลุ่มเดียวกัน เข้าใจสภาพในครอบครัวตระกูลกัวกันดี กัวเฉิงคนนี้แม้จะเป็นคนเคร่งครัดมาก แต่ในปกติประจำวันนั้นรักกัวปู๋เจิ้นมากเป็นที่สุด อย่าว่าแต่จะตบตีเลย แค่ดุด่ายังไม่เคย ทำไมมาตอนนี้จะพลิกสีหน้าเปลี่ยนอารมณ์ก็ลงมือทันที
“ไอ้เด็กเวร แกคิดจะหาเรื่องให้พ่อตายเรอะ!” กัวเฉิงยิ่งคิดยิ่งโมโห ระดมตบปากใส่กัวปู๋เจิ้นที่ล้มอยู่ที่พื้น
กัวปู๋เจิ้นโดนตบกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่กับพื้น เลือดกบเต็มหัวเต็มหน้า แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ร้องตะโกนเสียงหลง “คุณพ่อ ทำไมล่ะ มันเรื่องอะไรล่ะ!”
พวกลูกเศรษฐีหลายคนนั้นเห็นสภาพแล้ว กลัวจะมีการตายเกิดขึ้น อดไม่ได้พูดเสียงเบา ๆ ออกไปว่า “ท่าน ท่านเจ้าบ้านกัว หยุดเถอะ....”
“ปรากฏห้วไปไกล ๆ หน่อย พวกมึงไอ้พวกตัวที่ขนยังขึ้นกันไม่ทันครบเต็ม!” กัวเฉิงกำลังเลือดขึ้นหน้า ไอ้พวกแม่งนี่หาเรื่องใครไม่หา ดันเสือกมาหาเรื่องมู่เซิ่ง?นี่เขาเป็นแขกสำคัญที่ท่านหลงเชิญมานะ ทันทีนั้นความโกรธก็พลุ่งขึ้นมาอีกพูดกราดไปว่า “พวกมึงใครกล้าเข้ามาขวาง กูจะอัดมันไปพร้อมกันด้วย!”
พอได้ยินเข้าแบบนี้ พวกลูกเศรษฐีนั่นจะมีใครกล้าขวาง รีบหนีหลบออกไปข้าง ๆ กันหมด
“จัดการอัดมันให้กูหน่อย!” กัวเฉิงยื่นมือชี้ไปที่กัวปู๋เจิ้นที่อยู่ที่พื้น
พวกกลุ่มพ่อบ้านโชเฟอร์ทั้งหลายก็กรูกันเข้าไป เตะอัดกระทืบใส่กัวปู๋เจิ้นกันยกใหญ่
“คุณชายมู่......คุณชายมู่ท่านไม่เป็นไรนะครับ?” ในทันทีนั้น กัวเฉิงก็ฝืนยิ้มประจบขึ้นที่หน้า เดินเข้าหามู่เซิ่งอย่างนอบน้อม พูดด้วยความพินอบพิเทาว่า “ลูกชายผมไม่มีตาถึงกับกล้ามาสร้างปัญหากับคุณ ผมวันนี้จะเอามันให้ตายเลย!”
อะไรกันนั่น?
ฉากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ต่อเนื่องกันมานี่ เล่นเอาทุกคนแต่ละคนหัวปั่นกันปรับทางไม่ถูก
ทั้งหมดนี้มันเรื่องยังไงกัน?ที่รู้ ๆ กันว่า กัวเฉิงเป็นถึงนักธุรกิจนักล่าระดับยิ่งใหญ่ นอกจากด้านทำธุรกิจแล้ว ในกิจกรรมด้านอื่น ๆ ก็มีวิธีการที่ดุดันเฉียบขาด ไม่งั้นคงไม่ถูกคนในวงการตั้งฉายาเรียกกันว่าจอมห้าวตาเดียว
แต่ตอนนี้ กัวเฉิงเจอเข้ากับมู่เซิ่ง กลับให้ความเคารพมากยิ่งกว่าพบกับพ่อตัวเองเสียอีก เจ้ามู่เซิ่งคนนี้ มีอำนาจบารมีอะไรใหญ่ขนาดนั้นหนอ?
เด็กสาวชั้นมัธยมนั่นก็สะอึกนิ่ง เธอเริ่มจากความห่วงกังวล กลายมาเป็นตื่นกลัว สุด ๆ เลยจริง ๆ คือความอัศจรรย์ใจ
“คุณชายมู่ ลูกชายผมมีตาไร้แวว ถึงขนาดกล้าคิดจะทำร้ายคุณ ผมจะต้องลงโทษมันให้หนัก!” กัวเฉิงเห็นมู่เซิ่งไม่พูดไม่จา จิตใจแทบจะหลุดหายจนเซ่อไปแล้ว คำนับขอโทษจากมู่เซิ่งไม่หยุด ขาดเพียงแค่ยังไม่ได้คุกเข่าลงไปโขกหัวให้เท่านั้น “คุณชายมู่ ผมขอคุณได้โปรดอย่าได้โกรธนะครับ ผมขอขอโทษแทนลูกชายผม ผมขอร้องคุณละ.....”
“เอาล่ะ เอาล่ะ” มู่เซิ่งโบกมือตัดความรำคาญ กับไอ้ลูกเศรษฐีปัญญาอ่อนที่ให้คนอื่นใช้เป็นเครื่องมือ เขาก็คร้านที่จะไปวุ่นวายด้วย
เห็นมู่เซิ่งโบกมือ กัวเฉิงรู้สึกเหมือนได้รับอภัยโทษ รีบก้าวขึ้นหน้าไปนำทาง “คุณชายมู่ เชิญขึ้นรถผมเลยครับ ท่านหลงรอคุณอยู่”
พูดจบ เขาก็นำพามู่เซิ่ง เดินเข้าไปในห้องผู้โดยสารด้านหลังของรถโรลส์รอยซ์อย่างพินอบพิเทา
ทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ฉากนี้ อดไม่ได้ต้องแลบลิ้นเลียปาก ใช้รถโรลส์รอยซ์มากมายหลายคันขนาดนี้ เพื่อมารับมู่เซิ่งคนเดียวนี่ ความฟุ้งเฟ้อของคนมีเงินนี่ พวกเขาคิดกันไม่ถึงจริง ๆ เลย
เมื่อนำพามู่เซิ่งส่งขึ้นรถแล้ว กัวเฉิงหันหน้ากลับมา พูดอย่างโกรธว่า “พวกแกอัดมันแทนกูเข้าไป ใครขืนเบามือ พวกมึงใครก็หนีไม่พ้น!”
พูดจบ นั่งเข้าไปในรถจากไป
พวกลูกเศรษฐีที่เหลืออยู่หลายคนในที่นั้นมองหน้ากันเหรอ ๆ หรา ๆ แต่นี่เป็นคำพูดของกัวเฉิงนะ พวกเขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง ได้แต่รับหน้าที่แทนพ่อบ้านและพวกโชเฟอร์ ระดมกระทืบต่อไปอีกพักหนึ่ง จนเห็นกัวปู๋เจิ้นโดนอัดจนใกล้ตายแล้ว พวกเขาถึงได้หยุดลง
“กัวปู๋เจิ้น คุณไม่เป็นไรนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...