มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 385

“ข้านี่นะไม่พอให้แกอัด?”

ถานซิงให้สงสัยจริง ๆ ว่าตัวเองฟังผิด

ไอ้หมอนี่ ถึงกับกล้าพูดว่าไม่พอให้มันอัด?

เขาอดไม่ได้ต้องหันตัวกลับมา มองไปที่เหล่าคนที่อยู่ข้างล่างเวทีพูดด้วยเสียงปนหัวเราะว่า “ทุกคนฟัง ไอ้เด็กน้อยคนนี้มันถึงกับบอกว่าข้าไม่พอมือมัน พวกแกว่ามันน่าหัวเราะมั้ย?”

พอถานซิงพูดขึ้นมา บรรดาคนที่อยู่ข้างล่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนานขึ้นมาทันที

มันถึงขนาดกล้าพูดว่าถานซิงไม่พอมือมัน นี่มันจะบ้าหลงตัวเองเกินไปแล้วมั้ง?

ถานซิงเป็นยอดฝีมือแค่รองจากประธานนี้เท่านั้นนะ นอกจากจี้เหว่ยแล้ว ยังมีใครกล้าบอกว่าสามารถเอาชนะเขาได้อยู่ระดับหนึ่ง?

“ฮ่า ๆ ๆ นี่มันจะผยองลำพองเกินไปแล้ว ยังไม่รู้จะมีฝีมือพอมาท้าชิงที่แข็งแกร่งสักแค่ไหน เดี๋ยวไม่ใช่ถึงเวลาต้องมานั่งขายหน้าต่อหน้าสาธารณชน นั่นจะกลายเป็นเรื่องตลกสิ้นดีเชียว”

“ฮึ ทำเป็นพาดาวมหา’ ลัยมา ข้าว่าเที่ยวนี้ เขาพลาดอย่างแรง”

ทุกแต่ละคนพูดประชดแดกดันไป อีกด้านหนึ่งก็เป็นสีหน้ายิ้มเหยียดอย่างเย้ยเยาะ คนไม่น้อยควักโทรศัพท์ออกมาเตรียมถ่ายบันทึกภาพ ตั้งใจไว้จะเก็บเอาภาพทุเรศ ๆ ของมู่เซิ่งขึ้นมา

ถึงยังไง ถานซิงนอกจากเป็นเทควันโดสายแดงแล้ว หุ่นสมาร์ตก็ยังล่ำปึกเป็นพิเศษ ความสูงไปถึงเมตรเก้าสิบ มู่เซิ่งก็แค่เมตรแปดสิบ เห็นชัดว่าเสียเปรียบแล้วในด้านหนึ่ง อีกทั้งมู่เซิ่งยังบอกว่าวิชาเทควันโดนั้นไม่เป็นเลย นี่ยิ่งชัดเจนเลยว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้

เดิมทีในความคิดของหลายคนยังคิดกังวลถึงว่ามู่เซิ่งจะโดนอัดเจ็บ แต่พอมู่เซิ่งพูดออกมาแบบนี้ พวกเขาก็เลยรู้สึกว่ามู่เซิ่งนี้บ้าระห่ำหลงตัวอย่างไม่มีที่สุดแล้ว นั่นก็เหลือแต่สมน้ำหน้าให้

“เหอ ๆ ข้าก็คิดว่าต้องขอดูว่าแกมีอะไรดี” ถานซิงก็ได้ก้าวถอยไปสองก้าว ดึงระยะห่างกับมู่เซิ่งให้มากขึ้น หลังจากนั้น เขาถีบขาหลังอย่างแรง เป็นการตีลังกากลางอากาศท่ามาตรฐาน พอลงแตะพื้นก็กระโดดเตะสองขาสลับต่อเนื่อง ความเร็วที่เห็น ไปได้พร้อมกับเสียงลม เสียงชมดังทั่วรอบเวที

ท่าแสดงออกสองท่านี้อย่าว่าแต่เป็นท่ายากของระดับสายแดงเท่านั้น คนที่เรียนเทควันโดมาต่างก็รู้ดี ถึงแม้ลำดับขั้นดั้งนั้นไม่ได้หมายถึงทุกด้าน แต่ช่วงห่างระหว่างมู่เซิ่งกับถานซิงนอก คงไม่ใช่ใช้เพียงระดับดั้งมาวัดกันได้ นอกจากว่ามู่เซิ่งมีวิชาที่เรียนมาในแบบอื่น มิฉะนั้นแล้ว ไม่มีทางที่จะสู้กับถานซิงนอกได้

ส่วนจะเป็นกังฟูวิชาอะไรนั้น?

ดูสภาพแทบยืนสู้ลมไม่ได้อย่างมู่เซิ่ง คนทุกคนแค่คิดก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้

“มาเลย!” ปลื้มรับเสียงแซ่ซ้องอย่างคลึ้มใจ ถานซิงก็กวักมือให้กับมู่เซิ่ง พูดไปอย่างท้าทาย

ที่เขาทำไปแบบนี้ ก็คิดจะให้มู่เซิ่งรู้ไว้ว่าตัวเขากับเขานั้นคนละชั้นกัน ให้เขารู้ว่าที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้นั้น ตลกสิ้นดี

แต่ทว่ามู่เซิ่งกลับมองไปผ่าน ๆ หัวเราะพลางส่ายหน้า “หมัดปัดดอกไม้เตะเป็นท่าเริงระบำนี่นะ พื้นฐานวิชาหลักยังไม่แน่นพอเลย”

เตะไปไม่กี่ท่านี้ล้วนแล้วแต่จะโชว์เท่ ขนาดการเกาะปักหลักยังไม่แน่น แค่มู่เซิ่งกวาดแข้งไปส่งเดชก็ซัดล้มไปได้หมดแล้ว

“นี่แก!”

พอพูดแบบนี้ออกไป สีหน้าถานซิงเปลี่ยนไปในฉับพลัน แม้กระทั่งประธานเทควันโดจี้เหว่ยที่อยู่ข้าง ๆ ตลอดจนซูอีเข่อกับถงเสี่ยวเย่ที่นั่งอยู่ข้างล่างเวทีต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปทั้งหมด ที่มู่เซิ่งพูดออกมา ไม่เพียงแต่ประชดใส่ถานซิง อีกทั้งกระทบกระทั่งไปหมดทั้งสโมสรเทควันโดเลย

“หมดเลย รู้งี้ไม่เอาไอ้หมอนี่มาแล้ว” ซูอีเข่อตบกะโหลกตัวเอง พูดด้วยความรู้สึกเสียใจ

เธอไม่คิดว่ามู่เซิ่งที่ดูค่อนข้างเก็บอารมณ์ สุดท้ายพอได้ขึ้นเวที กลับกลายเป็นคะนองบ้าแบบนี้ เธอคิดจะให้มู่เซิ่งมาท้าชิงเด่นนั้นใช่ แต่มู่เซิ่งมาในตอนนี้ จะเอาหน้าตาชื่อเสียงเทควันโดนี้ทิ้งลงพื้นมากระทืบกันเลย

ถ้าหากมู่เซิ่งไม่ล้มให้ถูกหามลงเวที สโมสรเทควันโดนี้ วันนี้ก็ต้องถึงกาลปิดประตูได้แล้ว

“ทุด แกหมายถึงอะไร?ดูถูกเทควันโดหรือ?” ข้างล่างมีคนตะโกนด้วยอารมณ์ขึ้นมา

“ศิษย์พี่ถาน อัดมันให้ตาย!”

“ให้มันรู้รสบ้าง!”

“กล้าดูถูกเทควันโดรึ?ไอ้หนู หาที่ตายแล้วมั้ง!”

สีหน้าศิษย์พี่ถานหนาวโหดขึ้นมา คำรามเสียงลั่น แล้วพุ่งเข้าใส่มู่เซิ่งอย่างเฉียบพลัน

ตีนเปล่าของเขาย่ำกับพื้น ด้วยความเร็วที่สูงมาก แค่พริบตาก็ประชิดถึงข้างหน้ามู่เซิ่ง เตะขาขวาออกไปอย่างสุดโหด ขาที่เตะออกไปนี้ไม่มีออมแรง ต่อให้เป็นแผ่นเหล็กขวางไว้ตรงนั้น เขาก็ยังมั่นใจว่าเตะขาดสะบั้นได้!

เสียงฮือฮาอย่างแตกตื่นดังขึ้นข้างล่าง

แต่ทว่า ขาที่ดูสุดโหดนี้ ในสายตาของมู่เซิ่ง ดูเหมือนเด็กเล่นครอบครัวสมมติอย่างไร้เดียงสา อย่าว่าแต่ถานซิงที่ฝึกมาเป็นเวลาแค่ไม่กี่สิบปีเลย ต่อให้เป็นถึงนักเสวียนที่ลุ่มหลงอยู่กับวิชาบู๊นับหลายสิบปี ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เซิ่งเลย

กับการที่จะลงมือกับถานซิง มู่เซิ่งถึงกับรู้สึกเป็นการด้อยค่าฐานะของเขาลงไปเสียอีก

เพราะฉะนั้น เขาเอามือทั้งสองไพล่หลัง วืดหลบการเตะต่อเนื่องหลายทีของถานซิงอย่างสบายอารมณ์

เดิมคิดว่าถานซิงจะเห็นชัดถึงความห่างกันของระดับชั้นอย่างมาก แต่พอถานซิงเห็นการเตะขวางของตัวเองถูกหลบไปได้ ก็ยังคงดื้อด้านจู่โจมต่อไปอีก ทั้งต่อยทั้งเตะใส่ไม่ยอมหยุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง