“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ประธานของพวกคุณออกมาหน่อย”มู่เซิ่งกล่าว
สู้กับคนกลุ่มนี้ อย่าไปเสียเวลาเถียงกับพวกเขา ใช้กำปั้นของตนเองเพื่อให้พวกเขาปิดปากดีกว่า
สมาชิกในสมาคมต่างตกใจ แล้วเผยสีหน้าเยาะเย้ย ไอ้หมอนี่กล้าดียังไงมาท้าทายประธานของพวกเขา?
“คุณต้องการสู้กับผมจริงๆเหรอ?”ประธานจี้เหว่ยหรี่ตาลง
การเตะของมู่เซิ่งนั้นน่าทึ่งมาก ไม่ว่าในแง่ของพละกำลังหรือความเร็ว ดูเหมือนว่าไม่ใช่คนธรรมดาจะเตะมันออกมาไม่ได้ ต้องฝึกฝนบูโดมาหลายปี และยังมีพรสวรรค์อยู่บ้าง
แต่จี้เหว่ยมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากกว่า
เขาฝึกฝนเทควันโดมาตั้งแต่เด็ก และฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาสิบปี ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นจากสายขาวเป็นสายดำ ระดับสายดำแบ่งเป็นหนึ่งถึงเก้าขั้น ขั้นที่หนึ่งถึงสามเป็นสายดำใหม่ ส่วนขั้นที่สี่ถึงหกเป็นสายดำที่ความแข็งแกร่งเป็นระดับปรมาจารย์ ส่วนขั้นที่เจ็ดถึงเก้า ต้องมีความรู้ระดับสูงหรือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเทควันโดเท่านั้น
และตอนนี้ จี้เหว่ยเป็นสายดำระดับ 5 ในเทควันโด รู้ได้เลยว่าความแข็งแกร่งของเขาถึงระดับที่น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ดังนั้น แม้ว่าการเตะของมู่เซิ่งจะน่าทึ่ง แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกกลัว
“สู้” มู่เซิ่งเน้นเพียงคำเดียว
รูม่านตาของประธานจี้เหว่ยหดตัว มู่เซิ่งพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็ต้องรับคำท้ามิฉะนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาอับอายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนเทควันโดทั้งหมดด้วย
เขาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว และเมื่อเขากำลังจะวอร์มอัพ มู่เซิ่งก็พูดขึ้นอีกครั้ง
"รอสักครู่"มู่เซิ่งกล่าว
“ทำไม คุณกลัวเหรอ?”ประธานจี้เหว่ยหยุดการเคลื่อนไหวและถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
มู่เซิ่งส่ายหัวและพูดว่า"ผมอยากให้คุณคุยกับสมาชิกของคุณก่อน เกรงว่าเดี๋ยวผมทำคุณเจ็บจนสาหัส และพวกเขาจะบอกว่าผมทำแรงเกินไป"
มู่เซิ่งไม่ต้องการได้ยินคนเหล่านั้นส่งเสียงดังอีก
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ด้านล่างก็มีคนไม่พอใจทันที โดยเฉพาะสมาชิกของสโมสรที่ด่าแรงที่สุดในเมื่อกี้ เขาพูดด้วยความโกรธ"มู่เซิ่ง คุณหมายความว่ายังไง?คิดว่าจะเอาชนะประธานของเราจริงๆเหรอ?”
"เหอะๆ หลังจากเอาชนะศิษย์พี่ถานแล้ว ก็มองไม่เห็นตัวตนของตัวเองแล้วเหรอ?"
"ใช่ ผมไม่ได้รู้สึกว่าการเตะนั้นทรงพลังมากนัก อย่างมากก็แค่ศิษย์พี่ถานประเมินศัตรูต่ำเกินไปก็เท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าจะคิดว่าตนเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ และไม่เห็นแม้แต่ประธานของเราอยู่ในสายตา "
คนในชมรมเทควันโดเกือบทั้งหมดเป็นแฟนตัวยงของประธานจี้เหว่ยคำพูดของมู่เซิ่ง แหย่ให้รังแตนแตกทันที
แม้แต่คนใต้เวทียังทนไม่ได้
พวกเขาล้วนเป็นผู้สัญจรผ่านไปมา และพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการต่อสู้พวกนี้ ก็แค่มาดูเพราะความสนุกเท่านั้น แต่ประธานจี้เหว่ยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมายาวนานในมหาวิทยาลัยหนานเจิ้งถือเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยหนานเจิ้ง ตอนนี้ เมื่อมู่เซิ่งพูดอย่างนั้น พวกเขาทั้งหมดก็โกรธมาก
"ประธานจี้เหว่ยเคยเข้าร่วมการแข่งขันนักศึกษาวิทยาลัยแห่งชาติมาก่อน และได้รับรางวัลชนะเลิศ ผู้ชายคนนี้มีความสามารถอะไรเหรอ กล้าบอกว่าเขาจะทำร้ายประธานจี้เหว่ยได้"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างหยิ่งผยองจริงๆ"
"คนประเภทนี้ที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ก็ควรถูกยกลงไป!"
เสียงเหยียดหยามและเย้ยหยันทุกชนิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซูอีเข่อและถงเสี่ยวเย่ดูฉากนี้อย่างประหม่า แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามู่เซิ่งจะพูดเกินไป
ประธานจี้เหว่ยยกมือขึ้น
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างก็หยุดลงทันที
เขามองไปที่มู่เซิ่งอย่างเคร่งขรึม หลังจากมีชื่อเสียงแล้ว มันเป็นครั้งแรกที่เขาถูกยั่วยุโดยคนแบบนี้ เขารู้สึกโกรธเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ถ้าผมทำให้คุณบาดเจ็บสาหัส คุณจะทำอย่างไร?"
“ฝีมือด้อยกว่าคนอื่น ต่อให้ผมถูกฆ่า ผมก็สมควรได้รับมัน”มู่เซิ่งยักไหล่
"โอเค ดีมาก!" จี้เหว่ยหัวเราะเสียงดัง จากนั้นหันกลับมาและพูดกับสมาชิกที่อยู่ข้างหลังเขา"ในเมื่อมู่เซิ่งพูดเช่นนั้นแล้ว ถ้าครั้งนี้ผมบาดเจ็บสาหัส มันเป็นเพราะฝีมือผมด้อยกว่าเขา ไม่ได้เกี่ยวกับมู่เซิ่ง”
“ประธานจี้เหว่ย ไม่มีทางหรอก!”
“อย่างมู่เซิ่งเนี่ยนะ เขาคู่ควรที่จะทำร้ายคุณเหรอ?”
“อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันต่อจากนี้ ประธานจี้เหว่ย คุณก็ไม่ต้องกังวลอะไร ลงมือให้เต็มที่ เขาพูดเอง ฆ่าเขาตายก็ไม่เป็นไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...