ห้องทำงานที่หรูหราที่สุดในบริษัทมู่หราน
ชายชราคนหนึ่งในชุดสูทสีดำนั่งอยู่ตรงข้ามกับมู่เซิ่ง ท่าทางของเขาแสดงถึงอารมณ์ของบุคคลระดับสูง
“คุณชายมู่ ในที่สุดคุณก็ยินดีที่จะพบกับผม” ชายชราพูดอย่างตื่นเต้น เขามีชื่อว่าท่านสวี เป็นคนเรียกมู่เซิ่งเมื่อสองสามวันก่อน เขาเป็นหนึ่งในพ่อบ้านตระกูลมู่
นอกจากนี้ เขายังเป็นบุคคลหลักที่ดูแลตระกูลมู่ในเขตเจียงหนาน
การอยู่ในห้องทำงานงานไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่หรูหราโดย หรือชื่อเรียกของชายชรา ล้วนแต่ทำให้มู่เซิ่งรู้สึกอึดอัด เขาพูดอย่างตรงประเด็น “ที่ฉันเรียกนายมาเพราะว่ามีเรื่องอยากให้ช่วยน่ะ”
“คุณชายมู่ ขอแค่คุณบอกมา ตระกูลมู่เราสามารถทำได้ทุกอย่างครับ!” ท่านสวีเห็นด้วยโดยไม่ลังเล
มู่เซิ่งพยักหน้าโดยไม่แปลกใจและพูดต่อ “ฉันต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เท่าไรก็ได้ และฉันต้องการให้บริษัทสาขาในเจียงหนานช่วยฉันทำเรื่องบางอย่าง”
“แน่นอน ไม่มีปัญหาครับ! ส่วนเรื่องเงิน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร อีกสอบนาทีสามารถเบิกออกมาได้เลยครับ” ท่านสวีตอบโดยไม่คิด “ส่วนเรื่องบริษัท ท่านนายบอกว่าถือเป็นของขวัญสำหรับการพบหน้า ขอแค่คุณลงนามในสัญญานี้ ไม่ปล่อยให้บริษัท มู่หรานทำธุรกิจต่อให้คุณจะขายบริษัทก็ไม่เป็นไรครับ!”
ท่านสวีกล่าวพลางเปิดลิ้นชัก หยิบสัญญาที่ร่างขึ้นมาแล้วยื่นให้มู่เซิ่ง
นี่คือสิ่งที่ตระกูลหมายถึงสินะ
มู่เซิ่งรีบเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็ว
ท่านสวีเก็บสัญญาลงในกระเป๋าราวกับสมบัติ ก่อนจะถอนหายใจยาว
หลังจากนั้นท่านสวีมองดูมู่เซิ่งอย่างระมัดระวังอีกครั้งและถามว่า “คุณชายมู่ ผมเกรงว่าท่านนายอาจจะเหลือเวลาไม่นานแล้ว ผมอยากให้คุณไปพบท่านจริงๆ…”
“พ่อของฉันเหรอ?”
มู่เซิ่งตกใจและตกอยู่ในความเงียบ
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่พ่อของเขายังเป็นทายาทของตระกูล แม่ของเขาให้กำเนิดเขาเมื่ออายุได้ 40 ปี ความกดดันภายในครอบครัวมีมากจนแม้แต่พี่ชายของเขาหลายคนเริ่มฆ่ากันเอง ในตอนนั้น พ่อของเขากลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปกป้องมู่เซิ่งได้ ดังนั้นเขาจึงหาคนมาช่วยพามู่เซิ่งออกไปจากตระกูลมู่
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังถูกค้นพบระหว่างทางที่มู่เซิ่งกำลังแอบหนีไป
แม่เสียชีวิตอย่างอนาถเพื่อปกป้องมู่เซิ่ง ในเวลานั้นมู่เซิ่งสาบานว่าเขาจะตามหาฆาตกรให้ได้!ส่วนเรื่องพ่อ แม้ว่ามู่เซิ่งจะรู้ว่าเขาเองก็มีปัญหาเหมือนกัน แต่เขาก็ยังไม่สามารถปล่อยมือจากการตายของแม่ได้
ความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งนั้นติดตามเป็นเงากว่าเวลากว่าสิบปีในค่ายทหาร
“อืม ฉันจะกลับ” มู่เซิ่งพูดเบาๆ โดยไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้
“ครับ...”
หลังจากได้ยินข้อตกลงของมู่เซิ่ง ท่านสวีก็ยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำด้วยความยินดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพูดว่า “ผมจะรับแจ้งท่านนายเลยครับ”
เมื่อเห็นดังนั้น มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผสมปนเปกัน
พ่อที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปีก็ยังคงเป็นพ่อด้วยความสัมพันธ์ที่เลือดข้นกว่าน้ำ! ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พ่อของเขาป่วยหนักและอาจอยู่ได้อีกไม่นาน
“ถ้าฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะรีบตามไป”
มู่เซิ่งพูดพลางลุกขึ้นจากไป
คราวนี้เขากลับบ้านเพียงเพื่อไปเยี่ยมพ่อ ส่วนเรื่องเงินและการสนับสนุนจากตระกูลมู่ เขาถือว่าสถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยอันตราย เป็นเรื่องยากที่สิ่งภายนอกจะส่งผลกระทบต่อเขา
“คุณชายมู่ คุณอยากให้บริษัทมู่หรานของเราทำอะไรเหรอครับ คุณยังไม่ได้บอกผมเลย” เมื่อเห็นว่ามู่เซิ่งกำลังจะจากไป ท่านสวีก็นึกบางอย่างออกและถามจากด้านหลัง
“สัญญาระหว่างบริษัทมู่หรานกับตระกูลเจียงเปลี่ยนไป ผู้รับผิดชอบจะถูกเปลี่ยนจากเจียงหว่านภรรยาของฉันเป็นเจียงมู่หลงในอีกไม่กี่วัน เจียงมู่หลงจะมาที่บริษัทเพื่อยื่นสัญญาและแผนใหม่ของพวกเขา”
มู่เซิ่งก้าวออกจากประตูและพูดช้าๆ “คำขอของฉันคือให้เจียงมู่หลงไสหัวกลับไปซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...