ทั้งสองสนทนากัน ไม่นานเวลาก็ล่วงเลยไป
ครั้นดูเวลาก็ผ่านไปครึ่งค่อนชั่วยามแล้ว
โจวกุ้ยหลานลุกขึ้นแล้วไปที่ห้องครัว เปิดฝาออก กลิ่นหอยพวยพุ่งเข้าจมูก
แค่ได้กลิ่น โจวกุ้ยหลานก็รู้สึกไม่เลวแล้ว
เพราะขนมนี้ลงทุนไปมาก แค่เมื่อวานวันเดียวนางก็ใช้ไปสามสิบสี่ตำลึง พูดออกไปกลัวว่าคงต้องทำให้คนตกใจตาย
แน่นอน นางไม่ได้แค่ซื้อวัตถุดิบอย่างเดียว แต่ซื้อของใช้จำเป็นอย่างอื่นด้วย
โจวกุ้ยหลานหยิบขนมขึ้นมา ใช้มีดทำครัวหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม คีบขึ้นชิมหนึ่งชิ้น และทันใดนั้น ดวงตาของนางก็ลุกวาว
รสชาตินี้ ไม่เลวเลยจริงๆ
รสเข้มของเนื้อหมักแดดเดียวกับกุนเชียงผสานรวมกับรสอ่อนของไชเท้า บวกกับเครื่องปรุงรสผงพริกไทย...
โจวกุ้ยหลานชื่นชมยินดี รีบหยิบถ้วยสะอาดใบหนึ่ง แล้วคีบใส่ลงไปสองสามชิ้น ยกออกไปถึงตรงหน้าเหล่าไท่ไท่
“ท่านแม่รีบชิมนี่เร็ว!”
เหล่าไท่ไท่ขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าเอาแต่ทำของกิน? นี่ต้องใช้แป้งเท่าใด!”
แป้ง?แป้งเป็นของที่ถูกที่ใส่ในนี้แล้ว!
โจวกุ้ยหลานหักห้ามใจไม่โต้ตอบ แต่ก็ยังไม่กล้าบอกเหล่าไท่ไท่ มิเช่นนั้นต้องถูกนางตำหนิอีกแน่
“ท่านแม่รีบชิมเร็ว นี่ข้าคิดจะเอาไปขายนะ!” โจวกุ้ยหลานเอ่ย แล้วยื่นไปทางเหล่าไท่ไท่อีกหน
“ของพรรค์นี้จะขายได้หรือ? ถ้าขายไม่ออกมิต้องขาดทุนหรือ?” เหล่าไท่ไท่กล่าวพลางวางเข็มด้ายในมือ นางรับไปแล้วคีบขนมหัวไชเท้าส่งเข้าปาก
แต่ยังไม่ทันเข้าปากก็ได้ยินเสียงเจ้าก้อนน้อยจากข้างนอก “หอมจัง!”
แหม สองพ่อลูกนี่ช่างมีวาสนาปากจริงแท้ รอให้ทำเสร็จแล้วถึงจะกลับมา!
โจวกุ้ยหลานคิด กลั้นยิ้มบนใบหน้าไม่อยู่เล็กน้อย
สวีฉางหลินจูงมือเจ้าก้อนน้อยเดินเข้ามา เห็นเสื้อผ้าเขามีฝุ่นประปรายแต่ไกลๆ เห็นชัดว่าไปทำอะไรมาอีก
“มาๆๆ ฉางหลินกลับมาแล้ว นี่ก็ให้เขากินเถอะ” เหล่าไท่ไท่รีบวางตะเกียบลง ลุกขึ้นจะยื่นของกินให้สวีฉางหลิน
โจวกุ้ยหลานรีบขวางไว้ “ท่านแม่ ในหม้อยังมีอีกตั้งเยอะ ส่วนนี้ให้ท่านแม่กิน”
“ยังมีอีกเยอะ?” เสียงของเหล่าไท่ไท่เพิ่มปริมาณขึ้นอีกหลายส่วน อย่างไรก็ยังคำนึงถึงสวีฉางหลิน จึงได้แต่กลืนคำพูดกลับลงไปอีก
เจ้าลูกล้างผลาญนี่ นี่แป้งเชียวนะ สิ้นเปลืองจริงเชียว!
โจวกุ้ยหลานไม่สนใจท่าทางเสียดายของนาง ตบมือกับเจ้าก้อนน้อย แล้วอ้าแขนทั้งสองกับเขา “มา เสี่ยวเทียน ข้าจะให้เจ้ากินของอร่อย!”
ในฐานะที่เจ้าก้อนน้อยเป็นนักกินตัวน้อย ไหนเลยจะทัดทานต่อการหลอกล่อแบบนี้ของแม่ตัวเองได้? เมื่อสวีฉางหลินปล่อยมือ ขาสั้นๆ ก็วิ่งอ้าวไปทางโจวกุ้ยหลาน จับมือของนางคิดจะไปทางห้องครัว
โจวกุ้ยหลานถูกท่าทางของเขาทำจนหัวเราะ ลูบหัวของเขา “ไม่ต้องรีบ ข้าทำไว้เยอะเลย รับรองว่าเจ้าต้องกินเต็มอิ่มแน่!”
สวีฉางหลินที่ถูกบุตรชายทอดทิ้งยังเซ็งเล็กน้อย เขาที่เป็นบิดายังสู้ของกินคำหนึ่งไม่ได้...
โจวกุ้ยหลานมองสีหน้าท่าทางของสวีฉางหลิน เห็นเขากลับมามีท่าทางปกติแบบใจดีไร้พิษไร้ภัยแล้ว ก็ลอบโล่งอกในใจ
ค่อยยังชั่ว ความสามารถในการสมานแผลเองของผู้ชายคนนี้ดีมาก
“ท่านแม่ กิน!” พอเจ้าก้อนน้อยเห็นโจวกุ้ยหลานยืนเฉยพักหนึ่ง ก็แหงนดวงหน้าน้อยๆ เรียกโจวกุ้ยหลาน
“ได้ๆๆ” โจวกุ้ยหลานตอบรับเนืองๆ เงยหน้าเอ่ยกับสวีฉางหลิน “เจ้ารีบไปล้างหน้าล้างตาเถอะ แล้วเดี๋ยวออกมาชิมขนมหัวไชเท้าที่ข้าทำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...