ชายผู้นั้นไม่สนใจอะไรมากนักและกดทับลงบนตัวนางอีกครั้ง “ยาหยี จะสนอะไรพวกนั้นมากมายทำไม แค่เรามีความสุขก็ดีแล้ว!”
จางเสี่ยวจุ๋ยผลักหน้าอกของเขาและเอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดว่า “ข้าจะหิวตายอยู่แล้ว เจ้ายังคิดจะหาความสุขอีกหรือ”
“ไม่เป็นไรน่า ข้ายังมีอีกสิบอีแปะ ไว้ข้าจะให้เจ้า ตอนนี้อยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนนะ!”
ชั่วขณะนั้น ภายในเรือนก็อบอวลไปด้วยห้วงแห่งความรัก...
เช้าวันต่อมา เหล่าไท่ไท่ส่งแป้งขาวหนึ่งจินและข้าวโพดสามจินไปที่บ้านของชุ่ยฮวา ให้ชุ่ยฮวาช่วยทำอาหารให้หลิวเซียงกิน
สายตาที่ชุ่ยฮวามองแป้งขาวครึ่งกิโลกับสายตาที่มองเหล่าไท่ไท่นั้นแตกต่างกัน
เหล่าไท่ไท่รู้สึกว่ามันผิดปกติเกินไป ดังนั้นจึงรีบนำแป้งกลับมาจากบ้านของลูกสาวคนรองทันที
ชุ่ยฮวาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
หลังจากนั้นเหล่าไท่ไท่ก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกต้องและก้าวกลับไปที่บ้านด้วยน่องเล็กๆ ลากโจวกุ้ยหลานไปที่ห้องของตนเองแล้วสมคบคิดกัน
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน ลูกสามคนของเอ้อร์เฉียงรวมถึงหวังอวี้ชุนก็มาถึงบ้าน
ทันทีที่หวังอวี้ชุนเข้ามา นางก็มาชวนเหล่าไท่ไท่กับโจวกุ้ยหลานคุยนั่นคุยนี่ แม้ว่าเหล่าไท่ไท่จะไปทำงาน นางก็ไม่ไปไหน ยังยืนมองเหล่าไท่ไท่ทำงานอยู่ข้างๆ
พวกเด็กทะโมนเหล่านั้นพอเข้ามาถึงก็รื้อค้นของไปทั่ว
โจวกุ้ยหลานเห็นดังนั้นจึงมองด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก
“นี่ กุ้ยหลาน เจ้าไม่ดีใจหรือที่เรามาที่นี่ ข้างนอกเขาว่ากันว่าที่บ้านของเจ้ากินอยู่อย่างอิ่มหนำสำราญ เจ้าไม่สงสารหลานชายของเจ้าเลยหรือยังไง มีอะไรอร่อยๆ ก็เอามาแบ่งพวกเขาบ้างซี่”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของโจวกุ้ยหลานไม่ค่อยดีนัก หวังอวี้ชุนจึงเอ่ยออกมาอย่างประชดประชัน
“พี่สะใภ้หยู่ชุน พี่ไปได้ยินมาจากไหนว่าครอบครัวของข้ากินอยู่อย่างอิ่มหนำสำราญ” โจวกุ้ยหลานถามอย่างเย็นชา
หวังอวี้ชุนเองก็เป็นพวกที่มักจะสร้างความยุ่งยากให้ผู้อื่น และนางก็โวยวายออกมาทันที “ทุกคนในหมู่บ้านเขารู้กันทั้งนั้นว่าครอบครัวของเจ้าได้เงินจากการขายถ่าน ทำไมจะต้องปิดบังพวกข้าด้วย ยังไงข้าก็ได้ชื่อว่าเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าไม่ควรปิดบังไว้แบบนี้มิใช่หรือ”
“ข้าอยากกินของอร่อยๆ!”
“ข้าก็อยากกินเหมือนกัน!”
“อยากกินๆ!”
เด็กทั้งสามคนตะโกนอยู่ข้างๆ และจ้องมองโจวกุ้ยหลานตาปริบๆ
เหล่าไท่ไท่เทอาหารหมูลงไปในคอกหมูแล้วเดินออกมา พอได้ยินเสียงพวกเขา นางจึงขมวดคิ้ว “หยู่ชุน เจ้าพูดเรื่องอะไรน่ะ”
“อาสะใภ้รอง ข้าได้ยินมาหมดแล้วว่าต้าไห่กับสวีฉางหลินเผาถ่านอยู่ในป่าทั้งวัน คนอื่นเขาเห็นกันนานแล้ว เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าพวกท่านหาเงินได้มากมายจากตรงนี้!” ดวงตาทรงสามเหลี่ยมหางตกของหวังหยู่ชุนเป็นประกายขณะที่พูด
วันนี้นางมาเพื่อดูลาดเลาว่าที่นี่เป็นอย่างไร ถ้ามันเป็นเรื่องจริง นางก็จะให้พวกเขาพาเอ้อร์เฉียงไปด้วย!
“เช่นนั้นคนที่เผาถ่านก็ไม่ได้มีครอบครัวของพวกข้าแค่ครอบครัวเดียว พวกเจ้าจะไปลองเผาถ่านดูเองก็ได้ ดูสิว่ามันทำเงินได้เยอะจริงหรือไม่” โจวกุ้ยหลานตอบกลับพลางขมวดคิ้ว
พวกนางไม่ได้บอกเรื่องเผาถ่านให้ใครรู้ แม้จะมีคนมาเห็น อย่างมากก็คงคิดว่าพวกนางแค่หาทางประทังชีวิตไปวันๆ ใครจะมารู้ว่าตอนนี้ครอบครัวของพวกนางหาเงินได้จากสิ่งนี้?
ช่วงนี้คนในครอบครัวของนางไม่มีใครออกไปไหน แม้แต่เหล่าไท่ไท่ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับชาวบ้านคนอื่นๆ ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ครอบครัวของนางไม่น่าจะมีหัวข้ออะไรให้คนอื่นเอาไปพูดคุยกันได้เลย
“กุ้ยหลานนี่นะ เจ้านั่นแหละที่ผิด หาเงินได้แล้วยังจะปิดบังพี่สะใภ้อีก! คนอื่นไม่ได้เงินจากการเผาถ่าน แต่พวกเจ้าได้! ทำไมเจ้าไม่พาเอ้อร์เฉียงไปด้วยล่ะ จะได้ไปช่วยกันเผาถ่าน”
สีหน้าของโจวกุ้ยหลานยิ่งแย่ลงไปอีก นางเพิ่งจะขายถ่านไปแค่ครั้งเดียว ต่อไปยังไม่รู้เลยว่าจะขายได้มากเท่าไหร่ ถ้าเพิ่มคนเข้ามาอีกแล้วต่อไปขายไม่ออก นางจะไม่ยิ่งย่อยยับหรอกหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...