นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 161

สวีฉางหลินเดินมาสองสามก้าว แล้วลวดพับผ้าห่มให้เป็นระเบียบ หนึ่งครอบครัวสามคนเดินไปยังห้องครัว เห็นเหล่าไท่ไท่ตักโจ๊กถั่วรวมสี่ชามวางไว้บนเตาแล้ว

“กินแค่นี้หรือ?”

โจวกุ้ยหลานมองเตาแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วถาม

“คนนั่งอยู่ในบ้านเยอะแยะ ข้ายังจะทำกับข้าวดีอะไรได้อีก? มีให้กินก็พอแล้ว รีบกินเถอะ แล้วเดี๋ยวพวกเจ้าก็ขึ้นเขาไปเองแล้วกัน ไม่อย่างนั้นพวกเขายังจะมาอีก” เหล่าไท่ไท่เอ่ย น้ำเสียงมีความหงุดหงิดเล็กน้อย

นางไม่ได้ทำอะไรตลอดช่วงเช้า เอาแต่นั่งกับพวกเขาในบ้าน หากไม่ใช่เพราะถึงเวลากินข้าว คนพวกนั้นก็คงไม่ไป

“อย่างนั้นต่อไปพวกเราก็ต้องกินแต่โจ๊กนี่น่ะหรือ?”

โจวกุ้ยหลานถามอย่างไม่พอใจ

เหล่าไท่ไท่ปิดฝา เงยหน้าเหลือบมองโจวกุ้ยหลาน “แล้วจะให้ทำอย่างไร? ทำปลาทำเนื้อต่อหน้าพวกเขาหรือ? อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่กลับกันแล้ว กินอยู่ที่บ้านเรานี่แหละ แล้วเชื่อไหมว่าวันต่อไปคนในหมู่บ้านก็จะพากันมานั่งรอกินอยู่บ้านเรา?”

“นั่นก็ไม่ได้ ข้าลำบากหาเงินมาก็เพื่อให้กินอิ่มกินอร่อย แบบนี้ยังจะได้กินอีกหรือ?” โจวกุ้ยหลานฮึดฮัด

โจ๊กถั่วรวมนี่กินสามมื้อยังพอว่า แต่ถ้ากินเป็นเวลานาน นางก็รับไม่ได้เหมือนกัน

ไม่ได้กินข้าวหนึ่งวัน นางก็รู้สึกไม่ได้กินอาหารดีๆ แล้ว

“นังเด็กนี่ กินโจ๊กถั่วรวมสักมื้อแค่นี้จะผิดกับเจ้าหรืออย่างไร? รีบกินเร็ว ไม่อย่างนั้นแม้แต่โจ๊กถั่วรวมก็ไม่มีให้กินแล้ว”

เหล่าไท่ไท่ถลึงตามองโจวกุ้ยหลาน ยกโจ๊กถั่วรวมยื่นให้ตรงหน้าสวีฉางหลิน ยิ้ม “ฉางหลิน ลำบากเจ้ากินโจ๊กถั่วรวมแล้ว คืนนี้เราค่อยทำของอร่อยกินกันนะ”

“ขอบคุณท่านแม่” สวีฉางหลินรับมาด้วยสองมือ แล้วหยิบตะเกียบ

เมื่อเห็นภาพนี้ โจวกุ้ยหลานก็เบะปาก “ก็ไม่รู้สิน่าว่าใครเป็นลูกแท้ๆ ของท่านกันแน่”

เหล่าไท่ไท่ดีกับสวีฉางหลินที่เป็นลูกเขยมากกว่านางอีก ดูสีหน้าเหล่าไท่ไท่ที่มีกับนางสิ ไม่มีดีสักนิด แล้วดูกับฉางหลินสิ มีแต่ยิ้มตาหยี แล้วยังส่งอาหารให้ถึงมือเขาอีก

“รีบกิน!” เหล่าไท่ไท่ถลึงตาใส่นาง

โจวกุ้ยหลานยกโจ๊กถั่วรวมถ้วยหนึ่งยื่นให้เจ้าก้อนน้อย แล้วจึงหยิบของตัวเองมากิน

เมื่อเห็นนางเริ่มกินแล้ว เหล่าไท่ไท่ก็ยกถ้วยของตัวเองมากินด้วย

โจวกุ้ยหลานกินหมดด้วยความรวดเร็ว พอวางถ้วยลงแล้วก็พูดขึ้นอย่างอึดอัด “แบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ! พอเข้าหน้าหนาวพวกเขาก็ว่างงาน เอาแต่มานั่งบ้านเราทั้งวัน อย่างนั้นพวกเรามิต้องกินโจ๊กถั่วรวมตลอดหรือ?”

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าจะเลี่ยงอย่างนี้ต่อไปไม่ได้

เรื่องนี้เหล่าไท่ไท่ก็คิดเหมือนกัน พลันเอ่ย “ไม่ขนาดนั้นหรอก พวกเขาก็มาบ้านเราแค่สิบวันครึ่งเดือน ถ้าเห็นบ้านเราไม่มีเงิน ต่อไปก็ไม่มาแล้ว”

“สิบวันครึ่งเดือน?”

โจวกุ้ยหลานโพล่งปากด้วยความตกใจ

หรือก็หมายถึง นางจะไม่ได้กินข้าวกับเนื้อสิบวันครึ่งเดือน?

“ไม่ได้ ข้าจะกลับขึ้นเขา!” โจวกุ้ยหลานพลันเอ่ยปาก

ก่อนหน้านี้นางยังคิดจะรอเข้าหน้าหนาวแล้วค่อยสร้างบ้าน แล้วจึงไปอยู่บนเขา แต่ดูจากตอนนี้ นางคงต้องกลับไปอยู่ในเรือนไม้ไผ่แล้ว

“ขึ้นเขิ้นอะไร พอหิมะตก เรือนหลังนั้นของเจ้ายังจะอยู่ได้หรือ? ที่แล้วมาแล้งจัด กินอิ่มได้ก็ดีแล้ว ยังจะเรื่องมากอีก!” พอเหล่าไท่ไท่ได้ยินว่าโจวกุ้ยหลานจะกลับไปอยู่บนเขาก็ไม่สบายใจ

ถ้านังเด็กนี่ไป บ้านนี้มิต้องเงียบเหงาหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา