นางหยิบไม้กวาดขึ้นมา ค้อมเอวตะคุ่มๆ เดินไป พอถึงปากประตูบ้านก็ง้างไม้กวาดขึ้น ฟาดลงไปอย่างแรง “เจ้าหัวขโมยมาจ้องบ้านเรา!”
อีกฝ่ายถูกฟาดร้องตกใจเจ็บ แต่กลับเป็นเสียงผู้หญิง
โจวกุ้ยหลานตกใจ ยกไม้กวาดขึ้น เห็นหลิวเซียงเอามือกุมศีรษะขดตัวนั่งอยู่กับพื้น
“เจ้ามาบ้านข้าทำไม?”
“ข้า...ข้า...”
หลิวเซียงยิ่งร้อนรนก็ยิ่งพูดไม่ออก
“รีบกลับบ้านเจ้าไปเสีย ตอนนี้แม่ข้ากำลังโมโหอยู่ ถ้าเจ้าโผล่ไปให้นางเห็น กลัวแต่เจ้าจะถูกตีเท่านั้น”
โจวกุ้ยหลานเอ่ย จากนั้นก็หมุนตัวกลับ
หลิวเซียงเห็นดังนั้นจึงรีบฉุดนาง เอ่ยด้วยความร้อนใจ “เออ เจ้าให้ข้าเข้าบ้านได้ไหม? ข้าไม่มีที่ไปแล้ว เจ้าทำบุญเถอะ ให้ข้าอยู่ด้วยนะ? ขอร้องล่ะ!”
“เจ้ายังกล้ามาอยู่บ้านข้า? เจ้าคิดว่าเจ้าทำเรื่องอย่างนั้นแล้วพวกเรายังกล้าให้เจ้าอยู่ด้วยหรือ?” โจวกุ้ยหลานถลึงตาถามกลับ
นางคนนี้ก็เสียจริง ต้องใจใหญ่ขนาดไหนถึงคิดว่าพวกเราตระกูลโจวพูดง่ายอย่างนั้น?
“ข้าทำงานได้! ข้าทำงานเก่งนะ ทำงานไร่ทำนาได้ อะไรก็ทำได้หมด ขอเพียงพวกเจ้าให้ข้ามีที่ให้หลบฝน ให้ของกินหน่อยก็พอ! ข้าไม่แต่งกับพี่ชายเจ้าแล้ว ข้าจะเป็นวัวเป็นม้าพวกเจ้า!”
ว่าแล้วหลิวเซียงก็คุกเข่ากับโจวกุ้ยหลาน โขกศีรษะไม่หยุด
โจวกุ้ยหลานเลิกคิ้ว นี่มันอะไรกัน!
“ไม่ต้องโขกแล้ว เจ้ารออยู่นี่ ข้าไปถามพวกเขาว่าเรื่องนี้จะทำอย่างไร”
โจวกุ้ยหลานบอกแล้วเดินเข้าบ้านไป ไม่รอให้นางพูดอีก
คิดๆ ดู นางยังไม่ได้ปิดประตูบ้านเลย
ตอนนี้นางตระหนักเหตุผลหนึ่งแล้ว คนที่น่าสงสารย่อมมีจุดที่น่าแค้น ก็อย่างตอนนี้ นางโขกตัวเองไม่ใจอ่อนสักนิด มีแต่จะทำให้รู้สึกรำคาญ แต่ด้วยคุณธรรมแห่งมนุษย์ นางจะคล้องปิดประตูก็ไม่ได้
ดังนั้น พวกเรื่องซาบซึ้งตรึงใจในโทรทัศน์ล้วนไม่เป็นจริง คนพวกนี้มีแต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ส่วนมากคงทำพวกเขารำคาญแล้วถึงช่วยกระมัง?
โจวกุ้ยหลานเบะปาก เข้าบ้าน แล้ววิ่งไปบอกเรื่องนี้กับเหล่าไท่ไท่
พอเหล่าไท่ไท่ได้ฟัง ก็เบิกตากว้าง “อะไรนะ? นางคิดจะทำอะไร? วิ่งมาคุกเข่าบ้านเราทำไมกัน?”
“คงเพราะอาสะใภ้ชุ่ยฮวาไม่ให้นางอยู่ด้วยนั่นแหละ หรือไม่ก็เพราะพวกเขาคิดวิธีใหม่ มาทำตัวน่าสงสารกับพวกเรา” โจวกุ้ยหลานเอ่ย
จะว่านางใจไม้ไส้ระกำก็ดี ว่านางเห็นคนตายไม่ช่วยก็ช่าง นางรู้สึกเอือมกับทุกอย่างที่หลิวเซียงทำ รำคาญด้วย
“ให้นางรีบกลับบ้าน มาคุกเข่าบ้านเราทำไม? จะมาอยู่บ้านเราหรือ?” เหล่าไท่ไท่เอ่ย จากนั้นก็หยิบที่คีบไปไล่คน
โจวกุ้ยหลานรีบตามออกไป แต่พอเดินไปถึงห้องโถงก็เห็นโจวต้าไห่กำลังขวางเหล่าไท่ไท่อยู่ตรงกลางห้อง
“เจ้าว่าอะไรนะ?” เหล่าไท่ไท่สงสัยว่าหูตัวเองมีปัญหา
ดูโจวต้าไห่คล้ายจะตัดสินใจแล้ว เอ่ย “ท่านแม่ ท่านให้นางเข้าบ้านเถอะ ตอนนี้ก็มืดแล้ว จะให้นางไปที่ไหนได้อีก?”
“เจ้าลูกคนนี้จะให้ข้าโมโหตายใช่ไหม? หา? นางเข้าบ้านก็ไม่ไปแล้ว เจ้าต้องแต่งกับนางเป็นเมีย! เจ้าจะแต่งเอาสะใภ้อย่างนี้กลับมาใช่ไหม?”
เหล่าไท่ไท่โมโหจนฟาดที่คีบกับขาโจวต้าไห่
โจวกุ้ยหลานเบือนหน้าไม่มองพวกเขา มือสวีฉางหลินที่กำลังถือตะกร้าสานชะงัก เจ้าก้อนน้อยเบิกตาโพลงมองเรื่องทั้งหมด มึนๆ งงๆ
“กลับห้อง” สวีฉางหลินหันไปสั่งกับเจ้าก้อนน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...