สี่หน้าเหล่าไท่ไท่ดีขึ้นไม่น้อย รีบพูดว่า“นั่งได้แล้วหรือ? อย่างนั้นก็เป็นเรื่องดีจริงๆ! ท่านต้องทำพวกซุปกระดูกให้นางดื่มนะ”
โจวต้าซานก็ดีใจมากเช่นกัน “สะใภ้รองนั่นก็พอใช้ได้ ช่วยทำกับข้าวซักผ้า เพียงแต่นางคิดถึงชิวเซียงเท่านั้น”
“นั่นก็ไม่มีอะไร เอาไว้นางหายดีก็ให้นางไปเยี่ยมชิวเซียงที่ตำบล หรือไม่ก็ให้ชิวเซียงกลับมาเยี่ยมนางหน่อยก็ได้” เหล่าไท่ไท่เอ่ย
ครั้นพูดถึงเรื่องนี้ โจวต้าซานก็ไม่ได้เอ่ยต่อ สีหน้าก็แปลกไปด้วยเล็กน้อย
โจวกุ้ยหลานอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาถึงบ้านเสียก่อน
พวกเหล่าไท่ไท่เดินไปข้างหน้าต่อ ขณะใกล้จะถึงบ้านก็เห็นโจวคายจือยืนรอพวกนางอยู่ที่ปากประตูแล้ว
ครั้นเหล่าไท่ไท่เห็นนาง สีหน้าก็ย่นยู่อีก
โจวคายจือเห็นท่าทางมารดาตนแล้ว ก็ใจสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะพูด
“หลิวเซียง เจ้าช่วยข้าดูแลเสี่ยวเทียนหน่อย” โจวกุ้ยหลานเอ่ย จากนั้นก็เดินหนึ่งก้าว จับแขนเหล่าไท่ไท่เอาไว้
เหล่าไท่ไท่หันหน้า เห็นบุตรสาวคนเล็กของตัวเอง จึงไม่ได้กล่าวอะไรมาก
โจวกุ้ยหลานพาเหล่าไท่ไท่กลับห้องของตน คล้องประตู จากนั้นก็กดให้เหล่าไท่ไท่นั่งอยู่บนเตียงเตา จ้องเหล่าไท่ไท่ด้วยดวงตาคู่ดำขลับ
“ว่ามาเถอะ เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
แม้เหล่าไท่ไท่จะเก่ง แต่ก็เป็นคนตรงไปตรงมา ตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้ว ดังนั้นจึงไม่อดกลั้นอีก
“ก็พี่สาวใหญ่เจ้าไม่เอาไหนนั่นแหละ ไม่รู้ว่าทำไมไม่ได้ความเก่งจากข้าไปสักครึ่ง ไม่รู้บ้านแม่ผัวไปได้ยินมาจากไหนว่าบ้านเราสุขสบายแล้ว ก็เลยให้นางกลับมาเอาธันยพืช บอกว่าถ้าไม่ได้กลับไปร้อยจินก็ให้อยู่ที่นี่นั่นแหละ!”
“ยังมีอีกไหม?” โจวกุ้ยหลานถามต่อ
หากเพียงเท่านั้น เหล่าไท่ไท่ก็คงไม่กระฟัดกระเฟียดตลอดช่วงเช้า
“ลูกสาวนางเป็นไข้สามสี่วันแล้ว แม่สามีของนางก็ไม่ยอมควักเงินมารักษา ยังให้พี่สาวใหญ่เจ้ามาขอเงินจากข้าไปรักษาลูกนางอีก! พี่สาวใหญ่เจ้าก็โง่งม ยังไม่ได้แยกบ้าน เงินที่หามาได้ก็อยู่ในมือแม่สามีหมด ลูกสาวนางไม่สบายก็ยังไม่กล้าอาละวาดกับแม่สามี! จริงๆเลย โมโหจนนอนไม่หลับทั้งคืน!”
เหล่าไท่ไท่โกรธจริงๆ แล้ว ใช้กำปั้นทุบเตียงเตาหนักๆ
โจวกุ้ยหลานได้ยินก็หมดคำพูด นี่มันอะไร เด็กเป็นไข้แล้วยังไม่ให้เงินอีก
พี่สาวใหญ่นางก็ด้วย ไม่เอาไหนจริงๆ
เหล่าไท่ไท่เห็นโจวกุ้ยหลานเงียบจึงอดไม่ได้ “เจ้าดูสิพี่สาวใหญ่เจ้ามีประโยชน์อะไร แต่งไปยี่สิบปีแล้วยังไม่ได้เป็นใหญ่ในบ้านยังพอว่า ลูกตัวเองก็ยังปกป้องไม่ได้ เจ้าดูสินางผอมจนเป็นอย่างไรแล้ว ไม่แน่ว่าบ้านแม่ผัวทรมานนางอย่างไร!”
ยิ่งพูดเหล่าไท่ไท่ก็ยิ่งโมโห
ครั้นนึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน นางก็มีไฟสุมอยู่เต็มอก
“อย่างนั้นเราก็ไปตีที่บ้านนางเลย ดูสิว่าคราวหน้าพวกนางจะกล้าทำอย่างนี้อีกไหม!” โจวกุ้ยหลานเสนอ
ทางนี้ใช่ว่าจะไม่มีพี่น้อง อย่างไรสวีฉางหลินก็ชกต่อยเก่ง ทางบ้านแม่สามียังมีคนที่ตีเก่งเหมือนสวีฉางหลินหรือ?
“ทำไมจะไม่ตี? สองปีก่อนที่แต่งไป พี่สาวใหญ่เจ้าก็เกือบถูกแม่สามีของนางทรมานตาย ข้าเคยไปตีแล้ว ยัยแก่นั่นถูกข้าจัดการจนไม่กล้าส่งเสียง พอข้ากลับมา พี่สาวเจ้าดันไปมอบของขวัญขอขมาให้แม่สามีอีก บอกว่าทำให้นางต้องรับเคราะห์! แล้วพวกเราจะไปตีอย่างไร พี่เจ้าใจเสาะ พวกเราเก่งแล้วมีประโยชน์อะไร?”
ครั้นเอ่ยถึงเรื่องราวในปีนั้น เหล่าไท่ไท่ก็เดือดจัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...