ผู้หญิงคนนั้นได้ยินก็นำมือขึ้นมาปาดน้ำตาทันที “ขาย ! วันนี้ข้ามาก็เพื่อขายแกะ เถ้าแก่หญิง หากท่านต้องการซื้อ ข้าจะขายแกะสองตัวนี้ในราคาสี่ตำลึง !”
สี่ตำลึง ถือว่าไม่มากจนเกินไป
โจวกุ้ยหลานพยักหน้า นางหยิบเงินตำลึงออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้ผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นรีบรับไว้ในทันที จากนั้นก็นำสองร้อยอีแปะออกมา วิ่งไปหาชายหนึ่งคนในหมู่ของคนที่นอนกองอยู่บนพื้น นำเงินวางไว้ด้านข้าง จากนั้นก็รีบวิ่งหนีไป
โจวกุ้ยหลานเห็นสวีฉางหลินยังคงเตะชายผู้นั้นอยู่ นางตะโกนไปบอกเขาว่า “มีอีกหลายอย่างที่พวกเรายังไม่ได้ซื้อ รีบไปกันเถอะ”
สวีฉางหลินที่กำลังเตะอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงของภรรยาก็รีบหยุดมือทันที ยกมือขึ้น จัดเสื้อผ้าที่ยับของเขา จากนั้นหันหลังมาเห็นโจวกุ้ยหลานถือเชือกคล้องคอแกะสองตัวนั้นไว้ และโบกมือให้เขา
สิ่งที่น้องนางและผู้หญิงคนเมื่อสักครู่พูดคุยกันเขาเองก็ได้ยิน เข้าใจว่าลูกแกะสองตัวนี้เป็นของครอบครัวเขาแล้ว
เดินเข้ามา จากนั้นยื่นมือมานำเชือกสองเส้นในมือของน้องนาง รอน้องนางเก็บสัมภาระทั้งหมด พวกเขาก็เริ่มเดินต่อไป
ในช่วงเวลาอันสั้นก็สามารถซื้อทุกสิ่งที่ตนเองอยากได้ โจวกุ้ยหลานรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้เลย
ผู้คนซึ่งมุงดูอยู่โดยรอบ มีสองสามคนวิ่งเข้ามาด้วยความกระตือรือร้น ล้อมสวีฉางหลินและโจวกุ้ยหลานเอาไว้ แนะนำสินค้าที่ตนเองมีให้กับพวกเขา
“เถ้าแก่ทั้งสอง ต้องการเมล็ดพันธุ์หรือไม่ ? ข้ามีเมล็ดพันธุ์อยู่ทุกชนิด !”
“ต้องการเมล็ดแตงโมหรือไม่ ? แตงกวา แตงหอมหรือแตงหวาน ทุกอย่างมีหมด !”
“อ๊ะ ตรงข้ามีแพนเค้กที่ทำเองกับมือ สนใจซื้อหรือไม่ ?”
โจวกุ้ยหลานถูกล้อมและตั้งคำถาม คนหนึ่งจบอีกคนหนึ่งต่อ แต่คนเหล่านี้ไม่ใช่คนชั่ว จะให้แสดงท่าทีหยาบคายเหมือนที่ทำออกไปกับชายกลุ่มเมื่อสักครู่ไม่ได้ ทำได้เพียงส่ายหน้าและบอกว่าตนเองไม่ต้องการ
กลุ่มชายซึ่งถูกโจมตีเห็นว่าสวีฉางหลินและโจวกุ้ยหลานไม่ได้มองมาทางพวกเขา พวกเขาจึงรีบวิ่งออกไป พยุงร่างพี่น้องที่ยังลุกไม่ขึ้นและวิ่งหนีออกไป
สวีฉางหลินและโจวกุ้ยหลานถูกล้อมไว้อย่างนั้นอยู่นานกว่าจะออกมาได้ ในตอนที่พวกเขาออกมามันก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
นึกได้ว่ามีนัดทานอาหารกับเถ้าแก่โจว ทั้งสองเพิ่มความเร็ว รีบไปที่ร้านขายของชำของเถ้าแก่โจว
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงประตูทางเข้าร้านขายของชำก็เห็นเถ้าแก่โจวยืนอยู่หน้าประตูและกำลังมองมาทางด้านนี้
เห็นพวกเขากลับมาแล้ว เถ้าแก่โจวต้องรับอย่างอบอุ่น หลังจากช่วยพวกเขานำสิ่งของไปวางก็พาพวกเขาไปยังด้านบนของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง
คนกลุ่มหนึ่งเดินมาถึงทางเข้าของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง เห็นว่าหน้าประตูของโรงเตี๊ยมเทียนเซียงมีคนรออยู่มากมาย ไม่มีที่วางในร้านแม้แต่ที่เดียว โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า “ธุรกิจของร้านนี้ดีมาก เถ้าแก่โจว ดูเหมือนว่ามื้อนี้พวกเราคงไม่ได้กินแล้ว”
“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าได้มาจองที่นั่งพิเศษไว้ตั้งแต่แรกแล้ว” เถ้าแก่โจวพูดออกมาพร้อมกับลูบเคราของเขา เสียงนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
“เถ้าแก่โจว เจ้าช่างคิดได้ละเอียดถี่ถ้วนเหลือเกิน” โจวกุ้ยหลานยิ้มพร้อมกล่าวคำชมเชย
ทุกคนต่างชอบฟังสิ่งดี ๆ แม้แต่เถ้าแก่โจวก็ไม่มีข้อยกเว้น
เขาหัวเราะอย่างมีความสุข คุยกับโจวกุ้ยหลาน พาทั้งสองเข้ามายังด้านในของโรงเตี๊ยมเทียนเซียง ไป๋ยี่เซวียนยืนอยู่ตรงกลาง กำลังพูดคุยกับแขก
เมื่อหันมาเห็นพวกเขาเข้ามาก็ทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทันที คารวะแบบจีนให้คนสองสามคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้าเป็นลูกค้าที่นาน ๆ มาครั้ง แต่ร้านของเราเต็มแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเจ้าได้จองเอาไว้ก่อนหรือเปล่า ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...