“หากมีโอกาสเหมาะสมแน่นอนข้าต้องทำธุรกิจกับเขา และหากมันเหมาะสมที่จะทำธุรกิจกับเถ้าแก่โจว แน่นอนว่าข้าเองก็ต้องทำธุรกิจกับเถ้าแก่โจวต่อไป” โจวกุ้ยหลานแสดงทัศนคติของตนเองออกมาก่อนที่เขาจะพูดจบ
เถ้าแก่โจวได้ยินคำพูดของโจวกุ้ยหลานก็รู้สึกโล่งใจ ยังดี โจวกุ้ยหลานยังคงทำธุรกิจกับเขาต่อไป
คิดไปคิดมา เขาเหลือตามองสวีฉางหลิน สุดท้ายเขาก็เลือดที่จะพูดคุยสัพเพเหระกับโจวกุ้ยหลานต่อไป
สองสามีภรรยาคู่นี้ไม่ธรรมดา แม้ว่าเขาจะเคยสัมผัสกับสวีฉางหลินในช่วงฤดูหนาว ในตอนนั้นเขาได้ใกล้ชิดกับเขา ทำให้เขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เหมือนมีเปลือกนอกเป็นน้ำแข็ง ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้
สวีฉางหลินเหลือบตามองเถ้าแก่โจว จากนั้นก็เก็บสายตากลับไป
เถ้าแก่โจวผู้นี้อายุมากแล้ว หน้าตาก็ไม่ดี ผมก็หงอก และไร้ซึ่งเรี่ยวแรง น้องนางไม่มีทางชอบเขาอย่างแน่นอน
คิดเช่นนี้เขาก็ปล่อยน้องนางทำตามใจตนเอง
พนักงานในโรงเตี๊ยมไป่เว่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นพวกของโจวกุ้ยหลานเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมเทียนเซียง เขาวิ่งเข้าไปในโรงเตี๊ยม วิ่งไปข้าง ๆ เหล่าจ้างฝางและกระซิบออกมาว่า “เหล่าจ้างฝาง เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อสักครู่ข้าเห็นใคร ?”
เหล่าจ้างฝางหยิบไม้ปัดฝุ่นทำความสะอาดบนจุดชำระเงิน ตอบกลับโดยไม่เงยหน้า “เห็นใครก็ไม่มีประโยชน์ โรงเตี๊ยมแห่งนี้ไม่มีแขกสักคน เจ้ารีบนำผ้าไปเช็ดโต๊ะให้สะอาดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นหากเถ้าแก่ออกมาเห็นเข้า เจ้าจะถูกดุอีก”
“จะทำความสะอาดไปเพื่ออะไร ? ทำไปก็ไม่มีแขกสักคน !” พนักงานคนนั้นตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ดึงเหล่าจ้างฝางอีกครั้ง “เมื่อสักครู่ข้าเห็นคนในครอบครัวของคุณนายใหม่ของพวกเราเข้าไปในโรงเตี๊ยมเทียนเซียง !”
เหล่าจ้างฝางพูดออกมาโดยไม่ใส่ใจ “เจ้าจำครอบครัวของคุณนายใหม่ได้ด้วยงั้นหรือ ?”
“งานแต่งงานใหม่ของเถ้าแก่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ข้าก็ไปมาไม่ใช่หรือไง ? แม้ข้าจะไม่รู้จักคนนี้ แต่เห็นได้ชัดว่านางเหมือนคุณนายคนใหม่ราวกับแกะสลักออกมา ! อีกอย่าง ผู้ที่พานางเข้าไปด้านในก็คือเถ้าแก่โจว !”
“เถ้าแก่โจว ? เถ้าแก่โจวไหน ?” เหล่าจ้างฝางถามออกมาด้วยความตกใจ
พนักงานทำตัวลึกลับ “ยังจะมีเถ้าแก่โจวไหนอีก ก็เถ้าแก่โจวที่เปิดร้านขายของชำจากไทยไง !”
ได้ยินเช่นนี้ไป๋ยี่เซวียนเหล่าจ้างฝางตกใจยิ่งกว่าเดิม ลากพนักงานเข้ามาในห้องเพื่อไปหาเถ้าแก่เฉียน เล่าเรื่องนี้ออกมาให้เขาฟัง
เถ้าแก่เฉียนได้ยินเช่นนั้นก็เดาได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นคือโจวกุ้ยหลาน
เขาตบลูกวอลนัทสองลูกในมือลงบนโต๊ะ พูดออกมาด้วยความโกรธ “เป็นญาติกันแท้ๆ นางไม่ขายคาร์บอนให้ข้าก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้กลับไปกินอาหารในโรงเตี๊ยมเทียนเซียงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ?”
“ใช่แล้วเถ้าแก่ ท่านต้องไปคุยกับนางให้ดีๆ !” พนักงานรีบพูดพร่ำออกมา
ความโกรธเกิดขึ้นในใจของเถ้าแก่เฉียนอยู่แล้ว เมื่อถูกกระตุ้นเช่นนี้ทำให้เขานั่งไม่อยู่ เขาลุกขึ้นและเดินไปยังสวนหลังบ้านเพื่อไปหาโจวชิวเซียง
ตอนนี้โจวชิวเซียงเพิ่งจะกินอิ่มและนอนหลับอยู่ในห้องตนเอง ถูกปลุกให้ตื่นอย่างกะทันหัน นางรู้สึกโกรธ แต่เมื่อเห็นชายที่มาหาตนเอง ความโกรธของนางก็ไหลกลับเข้าไปในท้อง ไม่กล้าปล่อยมันออกมา
“ลูกชายของข้ากำลังนอน ทำไมเจ้าต้องตะโกนเรียกข้าด้วย ?” โจวชิวเซียงปากมุ่น บ่นพึมพำออกมา
“เจ้ายังมีหน้ามานอนอยู่อีกหรือ ลูกพี่ลูกน้องตัวดีของเจ้าขายคาร์บอนให้ร้านขายของชำคายไทยไปแล้ว แถมตอนนี้ยังไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมเทียนเซียง !” เถ้าแก่เฉียนทุบโต๊ะด้วยความโกรธและพูดออกมา
คิดแล้วมันก็โมโห !
“อะไรนะ ? ข้าจะไปหานางเดี๋ยวนี้ !” ตอนนี้โจวชิวเซียงเองก็โกรธเช่นกัน ยื่นมือออกไปหยิบเสื้อที่แขวนไว้มาสวม
เมื่อเห็นภรรยาคนใหม่ยืนอยู่ฝั่งเขา เถ้าแก่เฉียนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก พูดออกมาว่า “เจ้ารีบใช้โอกาสนี้ในการนำคาร์บอนที่ขายไปกลับคืนมา ร้านขายของชำของพวกเรากำลังจะเปิด เมื่อเปิดแล้วธุรกิจร้านขายของชำคายไทยนั่นก็คงไม่เหลือซาก !”
ร้านขายของชำนั้นกลัวว่าจะมีของไม่ครบ เนื่องจากส่วนใหญ่ล้วนต้องการเข้าร้านเดียวแล้วซื้อทุกอย่างให้จบ หลังจากนั้นก็จะเข้าร้านเดิมตลอด ตอนแรกก็แค่มาซื้อคาร์บอน หลังจากนั้นไม่ว่าจะซื้อเกลือหรือน้ำมันก็จะมาที่ร้านเดิม ทำให้ธุรกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ
โจวชิวเซียงสวมเสื้อผ้า นั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หวีผมของนาง นำกิ๊บติดผมสีทองสามอันติดบนหัวของนาง จากนั้นตอบกลับผู้ชายของนางว่า “เหล่าเฉียน ข้าจะต้องช่วยเจ้าแน่ นางผู้หญิงเลวคนนั้นยังเป็นหนี้บุญคุณกับข้าอยู่ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...