โจวชิวเซียงโกรธจนแทบระเบิด ทั้งไม่อยากจะคุยกับคนพวกนี้อีกแล้ว ยกมือขึ้นได้ก็ฟาดเข้าใส่มือของไป่ยี่เซวียนจัง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด "ข้ามาตามหาพี่สาวของข้า เจ้าจะมารั้งข้าไว้ทำไม?"
ไป๋ยี่เซวียนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสองคนพี่น้องคู่นี้สักเท่าไร แต่เมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างโจวชิวเซียงกับโจวกุ้ยหลานแล้ว ในใจก็รู้สึกว่าสองคนนี้แตกต่างกันมากจริง ๆ
เมื่อเห็นเขาหยุดชะงัก โจวชิวเซียงก็เดินเบียดผ่านเขาไป แล้วรีบตรงดิ่งขึ้นชั้นบนไปทันที
เมื่อเห็นนางบุกขึ้นไปเองแล้ว ไป๋ยี่เซวียนก็รีบร้อนตามขึ้นไปด้วย
"โจวกุ้ยหลาน! โจวกุ้ยหลานเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!" ระหว่างที่โจวชิวเซียงเดินไปพลาง มือก็ผลักเปิดประตูของแต่ละห้องไปพลาง มองหาไปทีละห้อง ๆ
ไป๋ยี่เซวียนที่อยู่ข้างหลังคิดจะเข้าไปดึงนางไว้ นางจึงร้องตะโกนลงไปชั้นล่างเสียงดังลั่น “ข้าถูกลวนลาม! เถ้าแก่ไป๋ลวนลามข้า!”
จะอย่างไร ไป๋ยี่เซวียนคนนี้ก็เป็นคนที่ต้องรักษาหน้าตาชื่อเสียงอันดีไว้ จึงทำได้แค่ต้องถอนมือกลับมา แล้วพูดจาเกลี้ยกล่อมจากด้านหลังว่า : "พี่สะใภ้ เจ้าทำแบบนี้จะไม่ไปรบกวนแขกคนอื่น ๆ เข้าหรอกหรือ?"
โจวชิวเซียงแค่นเสียงเย้ยหยันเย็นชาในใจ กิจการที่นี่ของเจ้าไม่มีเสียได้นั่นแหล่ะยิ่งดี นางไม่สนใจไป๋ยี่เซวียนโดยสิ้นเชิง ยังคงตะโกนร้องเรียกต่อไปไม่หยุด
“โจวกุ้ยหลาน เจ้ารีบโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
โจวกุ้ยหลานที่อยู่ในห้อง แทบอยากจะเอาหัวมุดฝังเข้าไปในโต๊ะเลยทีเดียว
โจวชิวเซียงอยากจะทำตัวขายหน้าชาวบ้านก็แล้วไปเถอะ ทำไมจะต้องมาลากนางให้พลอยขายหน้าไปด้วยล่ะเนี่ย?
ถ้ายังแหกปากตะโกนต่อไปแบบนี้ คนทั้งโรงเตี๊ยมคงได้ยินกันหมดแน่
โจวกุ้ยหลานลุกขึ้นด้วยความโกรธ เดินไปที่ประตู เปิดประตูห้องแล้วปรายตามองคนที่อยู่ข้างนอก
“จะเรียกอะไรนักหนา?”
เมื่อเห็นว่าโจวกุ้ยหลานออกมาแล้ว โจวชิวเซียงพลันบังเกิดความรู้สึกว่าตัวเองชนะแล้ว ยกชายกระโปรงพลางเดินเชิดหน้าชูคอเข้าไปหาทันที
“ทำไม? ซ่อนไม่ไหวจนต้องโผล่หัวออกมาแล้วล่ะสิ?” โจวชิวเซียงเดินไปพลางปากก็ถามไปด้วย
ไป๋ยี่เซวียนที่อยู่ด้านหลังเห็นสีหน้าของโจวกุ้ยหลาน ย่อมเข้าใจได้เป็นธรรมดาว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจวกุ้ยหลานกับโจวชิวเซียงนั้นไม่ค่อยจะดี จึงรีบตามขึ้นไป ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานมุมปากกระตุก “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเถ้าแก่ไป๋หรอก ขอเถ้าแก่ไป๋อย่าได้เก็บมาใส่ใจเลยนะ”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวกับเขา? ไม่ใช่ว่าเจ้ามากินข้าวที่โรงเตี๊ยมของเขาหรอกรึ?” โจวชิวเซียงแค่นเสียงเย็นชา
โจวกุ้ยหลานมองดูบรรดาคนที่ออกมาจากห้องเพื่อชมดูเรื่องสนุก รู้สึกแค่ว่าหน้าของตัวเองแทบจะถูกโจวชิวเซียงขายออกไปจนหมดไม่มีเหลือแล้ว
"เจ้ามีธุระอะไร?"
“เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งพ่อของข้า ทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมของบ้านเรา กลับเผ่นมากินที่โรงเตี๊ยมเทียนเซียง เจ้าคิดว่าข้าควรจะมีธุระหรือไม่ล่ะ?”
โจวชิวเซียงพูดไป ๆ สองมือก็เลื่อนขึ้นมาเท้าเอวโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว
ที่แท้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้ โจวกุ้ยหลานยกยิ้มเย้ยหยัน “ถ้าข้าไปกินข้าวที่โรงเตี๊ยมเจ้า ไม่ต้องจ่ายเงินได้หรือไม่ล่ะ?”
“แบบนั้นมันได้ซะที่ไหนล่ะ? กินข้าวคนอื่นแล้วทำไมจะไม่ต้องจ่ายเงิน?” โจวชิวเซียงปรายตามองโจวกุ้ยหลานด้วยสายตาที่ใช้มองคนโง่เง่าปัญญาอ่อน
คราวนี้โจวกุ้ยหลานควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ได้แล้วจริง ๆ: "ในเมื่อเจ้าให้ข้าจ่ายเงิน เช่นนั้นข้าจะไปกินที่ไหน ไม่ใช่ข้าที่เป็นคนจ่ายเงินตัดสินใจ แต่เป็นเจ้าซึ่งเป็นคนที่อยากได้เงินจากกระเป๋าข้าเป็นตัดสินใจว่างั้น?"
“เจ้า!” โจวชิวเซียงโกรธจนใบหน้าที่เดิมทีทาแป้งจนแดงเถือกอยู่แล้ว ยิ่งแดงเถือกขึ้นไปอีก
“ถ้าเจ้ามาเพราะเรื่องนี้ล่ะก็ รีบกลับไปจะดีกว่า ข้ายังหิวอยู่ ไม่มีเวลามาใส่ใจเจ้าหรอกนะ” โจวกุ้ยหลานพูดพลาง เอื้อมมือออกไปเตรียมจะปิดประตู
โจวชิวเซียงรีบยื่นมือขึ้นไปค้ำที่บานประตูไว้ทันที โจวกุ้ยหลานกลัวว่าพอถึงเวลานางจะมาหาเรื่องตัวเองเข้าอีก จึงรีบปล่อยมือทันที
เมื่อเห็นดังนั้น โจวชิวเซียงก็รีบผลักประตูเปิดออกทันที พูดอย่างดุดันว่า: “โจวกุ้ยหลาน ข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้านะ เจ้ามีเงินแต่กลับไม่ยอมให้ข้าได้ส่วนแบ่งบ้างเลยรึ? ไม่ช่วยเหลือญาติตัวเอง แต่กลับไปช่วยเหลือคนนอกไม่หยุดหย่อน นี่เจ้าตั้งใจจะเป็นศัตรูกับข้าใช่หรือไม่ ?"
“เงินของข้า ข้าย่อมตัดสินใจเองได้ ไม่มีอะไรอื่นแล้วก็รีบ ๆ กลับไปซะ!” โจวกุ้ยหลานไม่คิดอยากจะพูดคุยอะไรกับนางอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...