“ข้าได้ยินมาว่าโจวกุ้ยหลานเป็นคนพูดเรื่องนี้ขึ้นมา! พวกเจ้าถูกนางหลอกกันหมดแล้ว!” ผู้หญิงคนนั้นตวาด
คนอื่นๆ ยกมือขึ้นเช่นกัน “จริงด้วย! ทั้งหมดเป็นเพราะโจวกุ้ยหลานพูดจาเหลวไหล! พวกเจ้าเผาคนในครอบครัวพวกข้าแล้วยังคิดจะอยู่ดีกินดีในบ้านหลังนี้ต่อไปอีกหรือ”
ว่าแล้วก็คิดจะบุกเข้ามา
สีหน้าของคนที่อยู่ในบ้านซีดเผือด ไม่มีใครเคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน!
ที่ด้านนอกนั่นมีคนอยู่อย่างน้อยสองสามร้อยคน สีหน้าแต่ละคนล้วนโกรธเกรี้ยว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจมาก
หวังโหยวเกินกับผู้อาวุโสสองสามคนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้คงที่ แต่คนเหล่านี้กลับก้าวขาเข้ามาในเรือนแห่งนี้ ถ้าเข้ามาได้จริง เกรงว่าคงจะรักษาเป็ดไก่ในบ้านไว้ไม่ได้เป็นแน่
โจวกุ้ยหลานลูบหน้าผากของตน นางดึงหวังหยู่ชุนที่อยู่ข้างๆ และพูดบางอย่างกับนาง หวังหยู่ชุนได้ยินแล้วส่ายหน้าทันที แต่เมื่อเห็นว่าโจวกุ้ยหลานยืนกราน นางจึงดึงชายเสื้อของตนเองเพื่อให้กำลังใจตัวเอง
“พวกข้าต้องการคนหนึ่งร้อยคนคอยเฝ้าบ้าน จากนั้นจะแจกไก่ให้คนละหนึ่งตัว!”
ทันทีที่ตะโกนออกไป บรรยากาศภายนอกก็ชะงักไปชั่วขณะ
“อย่าไปฟังนาง พวกเราบุกเข้าไปฆ่าไก่กินต้องได้เยอะกว่าแน่! ในบ้านนางน่าจะมีไก่เป็นหมื่นตัว!” ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าสุดตะโกนอย่างโกรธจัด
ราวกับกำลังรู้สึกได้ถึงอันตราย ไก่ในเล้าจึงส่งเสียงระงม แม้แต่หมูก็ส่งเสียงอู้อี้ออกมา
“เก้าสิบเก้าคน” โจวกุ้ยหลานกล่าว
คนที่อยู่ข้างนอกรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของโจวกุ้ยหลาน
ถ้าบุกเข้ามาฆ่าไก่จริงๆ ต่อไปก็จะเชิดหน้าชูตาอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้อีก
“พวกเจ้าอย่าไปฟังนาง! ไก่ตั้งมากมายขนาดนั้นแต่นางไม่ยอมให้พวกเรากิน ได้แต่มองพวกเราอดตาย!” ผู้หญิงคนนั้นยังคงตะโกน
โจวกุ้ยหลานหรี่ตา “ตอนนี้ต้องการอีกแค่เก้าสิบแปดคน”
จากนั้นจึงหันไปพูดกับหวังโหยวเกินที่อยู่ข้างๆ ทันทีว่า “ท่านอา ถ้ามีคนมาชิงไก่ของข้า หลังจากน้ำลดเมื่อไรข้าจะไปรายงานทางการ ถึงตอนนั้นข้าจะให้พวกเขาชดใช้เป็นที่ดินให้ได้ใช่หรือไม่”
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว แล้วถ้ามีคนตายก็จะต้องติดคุก” หวังโหยวเกินเข้าใจความหมายของโจวกุ้ยหลานและพยักหน้า
ชายชราที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าเช่นกัน
ถ้าปล่อยให้พวกนั้นลงมือตอนนี้ ต่อไปจะต้องมีคนแย่งชิงอาหารกันเองแน่นอน ถึงตอนนั้นคนตายอาจจะมีเยอะยิ่งกว่าตอนนี้
หลังจากได้รับการยืนยันแน่ชัด หวังหยู่ชุนจึงค่อยรู้สึกลำพองใจ “ได้ยินแล้วใช่หรือไม่ ถ้าพวกเจ้ากล้าฆ่าเป็ดไก่ของกุ้ยหลาน พวกเจ้าจะต้องชดใช้เป็นที่ดินของพวกเจ้า!”
เกิดความโกลาหลในกลุ่มคนเหล่านั้นอีกครั้ง ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
สตรีผู้นั้นตะโกนโวยวายขึ้นมาอีก และโจวกุ้ยหลานก็ตะโกนมาอีกประโยคว่า “ตอนนี้ต้องการอีกแค่เก้าสิบเจ็ดคน”
พอได้ยินแบบนี้ คนเหล่านั้นก็ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นอีกต่อไป พวกเขารีบยกมือแล้วตะโกนขอเป็นคนเฝ้าบ้าน พอคนหนึ่งยก คนอื่นๆ ก็ทยอยยกมือตาม
เมื่อโจวกุ้ยหลานที่อยู่ด้านนอกได้ยินแบบนี้จึงดึงเสื้อของโจวคายจือ ขอให้นางช่วยเรียกหลิวเกามาช่วยลงทะเบียน
จากนั้นนางกับหวังโหยวเกินกับผู้อาวุโสจึงกลับเข้าไปด้านใน นั่งลงในห้องโถงและเริ่มหารือกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...