“แค่ทุกคนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”โจวกุ้ยหลานออกความคิดเห็น
เรื่องเหล่านี้นางคิดไว้ตั้งนานแล้ว จึงได้รีบขายเป็ดไก่ที่เลี้ยงเอาไว้ทั้งหมดไปก่อน คนเมื่อหิวโหยถึงขีดสุด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถทำได้ ก่อนหน้านี้ในบ้านของทุกคนต่างก็มีเสบียงอาหาร เหลืออยู่บ้าง เพียงแต่ถูกน้ำท่วม หรือบางบ้านก็ขึ้นไปล่าสัตว์บนภูเขา ก็พอจะประทังชีวิตไปได้บ้าง ยังมีผักป่าอีก
แต่ถ้าหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป รอให้อาหารบนภูเขาหมดเกลี้ยงแล้ว เช่นนั้นวันเวลาต่อจากนั้นจะอันตรายยิ่งกว่า
คิดถึงตรงนี้ โจวกุ้ยหลานหันไปมองโจวต้าไห่ “ท่านพี่ ท่านถูกจับเพราะไปขอเข้าพบนายอำเภอหรือ ในคุกยังมีคนของหมู่บ้านอื่นอีกหรือไม่”
“พอพวกเราได้พบกับนายอำเภอ และเพิ่งจะรายงานไปว่าเราประสบภัยพิบัติก็ถูกจับตัว ในคุกนั้นยังมีคนที่เจอเหมือนกับพวกเราไม่น้อย บอกว่าพอเจอนายอำเภอก็ถูกจับตัวเข้าคุก ตอนนี้ก็มีแค่ข้ากับฟู่กุ้ยที่ออกมาได้เท่านั้น”โจวต้าไห่พูด
เป็นอย่างที่คิด……
โจวกุ้ยหลานขมวดคิ้ว “เห็นทีคลังเสบียงอาหาร ในอำเภอคงจะไม่มีเสบียงอาหาร แล้ว”
“จะเป็นไปได้อย่างไร”
“เพราะอะไร”
ทุกคนต่างก็รู้สึกตกใจมาก
โจวกุ้ยหลานใช้มือเท้าคางเอาไว้ พูดสิ่งที่ตนเองคิดออกมา “ถ้าหากที่ทำการปกครองอำเภอไม่มีเสบียงอาหาร แล้ว พวกท่านยังไปรายงานเรื่องภัยพิบัติอีก เช่นนั้นนายอำเภอก็คงต้องเปิดคลังเพื่อแจกจ่ายเสบียงอาหาร อย่างเหมาะสม แต่เขาไม่ได้ทำ ไม่เพียงแต่ไม่ทำ ยังขังพวกท่านไว้อีกด้วย ก็เพื่อที่จะให้คนในหมู่บ้านมีความหวัง และไม่รู้ว่าพวกท่านไปถึงไหนกันแน่”
“แล้วถ้าหากมีคนไปหาอีกเล่า”เหล่าไท่ไท่ถาม
โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า “ลูกชายของนายอำเภอตกม้าขาหักมิใช่หรือ ใครไปหา คนในหมู่บ้านเหล่านั้นก็จะถูกกล่าวหาว่าคนที่ไปขอความช่วยเหลือทำให้ลูกชายเขาขาหัก เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครยังจะกล้าสืบสาวเอาเรื่องได้ คนมีเงินก็ไปไถ่ออกมา คนไม่มีเงินก็คงได้แต่วิ่งหนี เพราะเกรงจะซวยไปด้วย”
เรื่องนี้ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกประหลาดใจอยู่ แต่ตอนนี้เมื่อเอามาปะติดปะต่อกันแล้ว ก็นับว่าเข้าใจแล้ว
“แต่ขังเอาไว้เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยให้คนหิวโหย อย่างไรก็ต้องก่อความวุ่นวายขึ้นมา”โจวคายจืออดไม่ได้ที่พูดออกมา
โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า “สามารถถ่วงเวลาได้แค่ไหนก็แค่นั้น คิดว่านายอำเภอคงจะรายงานเรื่องภัยพิบัติไปตั้งนานแล้ว แค่ยื้อเวลาให้ทางราชสำนักส่งเสบียงอาหารมาให้ เช่นนั้นทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ส่วนตอนนี้ คนบ้านนอกยังสามารถหากินตามป่าตามแม่น้ำได้ ส่วนคนในตำบล ก็ยังพอหาซื้อเสบียงอาหาร ได้จากร้านค้าที่ขายอาหารอยู่บ้าง คงยังไม่มีใครอดตาย”
“แล้วเสบียงอาหาร เล่า ทุกปีพวกเราต้องส่งเสบียงอาหาร ให้ไม่น้อยแล้วมันหายไปไหนหมด”ต้าไห่อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า จากนั้นก็หันไปมองเขา “ท่านคิดว่าไงเล่า”
แค่คำพูดเดียว ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างนิ่งเงียบกันไปหมด
“ผักและผลไม้ป่าของพวกเราตอนนี้ก็ถูกเก็บไปจนเกลี้ยงแล้ว คงทนต่อไปได้อีกไม่นาน ถ้าขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เช่นนั้นก็คงต้องเข้าไปในป่าลึกแล้ว ”โจวต้าซานพูด ใช้ปล้องยาสูบเคาะที่โต๊ะอยู่หลายที เคาะเอาเศษขี้เถ้าในปล้องออกมา
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ บรรยากาศก็เริ่มหนักอึ้งอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้นอกหมู่บ้านมีผู้ลี้ภัยอยู่ไม่น้อย พวกเขาไม่ให้เข้ามาในหมู่บ้าน บางส่วนได้จากไปแล้ว แต่มีบางส่วนอยากจะเข้าไปหากินในป่าลึก แต่แทบจะไม่มีใครกลับออกมาเลย ในป่าลึกมีอะไรอยู่ เกรงว่าคงมีแต่สวีฉางหลินเท่านั้นที่รู้
“ทุกคนอย่าเศร้าไปเลย นายอำเภอคงจะรายงานราชสำนักตั้งนานแล้ว ราชสำนักต้องส่งเสบียงอาหาร มาให้ในไม่ช้าแน่ ถึงตอนนั้นทุกคนจะได้รับความช่วยเหลือ”โจวกุ้ยหลานพยายามฉีกยิ้ม ปลอบใจทุกคน
ทุกคนพยายามทำตัวให้สดชื่น แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“เฮ้อ กุ้ยหลาน เสบียงอาหาร ของพวกเราก็ไม่มีแล้ว ต่อจากนี้จะทำอย่างไรดี”โจวคายจือนึกถึงเสบียงอาหาร หลายถุงในห้องครัวที่ถูกปล้นไป ในใจก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของคนอื่นๆก็ดูไม่ดีนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...